กรุงเทพฯ--8 ธ.ค.--M.O.Chic
กระทรวงพลังงาน จัดกิจกรรม CSR “พลังใจ พลังงาน” ปลูกป่าเทิดพระเกียรติฯ 4 ภาคเป้าหมายกว่า 60,000 ต้น หวังลด Co2 ช่วยลดโลกร้อน และร่วมกันแก้ปัญหาอุทกภัยเดินหน้าสานต่อกิจกรรมอย่างต่อเนื่องเป็นแห่งที่สองที่จังหวัดภูเก็ต
กระทรวงพลังงาน ร่วมเฉลิมพระเกียรติแห่งการบรมราชาภิเษกปีที่ 60 และเฉลิมพระชนมพรรษาครบ 83 พรรษาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ จัดโครงการ “ลดโลกร้อนถวายพ่อ” พร้อมดำเนินกิจกรรมเพื่อสังคม (CSR) ในชื่อ “พลังใจ...พลังงาน” เพื่อร่วมปลูกต้นไม้กว่า 60,000 ต้น ใน 4 ภาค 4 จังหวัด เทิดพระเกียรติพ่อหลวง และช่วยลดภาวะโลกร้อน เพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับประเทศไทย ซึ่งเป็นการแก้ปัญหาอุทกภัยที่รากเหง้า พร้อมเดินหน้าสานต่อกิจกรรมอย่างต่อเนื่องเป็นแห่งที่สองที่จังหวัดภูเก็ต
สืบเนื่องมาจากรัฐบาล ฯพณฯ นายอภิสิทธ์ เวชชาชีวะ ได้ดำเนินการรณรงค์สร้างจิตสำนึกให้ประชาชนมีความรักและเทิดทูนในสถาบันพระมหากษัตริย์ โดยได้มีการจัดงานเฉลิมพระเกียรติแห่งการบรมราชาภิเษกปีที่ 60 และการเฉลิมพระชนมพรรษาครบ 83 พรรษาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ซึ่งมีรองนายกรัฐมนตรี สุเทพ เทือกสุบรรณ เป็นประธานโครงการ ภายใต้แนวคิด "ชวนคนไทยรักสามัคคี ร่วมทำความดีถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ" โดยได้มอบหมายให้แต่ละกระทรวงดำเนินกิจกรรมภายใต้แนวความคิดนี้ โดยกระทรวงพลังงานได้นำเสนอโครงการ "ลดโลกร้อนถวายพ่อ” เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เนื่องในโอกาสมหามงคลบรมราชาภิเษกปีที่ 60 และเฉลิมพระชนมพรรษา ซึ่งทางกระทรวงพลังงานได้กำหนดรูปแบบไว้ 5 ด้าน คือ 1) ด้านนวัตกรรม 2) ด้านพลังงานทดแทน 3) ด้านการเพิ่มประสิทธิภาพพลังงาน 4) ด้านการสร้างและถ่ายทอดความรู้แก่ประชาชน และ 5) ด้านการปลูกป่า
ผ.อ. นที ทับมณี ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและยุทธศาสตร์ ประธานในพิธี พลังใจพลังงาน กล่าวว่า “ สำหรับโครงการ “ลดโลกร้อนถวายพ่อ” ของทางกระทรวงพลังงานนั้น ทางกระทรวงฯ ได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ สนพ., ธพ., พพ. , ชธ., สกพ., บมจ.ปตท.,บมจ.บางจาก ไออาร์พีซี, กฟผ. และบริษัทในเครือ คือ บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) ,บริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรี โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) ซึ่งกระทรวงพลังงานถือเป็นองค์กรหลักที่มีหน้าที่รับผิดชอบในการกำกับดูแลในด้านพลังงานของประเทศ โดยที่ผ่านมาเราได้น้อมนำพระราชดำริด้านพลังงานอันก่อให้เกิดประโยชน์อันยิ่งใหญ่ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ที่ทรงเปรียบได้ดั่ง “พระบิดาแห่งการพัฒนาพลังงานไทย” ถือเป็นแนวปฏิบัติมาโดยตลอด โดยโครงการนี้นอกจากจะเป็นโครงการเทิดพระเกียรติเนื่องในโอกาสมหามงคลของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ แล้ว ยังเป็นโครงการที่เกิดจากการตระหนักถึงปัญหาที่เกิดจากการใช้พลังงานของประเทศ โดยเฉพาะปัญหาภาวะโลกร้อนอันเกิดจากก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (Co2) ที่เป็นตัวทำลายชั้นบรรยากาศและ ทำให้เกิดภาวะเรือนกระจก ดังนั้นในปี 2553 — 2554 นี้กระทรวงพลังงานจึงได้จัดกิจกรรมทางสังคม เพื่อปัญหาดังกล่าว และเพื่อให้สอดคล้องกับแนวความคิดของโครงการ 5 ด้าน โดยเฉพาะในด้านการปลูกป่า จึงเป็นที่มาของโครงการ “พลังใจ...พลังงาน” นั่นเอง”
