กรุงเทพฯ--17 ธ.ค.--ฟิทช์ เรทติ้งส์
บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศคงอันดับเครดิตภายในประเทศของหุ้นกู้ที่ออกโดยบริษัท สยามพาณิชย์ เอสพีวี 1 จำกัด (Siam Panich SPV) โครงการนี้เป็นโครงการแปลงสินทรัพย์เป็นหลักทรัพย์ประเภทลูกหนี้เช่าซื้อรถยนต์ของบริษัท ไทยพาณิชย์ ลีสซิ่ง จำกัด (มหาชน) (SCBL, อันดับเครดิต ‘A+(tha)’/แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ/‘F1+(tha)’) รายละเอียดของอันดับเครดิตมีดังต่อไปนี้
- หุ้นกู้ชุด B มูลค่า 992.5 ล้านบาท คงอันดับเครดิตที่ ‘AAA(tha)’ แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ อันดับ loss severity ที่ ‘LS1’ โดยมีวันครบกำหนดไถ่ถอนหุ้นกู้วันสุดท้าย (legal final maturity) ในเดือนมีนาคม 2557
การประกาศคงอันดับเครดิตของหุ้นกู้พร้อมด้วยแนวโน้มมีเสถียรภาพ สะท้อนถึงความสามารถของโครงการในการคงระดับส่วนช่วยสนับสนุนเครดิต (credit enhancement) นับแต่วันเริ่มโครงการ นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยสนับสนุนจากการที่ลูกหนี้เช่าซื้อภายใต้โครงการได้ทำการผ่อนชำระมาเป็นระยะเวลานานและผลการดำเนินงานของกลุ่มลูกหนี้ที่ปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง
อรวรรณ การุณกรสกุล Senior Director ฝ่าย Structured Finance ของฟิทช์ กล่าวว่า “ผลการดำเนินงานของ Siam Panich SPV ได้ปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยอัตราส่วนหนี้ผิดนัดชำระได้ลดลงตั้งแต่ปลายปี 2551 ในขณะที่อัตราส่วนหนี้เสียสะสม (cumulative default rate) อยู่ในระดับที่ดีเมื่อเทียบกับสมมุติฐานของฟิทช์ จากการที่โครงการมีค่าเฉลี่ยของจำนวนงวดเช่าซื้อที่ชำระแล้ว (average paid term) อยู่สูงถึงประมาณ 73% ของค่าเฉลี่ยของจำนวนงวดเช่าซื้อที่ต้องชำระทั้งหมด (average original term) น่าจะส่งผลให้การเพิ่มขึ้นของการผิดนัดชำระหนี้ในอนาคตอยู่ในระดับต่ำ นอกจากนี้ โครงการยังสามารถคงระดับส่วนช่วยสนับสนุนเครดิตได้ที่ 24.2% นับแต่วันเริ่มโครงการ“
ฟิทช์เชื่อว่าระดับส่วนช่วยสนับสนุนเครดิตในปัจจุบันและจากการที่โครงการมีลูกหนี้เช่าซื้อที่ได้ทำการผ่อนชำระมาเป็นระยะเวลานาน จะเป็นปัจจัยช่วยรองรับผลการดำเนินงานของกลุ่มลูกหนี้ในอนาคตได้ นอกจากนี้ ฟิทช์ยังมองว่า SCBL มีความสามารถในการเรียกเก็บหนี้ที่ค่อนข้างแข็งแกร่งเนื่องจากบริษัทมีประสบการณ์ในการดำเนินธุรกิจเช่าซื้อรถยนต์ ณ ปัจจุบัน หุ้นกู้ชุด A ของ Siam Panich SPV ได้รับการชำระเต็มจำนวนแล้วในวันที่คาดว่าจะเป็นวันไถ่ถอนหุ้นกู้ครบทั้งจำนวน (expected maturity date) ในเดือนมีนาคม 2553 ในขณะที่หุ้นกู้ชุด B อยู่ในช่วงทยอยชำระคืนเงินต้น โดยมีวันที่คาดว่าจะเป็นวันไถ่ถอนหุ้นกู้ครบทั้งจำนวนในเดือนกันยายน 2554