กรุงเทพฯ--4 เม.ย.--ก.เกษตรและสหกรณ์
นายเกรียงศักดิ์ ตั้งตรงสากล ผู้อำนวยการส่วนการบิน สำนักฝนหลวงและการบินเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า หลังจากที่ได้นำทีมงานฝนหลวงเข้าไปช่วยชาวบ้านที่ประสบภัยจากหมอกควันในภาคเหนือ พบว่าปัญหาเริ่มเบาบางลงไป แต่ยังมีชาวบ้านบางส่วนที่ยังคงเผาป่าอยู่ ทำให้เริ่มมีปริมาณหมอกควันขึ้นมาอีก
“ทีมปฏิบัติงานก็ยังคงปักหลักเพื่อช่วยแก้ไขวิกฤติหมอกควันในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลายลง โดยหน่วยงานได้นำรายงานการปฏิบัติการฝนหลวงประจำสัปดาห์ และรายงานผลการปฏิบัติงานประจำเดือน ขึ้นเผยแพร่บนเว็บไซต์ของสำนักฝนหลวงและการบินเกษตร www.royalrainmaking.thaigov.net/ ซึ่งผู้ที่สนใจสามารถเข้าเยี่ยมชม หรือศึกษาข้อมูลผ่านเว็บไซต์นี้ได้” นายเกรียงศักดิ์กล่าว
นายเกรียงศักดิ์ กล่าวต่อว่า ส่วนของหน่วยงานได้นำเทคโนโลยีมาใช้เพิ่มเติมเพื่อช่วยในเรื่องของความปลอดภัยแก่นักบิน และช่วยให้นักบินทำงานได้ง่ายขึ้น คือเครื่องเวทเตอร์ เรด้า ซึ่งจะเป็นตัวตรวจสภาพอากาศที่ติดตั้งเพิ่มเติมไว้กับตัวเครื่องบิน ราคาประมาณ 2 ล้านบาท นำเข้าจากประเทศสหรัฐอเมริกา และยังได้ติดตั้งเครื่องช่วยนักบิน “ออโต้ ไพลอท” สำหรับเครื่องบินที่มีอยู่ในหน่วยงานจะแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่ เครื่องบินปีก 27 เครื่อง และเฮลิคอปเตอร์ 22 เครื่อง รวม 49 เครื่อง
สำหรับการจัดตั้งหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงพิเศษที่จังหวัดเชียงใหม่นั้น มีขึ้นเมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2550 เป็นต้นมา สำหรับผลปฏิบัติการฝนหลวงในช่วงวันที่ 1-26 มีนาคม 2550 โดยขึ้นบินปฏิบัติการฝนหลวง เป็นเวลา 25 วัน เที่ยวบันรวม 479 เที่ยวบิน ชั่วโมงบินรวม 656.31 ชั่วโมง โดยหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงเชียงใหม่ ขึ้นบิน 17 วัน 89 เที่ยวบิน รวม 127.50 ชั่วโมงบิน และหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงพิเศษจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2550 ขึ้นบิน 7 วัน 51 เที่ยวบิน รวม 81.10 ชั่วโมงบิน
ทั้งนี้ได้เริ่มตั้งหน่วยปฏิบัติการฝนหลวง ประจำปี 2550 ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2550 เป็นต้นมา และขณะนี้มีการตั้งหน่วยปฏิบัติการฝนหลวง จำนวน 8 ศูนย์ (8 หน่วยปฏิบัติการฝนหลวง และ 4 ฐานเติมสารฝนหลวง และจะจัดตั้งหน่วยฯ ชุมพร ในวันที่ 29 มีนาคม 2550 เพิ่มอีกหนึ่งหน่วยฯ รวมเป็น 9 หน่วยปฏิบัติการ และ 4 ฐานเติมสารฝนหลวง