กรุงเทพฯ--7 ธ.ค.--ธนาคารทหารไทย
ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) หรือ TMB แจ้งว่า ธนาคารมีความยินดีที่สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ ฟิทช์ เรทติ้ง (Fitch Ratings) ได้ปรับเพิ่มแนวโน้มอันดับความน่าเชื่อถือของธนาคาร เป็น มีเสถียรภาพ (Stable) จากเดิมซึ่งเป็นลบ และคงอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาว ที่ระดับ “BBB-
ฟิทช์ เรทติ้ง ได้ระบุในรายงานว่า การปรับแนวโน้มอันดับความน่าเชื่อถือของธนาคารที่เพิ่มขึ้นเป็นผลมาจากการปรับตัวที่ดีขึ้นของความสามารถในการทำกำไร และคุณภาพของสินเชื่อ ส่วนการคงอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินและอันดับเครดิตอื่นๆ ของ TMB สะท้อนถึงเครือข่ายการดำเนินงานที่มีขนาดค่อนข้างใหญ่และระดับเงินกองทุนที่แข็งแกร่งของธนาคาร ทั้งนี้ ฟิทช์ เรทติ้ง ยังคาดการณ์ว่าธนาคารจะยังคงมีผลการดำเนินงานที่ปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง จากการที่ได้มีการปรับปรุงโครงสร้างการบริหารความเสี่ยง กอรปกับสภาวะเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น
นอกจากนี้ ฟิทช์ เรทติ้ง ยังได้ระบุในรายงานอีกว่า ด้วยสภาวะเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น คุณภาพของสินเชื่อของธนาคารน่าจะดีขึ้นอีกในปี 2554 ซึ่งจะช่วยทำให้กำไรของธนาคารปรับตัวเพิ่มขึ้น
สำหรับ 9 เดือนแรกของปี 2553 ธนาคารมีกำไรสุทธิที่ดีขึ้นอย่างมากจำนวน 2,370 ล้านบาท เพิ่มขึ้นคิดเป็นร้อยละ 74 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว ในขณะเดียวกัน สินเชื่อด้อยคุณภาพ (Non-performing loans: NPL) ก็ลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยงบการเงินเฉพาะของธนาคาร (bank only) ณ สิ้นไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ มีสินเชื่อด้อยคุณภาพ ลดลงจาก 50,719 ล้านบาทเป็น 38,691 ล้านบาท หรือ คิดเป็นร้อยละ 9.5 ของสินเชื่อทั้งหมด ทั้งนี้ ธนาคารคาดว่า สินเชื่อด้อยคุณภาพจะลดลงอย่างต่อเนื่องในปีนี้
ธนาคารยังคงดำรงสภาพคล่องที่สูง โดยมีสินทรัพย์ที่มีสภาพคล่องสูงได้แก่ เงินสด รายการระหว่างธนาคารและตลาดเงิน และเงินลงทุนระยะสั้น คิดเป็นร้อยละ 24.3 ของสินทรัพย์ที่ก่อให้เกิดรายได้ทั้งหมด ในขณะที่ส่วนทุนของธนาคารก็มีความแข็งแกร่ง โดยมีอัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง(Capital adequacy ratio: CAR) ที่ร้อยละ 17.8 ซึ่งเป็นเงินกองทุนชั้นที่หนึ่งต่อสินทรัพย์เสี่ยงร้อยละ 12.3
นายบุญทักษ์ หวังเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TMB กล่าวเพิ่มเติมว่า การปรับแนวโน้มอันดับความน่าเชื่อถือของธนาคารที่เพิ่มขึ้นนี้สะท้อนความแข็งแกร่งของธนาคาร ที่เกิดจากการดำเนินการตามแผนกลยุทธ์ที่วางไว้อย่างมีประสิทธิภาพ
“เราได้ปรับปรุงความสามารถในการทำกำไรและความแข็งแกร่งทางการเงินอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งลด NPL อย่างมีนัยสำคัญ และยังได้ล้างขาดทุนสะสมเสร็จสิ้นในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ในขณะนี้ TMB มีสถานะทางการเงินที่เข้มแข็งขึ้น และมีเสถียรภาพ นอกจากนี้ โครงสร้างองค์กรของธนาคารซึ่งยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง (Customer Centric Organization) ยังช่วยให้ธนาคารสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้า ด้วยบริการ ผลิตภัณฑ์ และโซลูชั่นส์ทางการเงิน ที่ทันสมัย สามารถตอบโจทย์ของลูกค้าได้ตรงจุด ช่วยให้ลูกค้าทุกกลุ่มของธนาคารบรรลุเป้าหมายทางการเงินที่ตั้งไว้เป็นอย่างดี ซึ่งธนาคารจะพัฒนาสิ่งที่ดีเพื่อลูกค้าของเราอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานทุกด้าน เพื่อการเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืนของ TMB”