ผู้บริหาร PHOL และKGI มั่นใจ เทรดวันแรกเหนือจอง เหตุพื้นฐานแกร่งราคา IPO แสนถูก แถมปันผลอีก 0.15 บาทต่อหุ้น

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday December 9, 2010 10:21 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--9 ธ.ค.--IR PLUS KGI มั่นใจหุ้น เข้าเทรดวันแรก 9 ธันวาคมนี้ เหนือจอง เหตุยอดจองล้นเกินจำนวนหุ้นที่จัดสรรในวันแรกที่เปิดให้จอง สะท้อนความนิยมจากแฟนหุ้น IPO เชื่อเป็นไปได้ที่นักลงทุนที่พลาดหุ้นจองจะตามเก็บในกระดาน เนื่องจากมั่นใจในธุรกิจและปัจจัยพื้นฐานของบริษัท ประการสำคัญราคาหุ้น IPOที่ 3.60 บาท แสนถูกเมื่อเทียบกับราคาเหมาะสมของโบรกเกอร์ ด้านบิ๊ก PHOL ยืนยันไม่ทำให้นักลงทุนผิดหวัง นายพรศักดิ์ ชุนหจินดา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายบัญชีและการเงิน บริษัท ผลธัญญะ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า มั่นใจว่าหุ้นของ PHOL ที่เข้าซื้อขายวันแรก จะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากนักลงทุน เพราะเป็นบริษัทที่มีปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่ง มีจุดเด่นที่มีธุรกิจผลิตภัณฑ์เพื่อความปลอดภัย ที่ทั้งเติบโตมั่นคงและธุรกิจน้ำที่จะเติบโตแบบก้าวกระโดด มาอยู่ในบริษัทเดียวกัน ทำให้บริษัทฯ มีทิศทางการเติบโตที่โดดเด่นและมั่นคงในระยะยาว ประกอบกับเงินทุนที่ได้จากการเพิ่มทุนในครั้งนี้ PHOL จะนำไปใช้ในการขยายธุรกิจและเป็นเงินทุนหมุนเวียน เพื่อเพิ่มศักยภาพของบริษัทให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น ตอกย้ำความเป็นผู้นำ เพิ่มความสามารถในการแข่งขัน และพร้อมรองรับการขยายธุรกิจบริษัทในอนาคต ซึ่งในฐานะผู้บริหาร ขอยืนยันว่าจะไม่ทำให้นักลงทุนผิดหวัง นางสาวพัชพร สรรคบุรานุรักษ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุน บริษัท ผลธัญญะ จำกัด (มหาชน) หรือ PHOL กล่าวอย่างมั่นใจว่าหุ้น PHOL หลังจากเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ mai ในวันที่ 9 ธันวาคม 2553 จะได้รับความสนใจจากนักลงทุน และยืนเหนือราคาจองได้ ซึ่งจะเห็นได้จากการจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่เสนอขายให้กับประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 40 ล้านหุ้น ระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน - 1 ธันวาคม 2553 ที่ผ่านมา ที่กำหนดราคาเสนอขายที่ 3.60 บาท/หุ้น พบว่ามียอดจองซื้อเกินจำนวนหุ้นที่จัดสรรอีกเป็นจำนวนมากภายในวันแรกที่เปิดให้จองซื้อหุ้น ทำให้มั่นใจว่าจะมีนักลงทุนบางส่วนที่พลาดจากการจองซื้อหุ้น IPO ดังกล่าวตามเข้ามาซื้อหุ้นในกระดานเพื่อลงทุนและรับผลตอบแทนในระยะยาว นอกจากนั้น การกำหนดราคาหุ้น IPO ที่ 3.60 บาท/หุ้นมีค่าP/E ประมาณ 13.98 เท่า โดยคิด จากผลประกอบการ 4 