กรุงเทพฯ--17 ธ.ค.--ฟิทช์ เรทติ้งส์
ฟิทช์ เรทติ้งส์ ประกาศคงอันดับความแข็งแกร่งทางการเงิน (Insurer Financial Strength (IFS)) ของบริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (MTL) ที่ ‘BBB+’ แนวโน้มมีเสถียรภาพ และอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินภายในประเทศ (National IFS) ที่ ‘AA(tha)’ โดยแนวโน้มอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินภายในประเทศได้ปรับเพิ่มเป็นบวก
การปรับเพิ่มแนวโน้มอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินภายในประเทศเป็นบวก สะท้อนถึงความแข็งแกร่งของเครือข่ายในการดำเนินธุรกิจ และสถานะทางการตลาดในฐานะบริษัทประกันชีวิตขนาดใหญ่อันดับที่สามของประเทศไทย เห็นได้จากส่วนแบ่งทางการตลาดที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากการที่บริษัทประสบความสำเร็จจากใช้กลยุทธ์ในการให้บริการที่หลากหลายช่องทาง รวมทั้งระดับเงินกองทุนที่มั่นคงและความสามารถในการทำกำไรเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้อันดับความแข็งแกร่งทางการเงินยังคำนึงถึงการให้การสนับสนุนด้านการดำเนินธุรกิจอย่างต่อเนื่องของผู้ถือหุ้นใน MTL ซึ่งได้แก่ Ageas Insurance International N.V. (Ageas) และ ธนาคารกสิกรไทย (KBANK ได้รับการจัดอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศที่ ‘BBB+’ แนวโน้มมีเสถียรภาพ) ซึ่งเป็นธนาคารขนาดใหญ่อันดับที่สามของประเทศไทย
ผลการดำเนินงานของ MTL มีการปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากการเติบโตของเบี้ยประกันภัยและรายได้จากเงินลงทุน รวมทั้งค่าใช้จ่ายที่ปรับตัวลดลง อัตราส่วนกำไรสุทธิต่อสินทรัพย์รวมเฉลี่ย ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 2.7% ในปี 2552 จาก 2.5% ในปี 2550-2551 ผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งแรกของปี 2553 มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมากเช่นกัน โดยอัตราส่วนกำไรสุทธิต่อสินทรัพย์รวมเฉลี่ยปรับเพิ่มขึ้นเป็น 3.2% ฟิทช์คาดว่าการเติบโตของผลกำไรจะเป็นไปอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากช่องทางการจำหน่ายที่หลากหลายมากขึ้น และจากการร่วมมือทางธุรกิจกับ KBANK อย่างแน่นแฟ้นมากขึ้น รวมทั้งแนวโน้มเศรษฐกิจที่น่าจะปรับตัวดีขึ้น
เช่นเดียวกันกับบริษัทประกันชีวิตอื่นในประเทศแถบเอเชีย MTL ต้องเผชิญกับปัญหาการบริหารสินทรัพย์ และหนี้สิน โดยส่วนต่างระหว่างระยะเวลาครบกำหนดของสินทรัพย์และหนี้สินยังคงอยู่ในระดับที่สูง แต่ได้ปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง จากการเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในสินทรัพย์ประเภทผลตอบแทนคงที่ระยะยาวและตราสารอนุพันธ์ที่มีความเสี่ยงต่ำ ขณะเดียวกันบริษัทยังคงดำเนินกลยุทธ์ในการลงทุนที่มีความเสี่ยงต่ำ โดยสินทรัพย์ประเภทผลตอบแทนคงที่มีสัดส่วนเป็น 84% ของสินทรัพย์ลงทุนรวม ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2553 ส่วนการลงทุนในตราสารทุนและตราสารสกุลเงินต่างประเทศยังมีสัดส่วนที่ไม่สูงนักและมีการป้องกันความเสี่ยงไว้อย่างครบถ้วน
ปัจจุบัน MTL ไม่มีหนี้สินและยังไม่มีความจำเป็นที่จะต้องพึ่งพาแหล่งเงินกู้ในระยะสั้นถึงปานกลาง สภาพคล่องของบริษัทมีการปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมีอัตราส่วนสินทรัพย์สภาพคล่องต่อหนี้สินตามกรมธรรม์ประกันภัยซึ่งปรับตัวสูงขึ้นเป็น 107.9% ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2553 เทียบกับ 105.0% ณ สิ้นปี 2552 และบริษัทยังไม่มีความต้องการใช้สินทรัพย์สภาพคล่องในระยะสั้น
ระดับเงินกองทุนของ MTL มีความแข็งแกร่ง โดยระดับเงินกองทุน ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2553 อยู่ที่ 877% ของระดับเงินกองทุนขั้นต่ำที่ต้องดำรงตามกฎหมายภายในประเทศ ขณะเดียวกันระดับเงินกองทุนของบริษัทตามมาตรฐานของยุโรปซึ่งเป็นมาตรฐานที่กลุ่มบริษัท Ageas ใช้ อยู่ในระดับที่สูงเช่นกันที่ 281% ฟิทช์คาดว่าระดับเงินกองทุนของบริษัทจะยังคงอยู่ในระดับที่แข็งแกร่ง และยังสามารถรองรับการเติบโตของธุรกิจในอนาคตโดยไม่มีความจำเป็นที่จะต้องมีการจัดหาแหล่งเงินทุนเพิ่มเติม
ปัจจัยที่จะทำให้อันดับความแข็งแกร่งทางการเงินภายในประเทศ (National IFS rating)ได้รับการปรับเพิ่มขึ้น 1 อันดับ ได้แก่เครือข่ายในการดำเนินธุรกิจและสถานะทางการตลาดที่มีการปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่องในระยะปานกลาง การรักษาเงินกองทุน และความสามารถในการทำกำไรให้อยู่ในระดับที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตามโอกาสที่จะมีการปรับเพิ่มอันดับความแข็งแกร่งทางการเงิน (IFS rating) ยังมีไม่มาก เนื่องจากความแตกต่างของส่วนแบ่งทางการตลาด ระดับเงินกองทุน และขนาดของสินทรัพย์ ระหว่าง MTL และบริษัทประกันชีวิตอันดับหนึ่งยังคงมีอยู่มาก รวมถึงความสัมพันธ์ระหว่างอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินของบริษัทและอันดับเครดิตสากลสกุลเงินในประเทศของประเทศไทย ซึ่งอยู่ที่ ‘A-’ แนวโน้มอันดับเครดิตเป็นลบ ในทางตรงกันข้าม หากความแตกต่างของปัจจัยดังกล่าวมีมากขึ้น อาจส่งผลให้อันดับความแข็งแกร่งทางการเงินถูกปรับลดลง 1 อันดับ
ติดต่อ
Primary Analyst
นฤมล ชาญชนะวิวัฒน์
Director
+662 655 4763
บริษัท ฟิทช์เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด
55 ถนน วิทยุ ลุมพินี ปทุมวัน กรุงเทพฯ 10330
Secondary analyst
Siew Wai Wan
Senior Director
+65 6796 7217
Committee Chairperson
Harish Gohil
Managing Director
+44 20 3530 1257