กรุงเทพฯ--14 ธ.ค.--บลจ.แอสเซท พลัส
บลจ.แอสเซท พลัส เปิดขาย IPO กองทุนเปิดแอสเซทพลัสไทยฟิกซ์ 5/6M (ASP-THFIXED5/6M) ลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลไทย อายุประมาณ 6 เดือน เสนอขายครั้งเดียว วันนี้ — 16 ธ.ค.นี้ ผลตอบแทน 1.8125% ต่อปี* พร้อมมองหุ้นปีหน้าไปไดัต่อ เปิด IPO กองทุน ASP-SMART9 วันนี้ — 17 ธ.ค. 53
ดร.วิน อุดมรัชตวนิชย์ รองกรรมการผู้จัดการ และหัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหารการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน แอสเซท พลัส จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทฯ มีมุมมองว่าปีหน้าเศรษฐกิจยังคงมีระดับการเติบโตอยู่ในระดับที่ดี และมีโอกาสที่ Flow ของเงินลงทุนไหลจะเข้าสู่ตลาดที่มีพื้นฐานการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง เช่น ประเทศไทย ได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งทางบริษัทเห็นว่าการที่ กนง. ประกาศปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยนโยบายการเงิน 0.25% เป็น 2.00% ในช่วงการประชุมกลางสัปดาห์ที่ผ่านมาแสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นในการเติบโตของเศรษฐกิจไทยในปีหน้าเช่นกัน ทั้งนี้ทางบริษัทมองว่ามีความเป็นไปได้ที่ กนง. อาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีกครั้งในช่วงปลายไตรมาส 1 ปีหน้า
สำหรับการปรับขึ้นของอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ผ่านมาดังกล่าว ส่งผลให้กองทุนตราสารหนี้ระยะสั้นมีผลตอบแทนที่ดีขึ้น ขณะที่กองทุนตราสารหนี้ระยะยาวในช่วงสั้นอาจปรับตัวลดลงจากการ Mark to market ดังนั้น ในแง่ของการลงทุนในตราสารหนี้ช่วงนี้ บริษัทฯ ยังคงแนะนำให้ลงทุนช่วงเวลาสั้นๆ 3-6 เดือน เพื่อไม่ให้เสียโอกาสผลตอบแทนที่จะได้รับในช่วงที่อัตราดอกเบี้ยขาขึ้น จากการมองว่าเศรษฐกิจโลกยังมีแนวโน้มปรับขึ้นต่อเนื่อง และอัตราเงินเฟ้อที่น่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นในอนาคต
ดร.วิน กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับตลาดหุ้นไทยมองว่าอาจมีการปรับตัวลงในช่วงสั้น โดยมีปัจจัยที่ต้องติดตามได้แก่ ปัญหาความขัดแย้งของคาบสมุทรเกาหลี การปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายของจีนตามอัตราเงินเฟ้อที่ปรับตัวขึ้น ความไม่แน่นอนในด้านนโยบายทางด้านการหักลบภาษีของสหรัฐ ปัญหาเชิงลบจากมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณรอบที่ 2 (Quantitative Easing 2 — QE2) ของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) และปัญหาวิกฤตการเงินในยุโรป โดยมองแนวรับในช่วงปรับฐาน SET Index ที่ 980-960 จุด ทั้งนี้ หากปัจจัยต่างๆ เริ่มมีความชัดเจน ตลาดหุ้นไทยในปีหน้าจะเติบโตได้ตามเศรษฐกิจโลก โดยมองว่า SET Index น่าจะมีโอกาสปรับตัวได้อีก 15-30% อยู่ที่ 1,150-1,300 จุดในปีหน้า
