กรุงเทพฯ--8 ธ.ค.--วีม คอมมูนิเคชั่น
ธนาคารกรุงไทยสานต่อเจตนารมย์ ยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียงหนุนนำเยาวชน จัดโครงการประกวด “กรุงไทย ต้นกล้าสีขาว” ต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 ซึ่งถือเป็นโครงการที่สร้างประโยชน์ให้กับสังคมในระยะยาว โดย “ทีมมาตุ้มมาโฮม” จากมหาวิทยาลัยมหาสารคาม คว้าถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีไปครอง พร้อมพ่วงท้ายอีก 2 รางวัล ดร.สถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ ประธานกรรมการ บมจ. ธนาคารกรุงไทย กล่าวว่า “รู้สึกดีใจและยินดีเป็นอย่างยิ่งที่เห็นนักศึกษาที่จะเป็นกำลังสำคัญของชาติ สนใจสมัครเข้าร่วมโครงการนี้เป็นจำนวนมาก ซึ่งสิ่งที่นักศึกษาที่เข้าร่วมโครงการได้คิดและเรียนรู้จากโครงการนี้ สามารถนำไปปรับใช้ในการดำเนินชีวิตต่อไป การสร้างทุนทางปัญญานี้ เพื่อให้เห็นผลชัดเจนและเน้นการมีส่วนร่วมของบุคลากรทุกระดับ ขยายไปสู่บริษัทในเครือ องค์กรพันธมิตร ลูกค้า และประชาชนทั่วไป”
คุณสันติ วิลาสศักดานนท์ ประธานกรรมการบรรษัทภิบาลและความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า “ปัจจุบันหลายองค์กรต่างเห็นความสำคัญในการดำเนินธุรกิจควบคู่ไปกับการใส่ใจและรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม หรือ ซีเอสอาร์ ซึ่งธนาคารกรุงไทยเป็นอีกหนึ่งองค์กรหนึ่งที่เห็นความสำคัญของเรื่องนี้ โดยมุ่งการเสริมสร้างทุนทางปัญญาในด้านต่างๆ และจะเน้นไปพร้อมๆ กับ ซีจี หรือ บรรษัทภิบาล คือ ความสำนึกรับผิดชอบต่อสังคม การกำกับดูแลกิจการให้เจริญรุดหน้าอย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยเงื่อนไขของความถูกต้องโปร่งใส การมีจริยธรรมที่ดีโดยมุ่งคำนึงถึงผู้มีส่วนได้เสียในกิจการนั้น”
คุณสุมาลี สุขสว่าง ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการอาวุโส ผู้บริหารสายงานทรัพยากรบุคคลและบรรษัทภิบาล กล่าวว่า “โครงการต้นกล้า สีขาวเป็นหนึ่งในโครงการเพื่อสังคมของทางธนาคารกรุงไทย ที่มุ่งเน้นการการสร้างทุนทางปัญญาให้กับทุกภาคส่วนในสังคม เนื่องจากเล็งเห็นว่าเป็นทุนที่ไม่มีวันหมด ยิ่งใช้ยิ่งมีคุณค่าและช่วยพัฒนาสังคมให้ยั่งยืนอย่างแท้จริง และก็เป็นที่น่ายินดีที่ในปีนี้มีนักศึกษาจากทั่วประเทศให้การตอบรับส่งผลงานเข้าร่วมโครงการเป็นจำนวนมาก จาก 486 ทีม คัดจนเหลือ 41 ทีม นำเสนอผลงานผ่านนิทรรศการเพื่อคัดเลือกอีก 10 ทีมสุดท้ายหาทีมชนะเลิศโครงการชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พร้อมทุนการศึกษา 250,000 บาท ซึ่งในปีนี้ น้อง ๆ นักศึกษาได้ร่วมกันนำเสนอผลงานที่ล้วนแล้วแต่น่าสนใจ โดยยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียง
โดยผลการประกวดในปีนี้ ปรากฏว่า “ทีมมาตุ้มมาโฮม” จากมหาวิทยาลัยมหาสารคาม ได้รางวัลชนะเลิศโครงการดีเด่น คว้าถ้วยรางวัลพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาสยามบรมราชกุมารี และทุนการศึกษา 250,000 บาท พร้อมศึกษาดูงานต่างประเทศ นอกจากนี้ยังได้รางวัลย่อยอีก 2 รางวัล คือ นำเสนอโครงการดีเด่น และบูธดีเด่นอีกด้วย
ส่วนรางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 1 ได้แก่ “ทีม The Best 1 Season 2” จากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (วิทยาเขตเฉลิมพระเกียรติ จ.สกลนคร) ได้รับโล่และเงินรางวัล รวม 225,000 บาท พร้อมศึกษาดูงานต่างประเทศ
ส่วนรางวัลรองชะเลิศอันดับที่ 2 ได้แก่ “ทีม KUWIN 67” จากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (วิทยาเขตเฉลิมพระเกียรติ จ.สกลนคร) ได้รับโล่และเงินรางวัลรวม 210,000 บาท พร้อมศึกษาดูงานต่างประเทศ
สำหรับทีมมาตุ้มมาโฮม ที่ส่งโครงการนางเล็ดนางรอด ทางรอดชุมชน คว้ารางวัลชนะเลิศปีนี้ไปได้นั้น ได้นำขนมนางเล็ดนางรอด ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ของกลุ่มแม่บ้านเกษตรกร หมู่บ้านตะคุที่เคยเป็นสินค้าระดับ 5 ดาว แต่ขาดการพัฒนาผลิตภัณฑ์จนทำให้เหลือเพียง 1 ดาว ทางทีมจึงได้เข้ามาช่วยให้ความรู้ ความเข้าใจ เกี่ยวกับการวางแผนธุรกิจเพื่อให้อยู่อย่างยั่งยืน โดยการพัฒนาผลิตภัณฑ์ขนมนางเล็ดให้มี 4 สี คือ สีเขียวจากใบเตย สีเหลืองจากดอกคำฝอย สีขาวจากชาใบหม่อน และสีชมพูจากน้ำแตงโม รวมถึงปรับปรุงบรรจุภัณฑ์ภายใต้ตราสินค้า “HUG” ขยายช่องทางการจำหน่ายผ่านมหาวิทยาลัย ปั๊มปตท. และร้านโชว์ห่วย ส่วนน้ำมันที่เหลือจากการทอดก็นำมาทำเป็นพลังงานทดแทนไบโอดีเซลเป็นการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม
โครงการ "กรุงไทย ต้นกล้าสีขาว" ถือเป็นโครงการที่สร้างประโยชน์ให้กับสังคมในระยะยาวในการสร้างทุนทางปัญญาให้กับนิสิตนักศึกษาในระดับอุดมศึกษา ซึ่งสามารถนำความรู้ประสบการณ์และทัศนคติที่ได้รับจากโครงการไปปรับใช้ในชีวิตจริงในการประกอบอาชีพ ซึ่งนอกจากนิสิตนักศึกษาจะได้รับความรู้และข้อคิดด้านจริยธรรมธุรกิจแล้ว ยังได้ฝึกการคิดวิเคราะห์และปฏิบัติเชิงจริยธรรม อันเป็นเสมือนการปลูกเพาะต้นกล้าจริยธรรมให้เติบโตงอกงามอย่างยั่งยืนในสังคมไทยต่อไป