กรุงเทพฯ--14 ธ.ค.--มีเดีย แอสโซซิเอตเต็ด
ทำเนียบเศรษฐีหุ้นไทย 2010 ต้อนรับแชมป์เศรษฐีหุ้นไทยคนใหม่ ทองมา วิจิตรพงศ์พันธ์ รวยสูงสุด 3.1 หมื่นล้าน ตามด้วยอันดับ 2 คีรี กาญจนพาสน์ ครองหุ้นรวม 1.78 หมื่นล้าน รวยขึ้นกว่า 5 หมื่นเปอร์เซ็นต์ ด้าน อนันต์ อัศวโภคิน ร่วงนั่งที่ 3 รวย 1.76 หมื่นล้าน ส่วนมาลีนนท์ครองแชมป์ตระกูลเศรษฐีหุ้น 12 ปีซ้อน 10 เครือญาติครองหุ้นรวม 4.4 หมื่นล้าน
นับเป็นปีที่ 17 แล้ว ที่วารสารการเงินธนาคาร ร่วมกับ อาจารย์ประจำคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ทำการจัดอันดับเศรษฐีหุ้นไทยมาอย่างต่อเนื่อง โดยภาพรวมของเศรษฐีหุ้นในปี 2553 ซึ่งวัดจากผู้ถือหุ้นรายใหญ่ประเภทบุคคลธรรมดาในประเทศที่ถือหุ้นสัดส่วน 0.5% ขึ้นไป ตามการปิดสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้นล่าสุดก่อนวันที่ 30 กันยายน 2553 จำนวน 5,495 ราย มีมูลค่าหุ้นที่ถือครองรวมทั้งสิ้น 690,231 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2552 ถึง 235,771 ล้านบาท หรือ 51.88%
สาเหตุที่ความมั่งคั่งของเศรษฐีหุ้นไทยในปีนี้มีมูลค่าเพิ่มขึ้นสูงสุดถึงกว่า 235,000 ล้านบาท เนื่องจากตลาดหุ้นไทยได้รับความสนใจจากนักลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยเป็นหนึ่งในประเทศที่มีความโดดเด่นในภูมิภาค ส่งผลให้ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ (SET Index) ณ วันที่ 30 กันยายน 2553 ซึ่งใช้เป็นฐานในการคำนวณมูลค่าการถือครองหุ้นของบรรดาเศรษฐีหุ้นไทยประจำปี 2553 ปรับตัวเพิ่มขึ้น 258.23 จุดจากช่วงเดียวกันของปี 2552 โดยปรับเพิ่มขึ้นไปอยู่ที่ระดับ 975.30 จุด หรือเพิ่มขึ้นถึง 36.01%
สำหรับผลการจัดอันดับเศรษฐีหุ้นไทยในวารสารการเงินธนาคาร ฉบับเดือนธันวาคม 2553 ปรากฏว่า ตำแหน่งแชมป์เศรษฐีหุ้นไทยประจำปี 2553 ตกเป็นของ ทองมา วิจิตรพงศ์พันธุ์ ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการ บมจ.พฤกษา เรียลเอสเตท (PS) หลังจากครองตำแหน่งเศรษฐีหุ้นไทยอันดับ 2 ติดต่อกันมาถึง 4 ปี โดยปีนี้ ทองมา ถือครองหุ้นมูลค่ารวม 31,422.25 ล้านบาท จากการถือหุ้น PS ในสัดส่วน 58.60% รวยเพิ่มขึ้น 15,591.83 ล้านบาท หรือ 98.49% เนื่องจากราคาหุ้น PS ได้ปรับตัวเพิ่มขึ้น 12.60 บาท หรือ 107.69% จาก 11.70 บาท มาอยู่ที่ 24.30 บาท เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2553
ความมั่งคั่งของแชมป์เศรษฐีหุ้นไทยคนล่าสุด “ทองมา วิจิตรพงศ์พันธ์” เริ่มขึ้นตั้งแต่เมื่อครั้งที่นำ บมจ.พฤกษา เรียลเอสเตท เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ในวันที่ 6 ธันวาคม 2548 โดยราคาหุ้น PS ในตอนนั้นอยู่ที่ 6.55 บาท ส่งผลให้ทองมา ก้าวเข้ามาติดอยู่ในทำเนียบเศรษฐีหุ้นไทยเป็นครั้งแรกในปี 2549 โดยเป็นเศรษฐีหุ้นอันดับ 2 ที่มีมูลค่าหุ้นที่ถือครอง 8,848.33 ล้านบาท
จากนั้นทองมาก็ยึดตำแหน่งเศรษฐีหุ้นอันดับ 2 ติดต่อกันอีก 3 ปี โดยในปี 2550 ถือครองหุ้นมูลค่า 11,153.95 ล้านบาท ปี 2251 ถือครองหุ้นมูลค่า 9,599.16 ล้านบาท และปี 2552 ถือครองมูลค่า 15,830.43 ล้านบาท
