กรุงเทพฯ--17 ธ.ค.--กนกรัตน์ แอนด์ เฟรนด์
สุทธิกัญญา ไทยเพ็ชร ผู้อำนวยการขาย บริษัท เล็กซ์ซัส กรุงเทพ จำกัด เปิดเผยว่า จากภาพรวมธุรกิจในช่วงต้นปีที่ผ่านมา แม้ตลาดรถยนต์จะได้รับผลกระทบจากการเมืองภายในประเทศบ้าง แต่เชื่อมั่นว่ายังสามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง โดยตั้งเป้ายอดขายปี 53 ไว้สูงกว่าปีที่แล้วประมาณ 15% ซึ่งจากการดำเนินงานใน 3 ไตรมาส บริษัทฯ สามารถบรรลุเป้าหมายการขายได้สำเร็จ ส่งผลให้ยอดขายในปี 53 อยู่ที่ 115 คัน จากยอดการขาย 10 เดือนมีการส่งมอบรถไปแล้วกว่า 95 คัน จึงมีส่วนแบ่งทางการตลาดอยู่ที่ 47 % ของดีลเลอร์เลกซัสทั้งหมด ซึ่งรถยนต์รุ่น IS250 และ RX270 ที่เพิ่งเปิดตัวถือเป็นรุ่นที่ขายดีที่สุด
การเป็นดีลเลอร์แรก ทำให้ เล็กซ์ซัส กรุงเทพ เป็นผู้เชี่ยวชาญทั้งด้านการขายและบริการหลังการขายมากด้วยประสบการณ์ที่สะสมมากว่า 17 ปี มีจุดเด่นและความแตกต่างทั้งในเรื่องของการสร้าง นวัตกรรมในการบริการแบบใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง มีการใช้เครือข่ายกับองค์กรต่างๆในการให้บริการ เช่น กับตัวแทนจำหน่ายโตโยต้า อย่างสม่ำเสมอ ดำเนินงานภายใต้นโยบายที่ชัดเจน นอกจากเป็นศูนย์บริการที่ครบวงจรด้วยประสบการณ์ความเชี่ยวชาญอันยาวนานแล้ว ยังเน้นให้บริการแบบเอ็กซ์คลูชีฟเฉพาะลูกค้าที่ซื้อจากศูนย์บริการที่นำเข้าจาก บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เท่านั้น พร้อมให้การดูแลอย่างใกล้ชิด รับประกันนานสูงสุด 4 ปี ไม่จำกัดระยะทาง อีกทั้งสร้างความมั่นใจในเรื่องคุณภาพของรถยนต์เลกซัสที่นำเข้าทุกคัน ด้วยการคัดเลือกอุปกรณ์ที่เหมาะสม กับภูมิประเทศ ภูมิอากาศ ในแต่ละโซนของโลก
ส่วนกลยุทธ์สำคัญของบริษัทฯ ได้มุ่งเน้นบริการในแบบ Personal Touch มาโดยตลอด มีการจัด Lexus Butler ซึ่งเป็นผู้ดูแลส่วนตัวให้ลูกค้า ถึงแม้พนักงานขายคนเก่าลาออก พนักงานขายใหม่จะมีหน้าที่ดูแลลูกค้าต่อทันที ซึ่งปัจจุบัน มีลูกค้ากว่า 2,500 ท่าน โดยสามารถดูแลลูกค้าได้อย่างทั่วถึงและเต็มประสิทธิภาพทุกคน นอกจากนี้ ยังมีการจัดกิจกรรม Lexus Club ร่วมกับ โตโยต้า ซึ่งเป็นกิจกรรมลูกค้าสัมพันธ์ที่จัดขึ้นอย่างสม่ำเสมอ เพื่อตอบแทนลูกค้าทุกคน ครอบคลุมไปถึงลูกค้าเก่าแม้จะไม่ได้ใช้รถยนต์คันเดิมแล้วก็ตาม พร้อมทั้งให้ความสำคัญต่อมาตรฐานการให้บริการของบุคลากร โดยการทำงานต้องเป็นไปตามที่บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด กำหนด ซึ่งบุคลากรจะได้รับการฝึกอบรมอย่างต่อเนื่อง เฉลี่ยอายุการทำงานของพนักงานจะต้องมากกว่า 6 ปี และในระดับหัวหน้างานล้วนมีประสบการณ์มากกว่า 15 ปี จึงทำให้สามารถเข้าใจถึงพฤติกรรมของกลุ่มลูกค้า เข้าถึงความต้องการและสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้กับลูกค้าได้เป็นอย่างดี ดังนั้นจะเห็นได้ว่าลูกค้าส่วนใหญ่ของบริษัทฯ จะเป็นกลุ่มลูกค้าเก่าและลูกค้าใหม่ที่ได้รับการแนะนำมาจากลูกค้าเก่าอีกที ดังนั้นกลยุทธ์ Word of Mouth แนะนำให้มาใช้บริการ จึงเป็นยิ่งกว่า การมีโชว์รูม หลาย ๆ ที่ จากที่กล่าวมาทั้งหมด ถือเป็นสูตรความสำเร็จที่ทำให้เกิดยอดขายและส่งผลให้ เล็กซ์ซัส กรุงเทพ ก้าวเป็นดีลเลอร์เลกซัส อันดับ 1 ของไทยมาจนถึงทุกวันนี้
