กรุงเทพฯ--16 ธ.ค.--ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย
ibank สนองนโยบายรัฐบาล เตรียมวงเงิน 2,500 ล้านบาท ในโครงการ SMEs เยียวยาผลกระทบบาทแข็ง หวังช่วยเหลือ SMEs ที่ได้รับผลกระทบจากการแข็งค่าของเงินบาท เริ่มตั้งแต่วันนี้ ถึง 30 มิถุนายน 2554
นายธีรศักดิ์ สุวรรณยศ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (ibank) เปิดเผยว่า จากการที่อัตราแลกเปลี่ยนได้แข็งค่าขึ้นอย่างมากทำให้ผู้ประกอบการธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ โดยเฉพาะผู้ส่งออก SMEs ได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยน ทั้งด้านกำไรและปริมาณการส่งออกที่ลดลง ซึ่งมีผลโดยตรงต่อรายได้และการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจประเทศ เพราะรายได้หลักของประเทศไทยมาจากการส่งออก ทำให้ ibank ได้ออกมาตรการช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการแข็งค่าของเงินบาทตามมาตรการของรัฐบาล ด้วยการออก “โครงการ SMEs เยียวยาผลกระทบบาทแข็ง”
“ibank ออกโครงการนี้เพื่อร่วมบรรเทาผลกระทบต่อผู้ประกอบการในธุรกิจส่งออก จากภาวะค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้น ทั้งที่เป็นผู้ส่งออกหรือผลิตให้กับผู้ส่งออก โดยเฉพาะในภาคเกษตร ผลผลิตที่เกี่ยวกับการเกษตร หัตถอุตสาหกรรมสิ่งทอ เฟอร์นิเจอร์ กลุ่มส่งออกอาหารทะเลแช่แข็ง ไก่สดแช่แข็ง หรือไก่ปรุงสุก เพราะค่าเงินบาทยังมีแนวโน้มที่จะแข็งค่าขึ้นอีก ” นายธีรศักดิ์กล่าว
โดยโครงการดังกล่าวประกอบด้วย 3 ผลิตภัณฑ์ คือ สินเชื่อวงเงินทุนระยะยาว สินเชื่อเพื่อการส่งออก (Packing Credit) ซึ่งธนาคารคิดอัตรากำไร 2 ปีแรกที่ SPRR-2.75% และปีต่อไปคิด SPRR+1 ( ปัจจุบัน SPRR เท่ากับ 7.25%) ด้วยระยะเวลาผ่อนชำระสูงสุดไม่เกิน 5 ปี เพื่อช่วยเพิ่มสภาพคล่องให้กับผู้ประกอบการส่งออกที่ได้รับผลกระทบจากค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น และเพื่อส่งเสริมสินเชื่อเพื่อการค้าแก่SMEs ที่ส่งออก
และการทำประกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน (Forward Contract) สูงสุดไม่เกิน 500,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อราย เพื่อช่วยลดความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นจากอัตราแลกเปลี่ยนที่มีความผันผวนในทิศทางที่ภาวะเงินบาทแข็งค่าขึ้น โดยสามารถเข้าถึงการทำ Forward ได้ โดยมีต้นทุนที่ต่ำลง
สำหรับผู้ประกอบการที่สนใจขอสินเชื่อใน“โครงการ SMEs เยียวยาผลกระทบบาทแข็ง“ สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร.0-2650-6999 ต่อ 3321 , 3324 หรือธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย ทุกสาขาทั่วประเทศ ตั้งแต่วันนี้ ถึง 30 มิถุนายน 2554 ธนาคารของคุณ ... อุ่นใจเมื่อใช้ไอแบงก์