เศรษฐีหุ้นอันดับ 2 ในปีนี้ ได้แก่ คีรี กาญจนพาสน์ ประธานกรรมการ บมจ.บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (BTS) โดยถือหุ้น BTS ในสัดส่วน 38.69% รวมมูลค่า 17,816.15 ล้านบาท ก้าวกระโดดจากอันดับ 1,631 ในปีที่แล้วที่ คีรี ถือหุ้น บมจ.ธนายง (TYONG) มูลค่าเพียง 34.07 ล้านบาท คิดเป็นความมั่งคั่งที่เพิ่มขึ้นสูงสุดถึง 17,782.08 ล้านบาท หรือ 52,194.11% ส่งผลให้ คีรี รั้งตำแหน่งแชมป์เศรษฐีหุ้นไทยที่มีมูลค่าหุ้นเพิ่มขึ้นสูงสุดไปอีกตำแหน่งในปีนี้
สำหรับแชมป์เศรษฐีหุ้นไทย 7 ปีซ้อน อนันต์ อัศวโภคิน ประธานกรรมการและกรรมการผู้จัดการ บมจ.แลนด์ แอนด์ เฮาส์ ปีนี้ร่วงมาอยู่ในอันดับ 3 ถึงแม้ว่าหุ้นที่ถือครองจะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นจากปีก่อนก็ตาม โดยปีนี้ อนันต์ ถือครองหุ้นมูลค่ารวม 17,635.31 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,667.96 ล้านบาท หรือ 10.45% ประกอบด้วยหุ้น บมจ.แลนด์ แอนด์ เฮาส์ (LH) 23.76% มูลค่า 17,631.53 ล้านบาท และ บมจ.แมนดาริน โฮเต็ล (MANRIN) 1.67% มูลค่า 3.77 ล้านบาท
ด้าน ประวิทย์ มาลีนนท์ แห่งช่อง 3 ยังคงยึดตำแหน่งเศรษฐีหุ้นอันดับ 4 ไว้ได้อีกเป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน โดยหุ้น บมจ.บีอีซี เวิลด์ (BEC) ที่ประวิทย์ถือในสัดส่วน 11.42% มีมูลค่าเพิ่มขึ้น 3,688.66 ล้านบาท หรือ 71.46% ความมั่งคั่งของประวิทย์ในปีนี้จึงเพิ่มขึ้นเป็น 8,850.50 ล้านบาท
ส่วนเศรษฐีหุ้นอันดับ 5 ได้แก่ วรวิทย์ วีรบวรพงศ์ เจ้าของสยามแก๊ส เศรษฐีหุ้นที่เพิ่งเข้ามาติดทำเนียบในอันดับ 6 เมื่อปีที่แล้วเป็นครั้งแรก โดย วรวิทย์ ถือหุ้น บมจ.สยามแก๊ส แอนด์ ปิโตรเคมีคัลส์ (SGP) 54.13% รวมมูลค่า 8,793.67 ล้านบาท รวยขึ้นถึง 4,473.97 ล้านบาท หรือ 103.57%
ด้านทายาทโอสถสภา นิติ โอสถานุเคราะห์ ถูกเบียดร่วงลงจากอันดับ 3 มาอยู่ในอันดับ 6 ในปีนี้ แม้ว่าราคาหุ้นในพอร์ตโดยรวมจะปรับเพิ่มสูงขึ้นก็ตาม โดยนิติถือครองหุ้นมูลค่ารวม 7,701.26 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,967.69 ล้านบาท หรือ 34.32%
ส่วนเศรษฐีหุ้นอันดับ 7 ตกลงมาจากอันดับ 5 เมื่อปีที่แล้ว ได้แก่ วิโรจน์ ธนาลงกรณ์ เจ้าของธุรกิจเสื้อชั้นในยี่ห้อ “ซาบีนา” โดยมีมูลค่าหุ้นที่ถือครองรวม 6,328.48 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,947.88 ล้านบาท หรือ 44.47%
เศรษฐีหุ้นอันดับ 8-10 ปีนี้ตกเป็นของ 3 พี่น้องแห่งตระกูลมาลีนนท์ซึ่งมีมูลค่าหุ้นที่ถือครอง หุ้น บมจ.บีอีซี เวิล์ด (BEC) ใกล้เคียงกัน โดยเศรษฐีหุ้นอันดับ 8 ได้แก่ ประชุม มาลีนนท์ ถือครองหุ้นมูลค่า 6,148.51 ล้านบาท รวยเพิ่มขึ้น 2,550.20 ล้านบาท หรือ 70.87% เศรษฐีหุ้นอันดับ 9 ได้แก่ รัตนา มาลีนนท์ ถือหุ้นครองหุ้นมูลค่า 6,130.08 ล้านบาท รวยเพิ่มขึ้น 2,548.27 ล้านบาท หรือ 71.14% และเศรษฐีหุ้นอันดับ 10 ได้แก่ อัมพร มาลีนนท์ ถือครองหุ้นรวมมูลค่า 6,129.31 ล้านบาท รวยเพิ่มขึ้น 2,548.44 ล้านบาท หรือ 71.17%