“เพื่อรองรับเม็ดเงินจากผู้ลงทุนที่สนใจลงทุนในตราสารภาครัฐระยะสั้นๆ บริษัทฯ จึงเสนอขาย IPO กองทุนเปิดแอสเซทพลัสไทยฟิกซ์ 5/6M (ASP-THFIXED5/6M) ระหว่างวันนี้—16 ธันวาคม ซึ่งเป็นกองทุนตราสารหนี้ไทยระยะสั้น โดยกองทุนจะพิจารณาลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลไทย รุ่น CB11616A อายุประมาณ 6 เดือน โดยให้โอกาสผลตอบแทนหลังหักค่าใช้จ่ายกองทุน ประมาณ 1.8125% ต่อปี*
นอกจากนี้ สำหรับผู้ที่สนใจลงทุนในหุ้น ระหว่างวันนี้ — 17 ธันวาคม บริษัทฯ เปิดเสนอขาย IPO กองทุนเปิดแอสเซทพลัสสมาร์ท 9 (ASP-SMART 9) ซึ่งเป็นกองทุนผสมที่มีอายุโครงการ 1 ปี สามารถปรับสัดส่วนการลงทุนระหว่างตราสารทุนและตราสารหนี้ในประเทศ ได้ 0—100% ทำให้กองทุนมีความยืดหยุ่นในด้านการลดสัดส่วนการลงทุนในหุ้น เพื่อหาจังหวะเข้าลงทุนในช่วงที่ตลาดเหมาะสม และมีเป้าหมายการสร้างผลตอบแทนสุทธิที่ระดับ 10% จากเงินลงทุนเริ่มแรก และปิดกองทุนเมื่อมูลค่าหน่วยลงทุนผ่านระดับ 11.00 บาท หรือเมื่อครบอายุกองทุน 1 ปี แล้วแต่เหตุการณ์ใดจะเกิดก่อน โดยกองทุนจะเน้นลงทุนในหุ้นบริษัทจดทะเบียนขนาดใหญ่ ที่คาดว่าจะได้รับประโยชน์จากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจและเม็ดเงินลงทุนที่ไหลเข้าสู่ตลาดหุ้นเอเชีย ได้แก่ หุ้นในกลุ่มพลังงาน ปิโตรเคมี ธนาคารพาณิชย์ และหุ้นที่คาดว่าจะได้รับประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศ ทั้งนี้ ทีมผู้จัดการกองทุนจะมีการใช้ SET50 FUTURES ที่สะท้อนการปรับตัวของหุ้นขนาดใหญ่ 50 ตัวในตลาดหลักทรัพย์ เพื่อเป็นเครื่องมือในการบริหารความเสี่ยง และเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการกองทุนในช่วงที่ตลาดมีแนวโน้มผันผวนสูงได้” ดร.วิน กล่าว
ดร.วิน กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับผลการดำเนินงานกองทุนหุ้นกลุ่ม SMART ในช่วงที่ผ่านมาอยู่ในระดับที่น่าพอใจ โดยมีการรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติอย่างต่อเนื่อง รวมถึง สามารถปิดกองทุนไปแล้วจำนวน 2 กองทุน โดยล่าสุดกองทุน ASP-SMART6 ที่เสนอขายไปเมื่อปลายเดือน สิงหาคม ที่ผ่านมา ขณะนี้ ผู้จัดการกองทุนได้ทำการขายหลักทรัพย์ในพอร์ตการลงทุนแล้ว โดยสัดส่วนเงินลงทุนส่วนใหญ่อยู่ในตราสารสภาพคล่องเพื่อไม่ให้เสียโอกาสผลตอบแทน และคาดว่า มูลค่า NAV ของกองทุนจะแตะระดับ 11 บาท และปิดกองทุนได้ภายในสัปดาห์นี้
ติดต่อขอรับข้อมูลเพิ่มเติม
ผู้ลงทุนทั่วไป : Call Center 02-672-1111
สื่อมวลชน : ส่วนงานประชาสัมพันธ์ มุกพิม จุลพงศธร
โทร. 02-672-1000 ต่อ 3308 อีเมล์: mookpim_ch@assetfund.co.th