สำหรับปี 53 บริษัทฯ ได้มีการจัดกิจกรรม Test Drive ลงพื้นที่ต่างจังหวัดมากขึ้น โดยเน้นไปตามหัวเมืองใหญ่ เช่น ภูเก็ต, เชียงใหม่, ขอนแก่น พร้อมได้มีการแนะนำ Lexus Service Corner ให้ลูกค้าได้รับทราบเพื่อความสะดวกในการใช้บริการยิ่งขึ้น ในส่วนกิจกรรม CRM ที่น่าสนใจ นั้นก็คือ Lexus Butler ผู้ดูแลส่วนตัวเกี่ยวกับรถยนต์ Lexus ทั้งเรื่องกิจกรรม Lexus club, นัดหมายรถเข้าซ่อม, ต่อภาษีประจำปี ซึ่งเป็นอีกหนึ่งบริการเสริมที่ทำให้ เล็กซ์ซัส กรุงเทพ แตกต่างจากดีลเลอร์เลกซัสอื่นๆ
ด้านแผนงานในอนาคตของ เล็กซ์ซัส กรุงเทพ ในปี 54 นั้น จะรุกตลาดโดยการนำรถยนต์รุ่นใหม่ อย่าง Lexus CT200h ซึ่งเป็นเครื่องยนต์ Hybrid มาเจาะตลาดคนรุ่นใหม่ ที่มีความรู้ และมีจิตสาธารณะ รับผิดชอบต่อสังคม สำหรับ Lexus CT200h คาดว่าจะเป็นรุ่นที่จะสร้างตลาดใหม่ ตอบสนองความต้องการรถยนต์ที่มีความคล่องตัว โดดเด่น หรูหรา และคงความเป็น High Technology ซึ่งเป็นจุดแข็งของ Lexus ซึ่งราคาน่าจะอยู่ประมาณ 2 ล้านต้นๆ โดยได้วางงบประมาณกว่า 6 ล้านบาท เพื่อปลุกกระแสตลาดพร้อมสร้างความเชื่อมั่น เพื่อตอบโจทย์ที่ว่า “ถ้าจะซื้อรถหรู รถ Hi Tech ต้องคิดถึง Lexus และถ้าคิดถึง Lexus ต้อง เล็กซ์ซัส กรุงเทพ เท่านั้น” ดังนั้นกว่าครึ่งหนึ่งของงบประมาณดังกล่าว จึงมุ่งเน้นไปที่กิจกรรม CRM เพื่อสร้างประสบการณ์ตรงในการขับขี่อย่างเหนือระดับให้กับลูกค้า ด้วยกิจกรรมหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการท่องเที่ยว อาหาร ความงามและสุขภาพ ตลอดจนชมการแสดงต่างๆ
ผู้อำนวยการฝ่ายขาย บริษัท เล็กซ์ซัส กรุงเทพ จำกัด กล่าวเสริมว่า สำหรับดีลเลอร์อื่น มองว่าทุกวันนี้มีการแข่งขันในด้านการให้บริการลูกค้ามากขึ้น ถือเป็นเรื่องที่ดี เพราะเป็นการยกระดับมาตรฐานการให้บริการ อีกทั้งเป็นแรงจูงใจให้เกิดการพัฒนาศักยภาพของดีลเลอร์อย่างต่อเนื่อง สำหรับ Gray market ที่ไม่ได้มาตรฐาน มองว่าอาจจะอยู่ได้ยากในสถานการณ์ที่มีการแข่งขันสูงอย่างนี้
ส่วนในเรื่องของพฤติกรรมการเลือกซื้อรถในปีหน้า มองว่าเทรนด์ความนิยมรถยนต์ขนาดเล็กจะมีเพิ่มขึ้น กระแสของรถประหยัดพลังงาน คาดว่าจะได้รับการตอบรับจากตลาดในประเทศเพิ่มมากขึ้นกว่าปีที่53 เนื่องจากการจราจรที่แออัด หาที่จอดรถยาก ต้องการรถที่ประหยัดน้ำมัน ซึ่งในงาน Motor Expo 2010 เล็กซ์ซัส กรุงเทพ ได้ร่วมออกบูธด้วย ปรากฏว่า รถ Lexus CT200h Hybrid ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดียิ่ง งานนี้จึงได้เตรียมข้อเสนอพิเศษ สำหรับ New Lexus CT200h ด้วยอัตราดอกเบี้ย 1.88% โดยได้ตั้งเป้ายอดขายในงานไว้ที่ 30 คัน คาดมีผู้สนใจจองรถตามเป้าที่ตั้งไว้อย่างแน่นอน
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
บริษัท กนกรัตน์ แอนด์ เฟรนด์ จำกัด โทร 02-284-2662