กรุงเทพฯ--5 ก.พ.--สหมงคล ฟิล์ม
หลังจากสร้างความตระการตาใน The Chronicle of Narnia ไปเมื่อ 2 ปีที่แล้ว บริษัท วอลท์ ดิสนี่ย์ ก็กลับมา สร้างความอัศจรรย์ใจอีกครั้งใน Bridge to Terabithia ภาพยนตร์แฟนตาซีผจญภัยทุนสร้าง 6,000 ล้านบาท ที่รับประกันความตื่นตาโดยทีมสเปเชี่ยลเอฟเฟ็กต์จาก The Lord of the Ring และ King Kong
Bridge to Terabithia คือภาพยนตร์แฟนตาซีผจญภัยที่เล่าเรื่องราวของเด็กหญิงและเด็กชายคู่หนึ่งที่ร่วมกันสร้างดินแดนมหัศจรรย์ “ทีราบิเธีย” ขึ้นในป่าและตั้งตนเป็นราชาราชินี ที่นั่น ทุกอย่างล้วนเป็นไปได้ พวกเขามีพลังอำนาจเหนือจินตนาการและต้องต่อกรกับปีศาจเงามืด ต้นไม้เดินได้ และสัตว์ประหลาดลูกสมุน โดยมียักษ์ใจดี และแมลงนักรบคอยช่วยเหลือ พร้อมกับได้เรียนรู้ความหมายอันลึกซึ้งของคำว่า “มิตรภาพ”
วอลท์ดิสนี่ย์ เพิ่งทำให้เด็กทั่วโลกตกตะลึงกับดินแดนมหัศจรรย์ในตู้เสื้อผ้าไปเมื่อปี 2005 กับภาพยนตร์แฟนตาซีฟอร์มยักษ์ The Chronicle of Narnia และกำลังปีนี้เด็กๆจะได้ตื่นตาตื่นใจอีกครั้งกับดินแดนแห่งจินตนาการ “ทีราบิเธีย” ที่หากหลับตาและเปิดใจให้กว้าง ทุกอย่างก็จะเป็นไปได้ หนังสร้างจากการเนรมิตอาณาจักรมหัศจรรย์และสิ่งมีชีวิตเหนือจินตนาการนี้ ตกเป็นหน้าที่ของทีมสเปเชี่ยลเอ็ฟเฟ็กต์แถวหน้าของโลกจากบริษัท Weta Digital ที่คว้ารางวัลออสการ์มาแล้วจากผลงานระดับอลังการ The Lord of the Ring และ King Kong กำกับความมหัศจรรย์โดย เกเบอร์ ซูโป แอนิเมเตอร์ฝีมือเยี่ยมเจ้าของรางวัล Emmy จากแอนิเมชั่นยอดฮิต Rugrats In Paris และ The Wild Thornberry Movie ภายใต้ทุนสร้างมหาศาลกว่า 150 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 6,000 ล้านบาท
ผู้กำกับ เกเบอร์ ซูโป บอกว่า “Bridge to Terabithia คือภาพยนตร์ 2 มิติ ที่มีงานคอมพิวเตอร์แอนิเมชั่น 3 มิติที่ซับซ้อน มีทีมนักแสดงที่ยอดเยี่ยมและงานภาพที่สวยงาม ผมบอกผู้กำกับศิลป์ว่าผมไม่อยากได้สัตว์ประหลาดหน้าตาน่ารัก ผมให้เขาลองดูสไตล์การกำกับของริดลี่ย์ สก๊อตต์ กับ เทอร์รี่ กิลเลี่ยม จากนั้นเขาก็ร่างภาพให้ผมดู จนได้รูปแบบแฟนตาซีที่ทั้งน่าพิศวงและน่าตื่นเต้นนี้มา ผมชอบทำให้เด็กประหลาดใจด้วยตัวละครมหัศจรรย์และฉากยิ่งใหญ่น่าตื่นเต้น คุณหลอกเด็กไม่ได้หรอก พวกเขาต้องการเห็นตัวละครที่น่าตื่นเต้นซึ่งไม่เหมือนกับที่เคยเห็นในวิดีโอเกมหรือสื่ออื่นๆ”
สิ่งมีชีวิตประหลาดทั้งหมดออกแบบโดยผู้กำกับศิลป์ชาวรัสเซีย ไดมา มาร์ลินเคีย ร่วมกับผู้ออกแบบงานสร้าง โรเบิร์ท กิลลี่ส์ ที่ได้แรงบันดาลใจจากศิลปะสไตล์อาร์ทนูโว พวกเขาจินตนาการภาพเมืองทีราบิเธียไปเสนอผู้กำกับสร้างโมเดลและเสก๊ตต์รูปคร่าวๆ ส่งต่อให้ผู้ดูแลวิชวลเอ็ฟเฟ็กต์ แมตต์ เอทกินส์ นำไปทำคอมพิวเตอร์กราฟฟิก 3 มิติ ผลลัพธ์ที่ได้คือทิวทัศน์เมืองทีราบิเธียอันงดงาม ปราสาทอันโอ่อ่า และตัวละครน่าตื่นตาไม่ว่าจะเป็น ยักษ์ป่า, ต้นไม้เดินได้, แมลงนักรบ, กระรอกปีศาจ, หรือชาวเมืองทีราบินเธียรูปร่างหน้าตามหัศจรรย์พันลึก ที่ทีมสเปเชี่ยลเอ็ฟเฟ็กต์บรรจงสร้างสรรค์อย่างประณีตสมจริง
หลับตา เปิดใจ แล้วพลังแห่งจินตนาการจะบันดาลให้ทุกอย่างเป็นจริง
สัมผัสความมหัศจรรย์ฝีมือทีมงานระดับโลกใน Bridge to Terabithia
วันที่ 15 มีนาคมนี้ ทุกโรงภาพยนตร์
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net