“สำหรับในปีนี้กิจกรรม “พลังใจ...พลังงาน” จะเป็นการปลูกป่าเทิดพระเกียรติ 4 ภาค” โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดสภาวะโลกร้อน ด้วยการลดปริมาณของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์(Co2) ในชั้นบรรยากาศ รวมทั้งช่วยเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับประเทศไทย ซึ่งในปัจจุบันจะเห็นได้ว่าเกิดปัญหาอุทกภัยอย่างหนักในหลายภาค หลายจังหวัดของประเทศไทย กิจกรรมนี้จึงเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยแก้ปัญหาอุทกภัยที่รากเหง้าได้ ทั้งนี้ในส่วนของรายละเอียดกิจกรรมนั้น จะมีการดำเนินการปลูกป่าเทิดพระเกียรติ 4 ภาค ใน 4 จังหวัดของประเทศไทย ได้แก่ จังหวัดชลบุรี ลพบุรี อุตรดิตถ์ และภูเก็ต ซึ่งจะมีการปลูกกล้าไม้ครั้งละ 15,000 ต้น รวมทั้งสิ้น 60,000 ต้น เพื่อให้สอดคล้องกับปีที่60 แห่งการบรมราชาภิเษกของพระองค์ท่าน โดยจะเลือกปลูกกล้าไม้ตามความเหมาะสมของพื้นที่ในจังหวัดนั้น ๆ เช่น จังหวัดชลบุรีและภูเก็ตจะเป็นกล้าไม้โกงกางและแสม ส่วนที่จังหวัดลพบุรีและอุตรดิตถ์จะเป็นกล้าไม้สักและประดู่ กิจกรรมดังกล่าวจะเริ่มตั้งแต่ กันยายน 2553 — พฤษภาคม 2554 ซึ่งกลุ่มเป้าหมายจะมุ่งเน้นไปที่ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ของกระทรวงพลังงานทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค รวมทั้งประชาชนในท้องถิ่น และกลุ่มศิลปินดารา โดยมีการนำร่องกิจกรรมไปแล้ว ณ ตำบลอ่างศิลา อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี เป็นจังหวัดแรก โดยได้รับความร่วมแรงร่วมใจของเหล่าข้าราชการกระทรวงพลังงาน และจังหวัดชลบุรี เป็นอย่างดี และเพื่อเป็นการสานต่อกิจกรรมอย่างต่อเนื่องเป็นแห่งที่สอง กระทรวงพลังงานจึงจัดกิจกรรมปลูกต้นโกงกางและแสมขึ้น ณ ตำบลป่าคลอก อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต โดยมีเหล่าข้าราชการกระทรวงพลังงาน และจังหวัดภูเก็ต พร้อมศิลปินดาราเข้าร่วมกิจกรรม ได้แก่ เต็งหนึ่ง — กฤษณกันท์ มณีผกาพันธ์ และส้ม — ณัฐวรา หงส์สุวรรณ เพื่อร่วมมือกันฟื้นฟูระบบนิเวศน์ทางทะเล และเป็นการอนุรักษ์พันธุ์สัตว์น้ำ รวมทั้งคืนความสมดุลแก่ท้องทะเลไทย”
ผ.อ. นที กล่าวต่อไปว่า “สำหรับประโยชน์ที่จะได้รับจากกิจกรรมดังกล่าว นอกจากการมีส่วนร่วมลดภาวะโลกร้อนแล้วนั้น กิจกรรมดังกล่าวยังเป็นการสร้างความร่วมมือระหว่างข้าราชการและเจ้าหน้าที่ของกระทรวงพลังงานทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค รวมทั้งประชาชนในท้องถิ่น ซึ่งจะก่อให้เกิดความสมัครสมานสามัคคี และการดำเนินกิจกรรมอันเป็นประโยชน์ต่อสังคมร่วมกัน อีกทั้งยังเป็นการฟื้นฟู พัฒนาสิ่งแวดล้อมในชุมชน ทั้งนี้เราคาดหวังว่ากิจกรรมนี้จะได้รับความร่วมมือ...ร่วมใจทั้งในระดับองค์กร ท้องถิ่น และประชาชนทั่วไป อีกทั้งเชื่อมั่นว่าเหล่าข้าราชการและเจ้าหน้าที่ขององค์กรจะได้เรียนรู้ถึงการทำหน้าที่เพื่อสังคมมากขึ้น ซึ่งถือเป็นแนวคิดหลักของการดำเนินงานของกระทรวงพลังงาน เพื่อพ่อหลวงของเรา และเพื่อการพัฒนาประเทศที่ยั่งยืนในอนาคตต่อไป”
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 02-512-5848 M.O.Chic