กรุงเทพฯ--16 ธ.ค.--ไทย บิสิเนส นิวส์
การสำรวจความคิดเห็นจากประชาชน 750 คนที่อาศัยอยู่ในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้อันได้แก่ จังหวัดยะลา นราธิวาสและปัตตานี
วันนี้มูลนิธิเอเชียได้เปิดเผยผลการสำรวจความคิดเห็นของผู้มีสิทธิเลือกตั้งในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ อันได้แก่ ยะลา, นราธิวาสและปัตตานี ด้วยวิธีการสัมภาษณ์ “ตัวต่อตัว” ซึ่งทำเป็นครั้งแรก การศึกษาเรื่อง ประชาธิปไตยและความขัดแย้งในภาคใต้ : การสำรวจผู้มีสิทธิเลือกตั้งในจังหวัดยะลา นราธิวาส และ ปัตตานี นับเป็นการสำรวจครั้งแรกที่เจาะจงเฉพาะพื้นที่ภาคใต้ตอนล่างซึ่งดำเนินการโดยสำนักงานมูลนิธิเอเชีย กรุงเทพฯ การเก็บข้อมูลในพื้นที่ใช้วิธีการสัมภาษณ์แบบตัวต่อตัว ระหว่างวันที่ 2 กรกฎาคม ถึง วันที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2553 โดยสุ่มตัวอย่างจากตัวแทนประชากรจำนวน 750 คนที่อยู่ในช่วงอายุผู้มีสิทธิเลือกตั้ง
ท่านสามารถอ่านรายงานผลสำรวจฉบับเต็มได้ที่ http://asiafoundation.org/southsurvey2010.
การสำรวจความคิดเห็นของประชาชนในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ. 2553 จัดทำขึ้นเพื่อให้เจ้าหน้าที่รัฐ นักวิชาการ องค์กรภาคประชาสังคม องค์กรระหว่างประเทศ และผู้มีส่วนได้เสียอื่น ๆ ได้รับทราบข้อมูลที่จำเป็นเกี่ยวกับมุมมองและประสบการณ์ของประชาชนในพื้นที่ที่เกิดเหตุการณ์ความไม่สงบตลอดระยะเวลา 6 ปี
สืบเนื่องจากการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนจำนวน 1,500 คน (ยกเว้นสามจังหวัดชายแดนภาคใต้) ที่ดำเนินการโดยมูลนิธิเอเชียในปี พ.ศ. 2552 เนื้อหาการสำรวจความคิดเห็นในภาคใต้ตอนล่าง พ.ศ. 2553 ให้ความสำคัญกับอารมณ์ความรู้สึกของประชาชนในภาคใต้ ค่านิยมและสถาบันในระบอบประชาธิปไตย ความสนใจและพลังขับเคลื่อนทางการเมือง อิทธิพลต่อทางเลือกในการลงคะแนนเสียง สาเหตุของความขัดแย้งในภาคใต้ แนวคิดเรื่องการแบ่งแยกดินแดนและการกระจายอำนาจ และบทบาทในการกำหนดค่านิยม อัตลักษณ์ และความคาดหวังของคนในสามจังหวัดชายแดนใต้ของวัฒนธรรมมลายู-ปัตตานีอันมีเอกลักษณ์โดดเด่น
จากการสำรวจพบว่า ประชาชนภาคใต้ตอนล่างเป็นผู้ที่มองโลกในแง่ดีเกี่ยวกับทิศทางของประเทศมากกว่าคนทั้งประเทศ จากการสำรวจระดับประเทศ ในปี พ.ศ. 2552 น้อยกว่าหนึ่งในสาม (31%) คิดว่าประเทศกำลังเดินไปในทิศทางที่ถูกต้อง ขณะที่ 58% คิดว่ากำลังเดินไปในทิศทางที่ผิด ในทางตรงกันข้าม ประชาชนในภาคใต้ตอนล่าง 46% คิดว่าประเทศกำลังเดินไปในทิศทางที่ถูกต้อง และเพียง 41% คิดว่ากำลังเดินผิดทาง
