กรุงเทพฯ--16 ธ.ค.--การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานดูไบ
นายปราโมทย์ ทรัพย์เย็น ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานดูไบ และนายอัครวุฒิ ตั้งศิริกุศลวงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทเวก้า อินเตอร์เทรด แอนด์ เอ็กซิบิชั่น จำกัด ร่วมกันเปิดแถลงข่าวว่า รู้สึกภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่ชาวตะวันออกกลางจากทั่วภูมิภาคและนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกได้เดินทางเข้าชมหมู่บ้านไทย (Thai Pavilion) ซึ่งเป็นหมู่บ้านยอดนิยม1ใน 5 ของงานแสดงสินค้าหมู่บ้านนานาชาติที่ดูไบ( Global Village Dubai2010-2011) ซึ่งจัดมาตั้งแต่วันที่10พฤศจิกายน2553 และจะต่อเนื่องยาวไปจนถึงต้นปี2554 ด้วยเอกลักษณ์ในการตกแต่งสถานที่ท่องเที่ยวของไทย ที่งดงามด้วยสถาปัตยกรรมไทย และมีการแสดง4ภาคที่น่าสนใจตลอดระยะเวลางาน 3 เดือน เรามีร้านอาหารไทยเลิศรสหลายร้านค้า รวมถึงการจำหน่ายสินค้าไทย ได้แก่ ผลไม้สด ผลไม้แปรรูป สมุนไพรไทย ของตกแต่งบ้าน เสื้อผ้า ผลิตภัณฑ์สปาและเครื่องสำอาง ฯลฯ ชาวตะวันออกกลางสนใจอุดหนุนซื้อในงานและออเดอร์สั่งซื้อเป็นสินค้าส่งออกนำรายได้เข้าประเทศไทยด้ว โดย เราได้ประสานกับทาง Thai Trade Center ที่ดูไบ ให้ช่วยประสานในการจัดทำBusiness matching (จับคู่ธุรกิจ) ให้กับกลุ่มผู้ประกอบการ “ที่ผมยินดีเป็นพิเศษก็คือ นักท่องเที่ยวชาวตะวันออกกลาง สนใจเข้ามาท่องเที่ยวประเทศไทยมาก จากการแนะนำทำความเข้าใจและเสนอจุดเด่นต่างๆของประเทศไทย โรงแรม และร้านค้าต่างๆ ที่เข้าร่วมในโปรโมชั่นแคมเปญ Amazing Thailand Card ก็จะได้รับการจับจองมากเป็นพิเศษ นักท่องเที่ยวชาวตะวันออกกลางจะเข้ามาเที่ยวในเมืองไทยกันมากขึ้นกว่า10%จากปีที่แล้ว หรือมากกว่า 400,000 คน” นายปราโมทย์ยังกล่าวเสริมอีกว่าททท.ดูไบดำเนินการโดยสนองนโยบายของททท.ที่จะชูจุดเด่น3ด้านได้แก่ กู๊ด เฮลท์ คือ สุขภาพที่ดี โดยเน้นเรื่องการรักษาพยาบาลที่ดีในไทย,กู๊ด ฟู้ดส์ คือ อาหารที่ดี เน้นให้เห็นว่าไทยมีอาหารรสชาติถูกปาก และประกอบอาหารถูกต้องตามหลักฮาลาลของศาสนาอิสลาม คนในตะวันออกลางที่ส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิสลามจึงรับประทานได้ และ กู๊ด ไพรซ์ คือสินค้าและบริการท่องเที่ยวราคาสมเหตุสมผล คุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไป นายอัครวุฒิ กล่าวสรุปตอนท้ายว่า “เวก้าฯเป็นผู้จัดงาน “หมู่บ้านไทย”ในงานโกลบอลวิลเลจ ดูไบ ซึ่งจัดตั้งแต่วันที่10พย.53-28กพ.54 รวม111วัน หมู่บ้านไทยมีจำนวนมากกว่า111คูหา ได้รับความสนใจเข้าชมและซื้อสินค้ามากกว่าปีที่ผ่านมาอาจเป็นเพราะเราทำการตลาดมากยิ่งขึ้น ทราบความต้องการของชาวตะวันออกกลาง และนำเสนอตรงจุด จึงได้การตอบรับดีเกินคาดทุกปี ผมอยากให้ภาครัฐช่วยสนับสนุนSMEsของไทย ด้านความรู้การตลาด และการสนับสนุนการออกงานแสดงสินค้า ฯลฯ เพื่อเสริมศักยภาพของสินค้าและบริการจากประเทศไทยในตลาดตะวันออกกลางในสถานการณ์ที่อัพเดทจริงๆขณะนี้และในอนาคต”