กรุงเทพฯ--13 ธ.ค.--กระทรวงพลังงาน
กระทรวงพลังงาน เดินหน้าสนับสนุนคนไทยใช้น้ำมัน E85 เต็มสูบ หลังครม.อนุมัติมาตรการลดภาษีสรรพสามิต สำหรับรถยนต์ E85 ลง 3% และลดอากรขาเข้ารถยนต์ สำเร็จรูป E85 อีก 20% รวมทั้งยกเว้นอากรขาเข้าชิ้นส่วนยานยนต์ E85 15 รายการ จูงใจผู้ผลิตรถยนต์ให้ผลิตรถยนต์ E85 ออกสู่ตลาด
นายแพทย์วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยถึง กรณีที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติอนุมัติมาตรการส่งเสริมการใช้น้ำมัน E85 ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ 3 รูปแบบ คือ 1.ลดภาษีสรรพสามิตสำหรับรถยนต์ E85 ขนาดกระบอกสูบ 1,780-3,000 ซีซี ลง 3% 2.ลดอากรขาเข้าสำหรับรถยนต์สำเร็จรูป ( ซีบียู ) E85 ขนาดกระบอกสูบ 1,780-3,000 ซีซี ลง 20% จากเดิมจัดเก็บที่อัตรา 80% เหลือ 60% โดยจำกัดจำนวนไว้ไม่เกิน 2,000 คัน และ3.ยกเว้นอากรขาเข้าสำหรับชิ้นส่วนรถยนต์ E85 ที่ไม่มีการผลิตหรือประกอบในประเทศรวม 15 รายการ เพื่อจูงใจให้บริษัทผู้ผลิตรถยนต์มีการผลิตและจำหน่ายรถยนต์ E85 เพิ่มมากขึ้น จากปัจจุบันมีปริมาณรถยนต์ E85 ในประเทศไทยประมาณ 3,000 คัน
“สำหรับมาตรการดังกล่าว เป็นส่วนหนึ่งของแผนการใช้พลังงานทดแทน 15 ปี ของกระทรวงพลังงานที่ตั้งเป้าหมายว่า จะเพิ่มสัดส่วนการใช้พลังงานทดแทนในประเทศจาก 6.4% เป็น 20.3% ในปี 2565 ซึ่งมติครม.ครั้งนี้ นอกจากจะเป็นการกระตุ้นให้มีบริษัทผลิตรถยนต์ E85 เพิ่มมากขึ้นแล้ว ยังเป็นการเพิ่มทางเลือกให้กับคนไทย ที่ต้องการใช้รถยนต์ E85 ซึ่งเป็นรถยนต์ที่สามารถใช้เชื้อเพลิงที่มีเอทานอลทุกสัดส่วน ตั้งแต่ 0 — 85 % และรถยนต์ E85 ยังมีราคาถูกกว่ารถยนต์ E20 อีกด้วย” นายแพทย์วรรณรัตน์กล่าว
ทั้งนี้ น้ำมัน E85 ส่งผลดีต่อเศรษฐกิจของประเทศทั้งทางตรงและทางอ้อม ทางตรงจะช่วยลดเงินตราไหลออกนอกประเทศเพราะน้ำมัน E85 สามารถผลิตได้เองในประเทศจากอ้อยและมันสำปะหลัง ทำให้การนำเข้าน้ำมันจากต่างประเทศลดน้อยลง ส่วนทางอ้อมการใช้น้ำมัน E85 จะช่วยให้เกษตรกรกว่า 7 แสนครัวเรือน มีรายได้เพิ่มขึ้นจากการจำหน่ายอ้อยและมันสำปะหลัง เพราะมีความต้องการนำไปผลิตเอทานอลผสมเป็นน้ำมัน E85 อย่างต่อเนื่อง และที่สำคัญน้ำมัน E85 ยังช่วยลดโลกร้อน ลดมลพิษ ซึ่งเป็นกระแสที่ทั่วโลกมุ่งสนับสนุนในขณะนี้ อีกทั้งการใช้น้ำมัน E85 ยังเป็นการลดการใช้ทรัพยากรโลก เพราะน้ำมัน E85 ผลิตจากผลผลิตทางการเกษตรที่สามารถปลูกทดแทนได้ไม่มีวันหมด