กรุงเทพฯ--13 ธ.ค.--พม.
กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ร่วมกับมูลนิธิคอลฟีลด์เพื่อคนตาบอด ในพระราชูปถัมภ์ฯจัดสัมมนา “อาชีพนวดแผนไทยกับคนตาบอด : ทางออกในภาวะวิกฤต”เพื่ออบรมให้ความรู้และฝึกทักษะทางอาชีพให้คนพิการ สามารถพึ่งตนเองและทำประโยชน์ต่อสังคม โดยนายอิสสระ สมชัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นประธานในพิธีเปิด ณ โรงแรมรัชดา ซิตี้ กรุงเทพฯ โดยรมว.พม.เปิดเผยว่า ปัจจุบัน การนวดแผนไทย กำลังเป็นที่นิยมของชาวไทยและชาวต่างประเทศ โดยมีผู้ประกอบธุรกิจดังกล่าวมากขึ้น มีการแข่งขันกันด้านการตลาด โดยปรับเทคนิคและรูปแบบการให้บริการที่หลากหลาย และมีการผลิตผู้ประกอบอาชีพซึ่งเป็นคนไม่พิการออกมาเป็นจำนวนมาก เพื่อรองรับความต้องการของตลาด จากสถานการณ์ดังกล่าว ทำให้คนตาบอดที่ประกอบอาชีพนวดแผนไทย ต้องประสบปัญหา เนื่องจากไม่สามารถแข่งขันในตลาดได้ โดยคนตาบอดที่ประกอบอาชีพนี้ จำนวนมากมีรายได้ลดลง หรือบางรายต้องปิดกิจการไปในที่สุด กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ และมูลนิธิคอลฟีลด์เพื่อคนตาบอด ในพระราชูปถัมภ์ฯ ตระหนักถึงปัญหาดังกล่าว จึงจัดให้มีโครงการสัมมนาฯ ในครั้งนี้ขึ้น เพื่อฝึกอบรมให้คนตาบอดได้มีความรู้และทักษะทางอาชีพ ซึ่งจะทำให้ผู้พิการได้รับความรู้เพิ่มขึ้น สามารถพัฒนาศักยภาพและมีกำลังใจในการประกอบอาชีพและพึ่งพาตนเองได้
นายอิสสระ กล่าวต่อว่า กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ให้ความสำคัญและดำเนินการเพื่อส่งเสริมสิทธิ โอกาส และความเสมอภาคเท่าเทียมของคนพิการมาโดยตลอด โดยได้ผลักดันนโยบายสำคัญหลายเรื่อง เช่น การจัดสวัสดิการสิทธิเบี้ยความพิการ เดือนละ ๕๐๐ บาท ให้แก่คนพิการทุกท่าน มากกว่า ๘ แสนคน และมีมติคณะรัฐมนตรีหลายประเด็นที่เกี่ยวกับการพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ เช่น การจัดทำสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับคนพิการอย่างทั่วถึงและครบถ้วน ภายในปี ๒๕๕๔ การกำหนดให้นายจ้างหรือเจ้าของสถานประกอบการ รวมถึงหน่วยงานภาครัฐต้องรับคนพิการเข้าทำงานในอัตราส่วน ๑:๑๐๐ คน เรื่องมาตรการภาษีเพื่อช่วยเหลือคนพิการ ได้แก่ การยกเว้นภาษีสำหรับองค์กรเอกชนที่จัดให้คนพิการได้รับสิทธิประโยชน์ตามมาตรา ๒๐ แห่งพระราชบัญญัติส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ พ.ศ.๒๕๕๐ การยกเว้นภาษีแก่สถานประกอบการ ที่จ้างคนพิการเข้าทำงานมากกว่าร้อยละหกสิบของลูกจ้างในสถานประกอบการนั้น และการยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับคนพิการที่มีบัตรประจำตัวคนพิการ ในส่วนที่มีรายได้ไม่เกินหนึ่งแสนเก้าหมื่นบาทในปีภาษีนั้น นอกจากนี้ ยังได้จัดระบบสวัสดิการต่างๆ โดยคำนึงถึงการไม่เลือกปฏิบัติต่อคนพิการ เช่น คนพิการสามารถเรียนฟรีจนถึงระดับปริญญาตรีบริการล่ามภาษามือ ผู้ดูแล คนพิการ และผู้ช่วยคนพิการ และการปรับสภาพแวดล้อมที่อยู่อาศัยสำหรับคนพิการ
ทั้งนี้ กำหนดการสัมมนา เป็นเวลา ๓ วัน ตั้งแต่วันที่ ๑๐-๑๒ ธันวาคม ๒๕๕๓ ณ โรงแรมรัชดา ซิตี้ โดยมีผู้เข้าร่วมสัมมนาซึ่งเป็นคนตาบอดที่ประกอบอาชีพนวดแผนไทย จากทั่วประเทศ จำนวน ๓๐๐ คน.