ไตรมาสย้อนหลัง ซึ่งเป็นช่วงที่ธุรกิจเพิ่งเริ่มฟื้นตัวจากภาวะเศรษฐกิจโลกในปี 2552 เมื่อเปรียบเทียบกับ P/E เฉลี่ยของหุ้นสามัญที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai ในช่วง1 เดือน ตั้งแต่ วันที่ 16 ตุลาคม 2553 ถึงวันที่ 15 พฤศจิกายน 2553 ซึ่งมีค่าเท่ากับ 21.70 เท่า คิดเป็นส่วนลดประมาณ ร้อยละ 35 อีกทั้งผู้ลงทุนในหุ้น IPO มีโอกาสได้รับเงินปันผลในเดือน มกราคม อีก 0.15 บาทต่อหุ้น ซึ่งถือว่าคุ้มค่าสำหรับการถือลงทุนเพื่อหวังผลในอนาคต และยิ่งกว่านั้น ในปีหน้าคาดว่า P/E ของบริษัท จะปรับลงได้อีกจากการเติบโตของธุรกิจเซฟตี้ และธุรกิจบำบัดน้ำ ที่จะรับรู้รายได้เต็มปี โดยนักวิเคราะห์ ที่เป็นผู้ร่วมจัดจำหน่ายได้ให้ราคาเหมาะสม อยู่ในกรอบ 4.20-4.80 บาท ซึ่งสูงกว่าราคาจองอย่างชัดเจน จากบทวิเคราะห์ของโบรกเกอร์ต่างๆ ให้ความเห็นว่าราคาจองยังต่ำกว่าปัจจัยพื้นฐานของบริษัท ทั้งนี้บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นหนี่งในผู้ร่วมจัดจำหน่าย ประเมินราคาพื้นฐาน ที่ 4.80 บาท โดยคาดแนวโน้มอัตรากำไรบริษัทฯ จะมีเสถียรภาพ เนื่องจากเป็นอุปกรณ์ที่เน้นในเรื่อง ความปลอดภัยของพนักงาน และ ผู้สวมใส่เป็นหลัก ทำให้ผู้ซื้อไม่ได้ตัดสินใจซื้อสินค้าด้วยราคา โดยประเมินว่า การฟื้นตัวของอัตรากำไรของบริษัทฯ จะดีขึ้นในอนาคต โดยคาดว่าบริษัทฯ จะมีอัตราการขยายตัวเฉลี่ยของรายได้กว่า 20% และอัตรากำไรขยายตัวมากกว่า 30% ใน 3 ปีถัดจากนี้ตามแนวโน้มภาวะการผลิตของประเทศที่สูงขึ้น รวมถึงความตระหนักถึงการจัดการปัญหาสิ่งแวดล้อมที่ต้องได้รับความใส่ใจมากขึ้นจากรัฐบาล และองค์กรเอกชนต่างๆ ขณะที่กำไรของบริษัทฯ จะขยายตัวได้ดีจากอุปสงค์ที่ปรับตัว ดีขึ้น โดยประเมินมูลค่าที่เหมาะสมที่ 4.80 บาท บนค่าพีอีประมาณ ปี 2554 ที่ 12.20 เท่า และราคาต่อมูลค่าบัญชีที่ 1.7 เท่า ในขณะที่นักวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่าย ให้ราคาตามปัจจัยพื้นฐานของบริษัท ในอีก 12 เดือนข้างหน้า เท่ากับ 4.70 ทั้งนี้บทวิเคราะห์ของเคจีไอ คาดแนวโน้มกำไรสุทธิ PHOL เติบโตสูงถึง 64.1% ต่อปี ใน 3 ปีข้างหน้า จากแนวโน้มธุรกิจของกลุ่มลูกค้าบริษัทฯ ที่ดูดีขึ้นตามแนวโน้มการฟื้นตัวของภาวะเศรษฐกิจ การให้ความสำคัญกับความปลอดภัย ในการทำงานมากขึ้น และการเร่งตัวขึ้นของธุรกิจน้ำ คาดว่าผลประกอบการของบริษัทฯ จะมีอัตราการฟื้นตัวอย่างชัดเจนในปี 2553 ด้วยอัตราการเติบโตของผลกำไรที่สูงถึง 147.7% เมื่อเปรียบเทียบจากปี 2552 และเติบโตถึง 64.1 % ใน 3 ปีข้างหน้าหรือคิดเป็นกำไรปกติจากการดำเนินงานสูงถึง 78 ล้านบาท ในปี 2555 โดย ฝ่ายวิจัยใช้วิธี PE multiple ในการประเมินมูลค่าที่เหมาะสมของบริษัทฯ ซึ่งจากการใช้ระดับ PE multiple ที่ 10 เท่า
แท็ก ปันผล   KGI  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