สำหรับตระกูลเศรษฐีหุ้นไทย ปีนี้นับเป็นปีที่ 12 แล้ว ที่ตระกูลมาลีนนท์ ยังคงครองตำแหน่งแชมป์ตระกูลเศรษฐีหุ้นไทยเอาไว้ได้อย่างเหนียวแน่น โดยเครือญาติในตระกูลมาลีนนท์จำนวน 10 คน ได้แก่ ประวิทย์ ประชุม ประสาร รัตนา อัมพร สกลศรี ปิยวดี นิภา เทรซีแอน และแคทลีน มาลีนนท์ ถือครองหุ้นรวมกันมีมูลค่าทั้งสิ้น 44,176.45 ล้านบาท คิดเป็นความมั่งคั่งที่เพิ่มขึ้นถึง 18,306.34 ล้านบาท หรือ 70.76% ตระกูลมาลีนนท์ก้าวเข้ามาเป็นแชมป์ตระกูลเศรษฐีหุ้นไทยตั้งแต่ปี 2540 หลังจากที่นำ บมจ.บีอีซี เวิล์ด (BEC) เจ้าของไทยทีวีสี ช่อง 3 เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในปี 2539 ซึ่งนอกเหนือจากหุ้น BEC แล้ว ยังมีหุ้นที่เครือญาติในตระกูลมาลีนนท์ถือครองอีก 3 บริษัทคือ บมจ.ศิครินทร์ (SKR) บมจ.เวฟ เอ็นเตอร์เทนเมนท์ (WAVE) และบมจ.โรงแรมเซ็นทรัล พลาซา (CENTEL) ส่วนตระกูลเศรษฐีหุ้นอันดับ 2 ได้แก่ ตระกูลวิจิตรพงศ์พันธุ์ ของแชมป์เศรษฐีหุ้นไทยประจำปีนี้ โดยครอบครัววิจิตรพงศ์พันธ์ นำโดย ทองมา และภรรยา ทิพย์สุดา รวมทั้งทายาท มาลินี-ชัญญา วิจิตรพงศ์พันธุ์ ถือครองหุ้น PS ที่ทำโครงการหมู่บ้านจัดสรรแบรนด์ “พฤกษา” รวมมูลค่า 37,618.75 ล้านบาท รวยขึ้นถึง 18,804.83 ล้านบาท หรือ 99.95% ตระกูลอัศวโภคิน ปีนี้ตกลงไปอยู่อันดับ 3 โดย 6 เครือญาติ อนันต์ อนุพงษ์ ทรงพล บุญทรง สุดา และอภิชิต ถือครองหุ้น บมจ.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ (LH) บมจ.แมนดาริน โฮเต็ล (MANRIN) และ บมจ.เอพี พร๊อพเพอร์ตี้ (AP) รวมมูลค่าทั้งสิ้น 21,868.90 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,753.46 ล้านบาท หรือ 8.72% ตระกูลเศรษฐีหุ้นอันดับ 4 ได้แก่ กาญจนพาสน์ โดยมีความมั่งคั่งเพิ่มขึ้นถึง 1,135.90% หรือ 18,629.49 ล้านบาท จากการถือครองหุ้น บมจ.บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (BTS) ของ คีรี และกวิน กาญจนพาสต์ และการถือครองหุ้น บมจ.บางกอกแลนด์ (BLAND) ของอนันต์ และ สาคร กาญจนพาสน์ คิดเป็นมูลค่าหุ้นที่ตระกูลกาญจนพาสน์ถือครองรวมทั้งสิ้น 20,269.56 ล้านบาท
ส่วนตระกูลจิราธิวัฒน์ แห่งเซ็นทรัล ปีนี้อยู่ในอันดับ 5 โดยมีเครือญาติในตระกูลที่ติดอันดับเศรษฐีหุ้นมากที่สุดถึง 30 คน ถือครองหุ้นรวมกันทั้งสิ้น 18,325.42 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5,039.41 ล้านบาท หรือ 37.93%
10 อันดับเศรษฐีหุ้นไทย ประจำปี 2553
อันดับ ชื่อ - นามสกุล จำนวนเงิน เปลี่ยนแปลง
(ล้านบาท) (ล้านบาท) %
1 นายทองมา วิจิตรพงศ์พันธุ์ 31,422.25 15,591.83 98.49
2 นายคีรี กาญจนพาสน์ 17,816.15 17,782.08 52,194.11
3 นายอนันต์ อัศวโภคิน 17,635.31 1,667.96 10.45
4 นายประวิทย์ มาลีนนท์ 8,850.50 3,688.66 71.46
5 นายวรวิทย์ วีรบวรพงศ์ 8,793.67 4,473.97 103.57
6 นายนิติ โอสถานุเคราะห์ 7,701.26 1,967.69 34.32
7 นายวิโรจน์ ธนาลงกรณ์ 6,328.48 1,947.88 44.47
8 นายประชุม มาลีนนท์ 6,148.51 2,550.20 70.87
9 น.ส.รัตนา มาลีนนท์ 6,130.08 2,548.27 71.14
10 น.ส.อัมพร มาลีนนท์ 6,129.31 2,548.44 71.17