กรุงเทพฯ--1 ก.พ.--ทริสเรทติ้ง
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ประกาศคงอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่มีประกันมูลค่ารวม 800 ล้านบาท (LALI077A, LALI078A) ของ บริษัท ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) ที่ระดับ “BBB+” พร้อมแนวโน้ม “Stable” หรือ “คงที่” โดยอันดับเครดิตดังกล่าวสะท้อนถึงชื่อเสียงและประสบการณ์ของบริษัทในธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ประเภทที่อยู่อาศัยราคาปานกลาง ตลอดจนความสามารถในการควบคุมต้นทุนการดำเนินงาน และสถานะทางการเงินที่ดีของบริษัท อันดับเครดิตยังพิจารณาถึงผลการดำเนินงานที่ต่ำกว่าคาดและความผันผวนของธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ โดยที่การชะลอตัวของตลาดที่อยู่อาศัยอันเนื่องมาจากความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่ลดลงและสถานการณ์ทางการเมืองที่ไม่แน่นอนเป็นปัจจัยเสี่ยงที่ต้องระวัง
แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” สะท้อนถึงความคาดหวังว่าบริษัทลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จะยังคงสามารถดำรงสถานะในตลาดบ้านจัดสรรเอาไว้ได้ และด้วยความสามารถในการบริหารต้นทุนที่มีประสิทธิภาพและการมีนโยบายทางการเงินที่ระมัดระวังจะช่วยให้บริษัทสามารถประคองตัวผ่านวงจรขาลงของธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ไปได้
ทริสเรทติ้งรายงานว่า บริษัทลลิล พร็อพเพอร์ตี้ เป็นผู้ประกอบการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ขนาดกลางที่ก่อตั้งขึ้นในปี 2531 โดยนายทวีศักดิ์ วัชรรัคคาวงศ์ และนายไชยยันต์ ชาครกุล ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นหลักในสัดส่วน 2 ใน 3 ของจำนวนหุ้นทั้งหมดของบริษัท บริษัทพัฒนาที่อยู่อาศัยในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยเน้นบ้านเดี่ยว บ้านแฝด และทาวน์เฮ้าส์ในราคาเฉลี่ยประมาณหลังละ 3 ล้านบาท ความสามารถในการควบคุมต้นทุนค่าก่อสร้างและต้นทุนค่าโสหุ้ยทำให้บริษัทมีความได้เปรียบในการเสนอขายบ้านในราคาที่ไม่แพงแต่ยังคงมีกำไรที่ดี ณ สิ้นเดือนกันยายน 2549 บริษัทมีโครงการที่อยู่ระหว่างการพัฒนา 20 โครงการซึ่งเพียงพอสำหรับการขายในอีก 2-2.5 ปีข้างหน้า จากสถานการณ์ที่ไม่แน่นอนในปี 2550 บริษัทอาจต้องชะลอการพัฒนาโครงการใหม่โดยเน้นการขายบ้านในโครงการปัจจุบัน
ผลการดำเนินงานของบริษัทในปี 2549 ถดถอยลง โดยจำนวนบ้านที่ขายได้สำหรับ 9 เดือนแรกของปี 2549 ลดลง 25% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน รายได้จากการขายสำหรับ 9 เดือนแรกของปี 2549 มีมูลค่า 1,488 ล้านบาท ลดลงจาก 2,020 ล้านบาทของช่วงเดียวกันในปีก่อน อย่างไรก็ตาม บริษัทยังคงมีอัตรากำไรขั้นต้น 40% และอัตรากำไรจากการดำเนินงาน 30% ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรม บริษัทมีโครงสร้างเงินทุนที่แข็งแรง โดย ณ สิ้นเดือนกันยายน 2549 บริษัทมีอัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุน 23% และมีหนี้สินรวม 974 ล้านบาทซึ่งรวมหุ้นกู้ทั้ง 2 ชุดที่จะครบไถ่ถอนในปี 2550 ทริสเรทติ้งเห็นว่าด้วยการมีเงินสดในมือ 505 ล้านบาท วงเงินสินเชื่อที่ยังไม่ได้ใช้อีก 643 ล้านบาท ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2549 รวมทั้งสถานภาพการเงินที่ดีน่าจะช่วยให้บริษัทลลิล พร็อพเพอร์ตี้ สามารถหา ทริสเรทติ้งกล่าวถึงความไม่แน่นอนของสถานการณ์ทางการเมืองเนื่องจากเหตุระเบิดในกรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2549 ว่ายิ่งทำให้ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและอุปสงค์ในตลาดที่อยู่อาศัยลดลง ทั้งนี้ แม้จะคาดว่าแรงกดดันจากภาวะเงินเฟ้อและอัตราดอกเบี้ยจะบรรเทาลงในช่วงปี 2550-2551 แต่ก็คาดว่าอุปสงค์ในที่อยู่อาศัยจะยังคงชะลอตัวต่อไป