เศรษฐกิจถือเป็นปัจจัยหลักของคนภาคใต้ตอนล่างในการประเมินทิศทางของประเทศ เหตุผลสำคัญของการมองโลกในแง่ดีเกี่ยวกับทิศทางของประเทศคือการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นคำตอบสูงถึง 47% ของผู้ตอบแบบสอบถามผู้ที่กล่าวว่าประเทศกำลังเดินไปในทิศทางที่ถูกต้อง ในทำนองเดียวกัน เมื่อถามว่าปัญหาใหญ่ที่สุดที่ประเทศไทยกำลังเผชิญอยู่คืออะไร การสำรวจระดับประเทศเมื่อปี พ.ศ. 2552 พบว่า 60% ตอบว่าเศรษฐกิจไม่ดี ขณะที่เพียง 23% ของประชาชนในภาคใต้ตอนล่างจากการสำรวจในปี พ.ศ. 2553 มองที่ปัญหาเศรษฐกิจ และอีก 20% ตอบว่าความขัดแย้งในภาคใต้ ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับระดับประเทศ มีเพียง 3% เท่านั้นที่ตอบว่าเป็นเรื่องความขัดแย้งในภาคใต้
เหตุการณ์ความไม่สงบในภาคใต้เป็นประเด็นหลักอีกประเด็นหนึ่งของการสำรวจครั้งนี้ มากกว่าหนึ่งในสาม (37%) ของประชาชนภาคใต้ตอนล่างเชื่อ ว่าสาเหตุหลักของความขัดแย้งในภาคใต้ คือความล้มเหลวของข้าราชการที่ไม่เข้าใจประชาชนในท้องถิ่น เพียง 17% เชื่อว่า ขบวนการแบ่งแยกดินแดนเป็นประเด็นหลัก สองในสาม (65%) เชื่อว่า ความแตกต่างทางเชื้อชาติและศาสนาเป็นประเด็นที่มีสถานะเท่าเทียมกันในการอธิบายความขัดแย้ง ประชาชนส่วนใหญ่ในภาคใต้ตอนล่าง (56% ) เชื่อว่าการปกครองตนเองในท้องถิ่นจะช่วยยุติความขัดแย้งในภาคใต้ แนวทางนี้เป็นแนวทางเดียวกับที่ประชาชนระดับประเทศและภาคใต้ตอนล่างเลือกในฐานะรูปแบบการปกครองที่มีประสิทธิผล (69% ระดับประเทศ และ 67% ภาคใต้ตอนล่าง)
การสำรวจความคิดเห็นระดับชาติจาก 26 จังหวัดครั้งใหม่มีกำหนดเผยแพร่ในปี พ.ศ. 2554 และข้อค้นพบที่ได้จะให้ข้อมูลเชิงลึกใหม่ๆเกี่ยวกับอารมณ์ความรู้สึกของคนไทย
มูลนิธิเอเชียเป็นผู้ออกแบบและกำกับการสำรวจในภาคใต้ตอนล่างครั้งนี้ โดยได้รับการสนับสนุนจากองค์กรเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศของสหรัฐฯ (United State Agency for International Development) และดำเนินการโดย MIAdvisory กรุงเทพฯ มูลนิธิเอเชียมีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับในการจัดทำการสํารวจตามหลักระเบียบวิธีวิจัยเชิงประจักษ์ที่ซับซ้อนเพื่อใช้ในภูมิภาคเอเชียเพื่อที่จะระบุความห่วงใยและความต้องการของประชาชน ตรวจวัดการสนับสนุนของประชาชนเพื่อการริเริ่มการพัฒนา และเพื่อเปิดประเด็นการถกเถียงต่อนโยบายที่สำคัญและนำไปใช้ในการออกแบบและการปรับปรุงโครงการต่างๆของมูลนิธิฯ
ท่านสามารถอ่านรายงานการสำรวจฉบับเต็มทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษเรื่อง ประชาธิปไตยและความขัดแย้งในภาคใต้ : การสำรวจผู้มีสิทธิเลือกตั้งในจังหวัดยะลา นราธิวาส และ ปัตตานี ได้ที่เว็บไซต์ของมูลนิธิเอเชีย
เกี่ยวกับมูลนิธิเอเชีย ประเทศไทย
มูลนิธิเอเชีย ประเทศไทย ทำงานส่งเสริมการแก้ปัญหาความขัดแย้งโดยสันติวิธีและสนับสนุนให้ประชาชนมีส่วนร่วมในกระบวนการทางการเมือง และสนับสนุนโครงการริเริ่มที่จะสร้างระบบธรรมาภิบาลที่โปร่งใสและตอบสนองความต้องการของประชาชนทั่วประเทศ ในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ มูลนิธิฯทำงานร่วมกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียกลุ่มต่างๆเพื่อส่งเสริมความเข้าใจปัญหาที่สร้างความตึงเครียด และอำนวยความสะดวกในการสานเสวนาระหว่างคนในชุมชนและผู้กำหนดนโยบายระดับประเทศเกี่ยวกับอนาคตของภูมิภาค รวมทั้งการเปิดพื้นที่เพื่อแก้ปัญหาความขัดแย้งและสร้างความสงบสุขอย่างยั่งยืน ท่านสามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://asiafoundation.org/country/overview/thailand.
เกี่ยวกับมูลนิธิเอเชีย
มูลนิธิเอเชียเป็นองค์กรเอกชนที่ไม่แสวงหากำไร ซึ่งมีความมุ่งมั่นจะพัฒนาสังคมที่สงบสุข มั่งคั่ง และเปิดกว้างในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก มูลนิธิฯให้การสนับสนุนโครงการต่างๆในเอเชีย เพื่อส่งเสริมการปกครองและกฎหมาย การปฎิรูปเศรษฐกิจและการพัฒนา การมีส่วนร่วมของสตรี และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศให้ดีขึ้น จากประสบการณ์ 60 ปีที่ผ่านมา มูลนิธิฯได้ให้ความร่วมมือทั้งภาครัฐและประชาชน ในการสนับสนุนการพัฒนาผู้นำและสถาบัน โครงการแลกเปลี่ยน และการวิจัยเชิงนโยบาย
เครือข่ายซึ่งประกอบด้วยสำนักงานในประเทศแถบเอเชีย 18 แห่ง สำนักงานในกรุงวอชิงตันดี.ซี. และสำนักงานใหญ่ ณนครซานฟรานซิสโก ทำให้มูลนิธิฯสามารถชี้ให้เห็นถึงประเด็นต่างๆทั้งระดับประเทศและภูมิภาค เฉพาะปี พ.ศ. 2552 มูลนิธิฯได้ให้การสนับสนุนโครงการต่างๆในเอเชียเป็นมูลค่ามากกว่า 86 ล้านเหรียญสหรัฐ และบริจาคหนังสือมากกว่าหนึ่งล้านเล่ม รวมทั้งอุปกรณ์การศึกษาซึ่งมีมูลค่าเกือบถึง 43 ล้านเหรียญสหรัฐ
สอบถามข้อมูลข่าว:
ในกรุงเทพฯ: คุณเรืองระวี พิชัยกุล
ผู้จัดการโครงการอาวุโส
อีเมล: jieb@asiafound.org
โทร: 02-233-1644-7 ต่อ 35
ในกรุงเทพฯ: คุณยุพา ภูสาหัส
เจ้าหน้าที่โครงการอาวุโส
อีเมล: yupa@asiafound.org
โทร: 02-233-1644-7 ต่อ 34
Media Contacts:
ในซานฟรานซิสโก: Amy Ovalle
อีเมล: aovalle@asiafound.org
โทร: +1-415.743.3340
ในซานฟรานซิสโก: Eelynn Sim
อีเมล: esim@asiafound.org
โทร: +1-415.743.3318