กรุงเทพฯ--22 ส.ค.--ปภ.
กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เตือนประชาชนในพื้นที่ภาคเหนือและภาคใต้ฝั่งตะวันตก ให้เตรียมพร้อมรับมือกับภาวะฝนตกเพิ่มมากขึ้นและฝนตกหนักในช่วงระยะนี้ โดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง สตูล และสุราษฎร์ธานี รวมทั้งผู้ที่อาศัยบริเวณที่ลาดเชิงเขาและพื้นที่ลุ่มน้ำ พร้อมกำชับเจ้าหน้าที่ให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อเตรียมพร้อมในการช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภัย
นายอนุชา โมกขะเวส อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบสภาพอากาศในระยะนี้ พบว่า ในระหว่างวันที่ 20 — 26 สิงหาคม 2550 มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรง ยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทยและอ่าวไทย ทำให้ประเทศไทยตอนบนและภาคใต้ฝั่งตะวันตก ยังคงมีฝนฟ้าคะนองและมีฝนหนักบางแห่ง สำหรับคลื่นลมในทะเลอันดามันและอ่าวไทย จะมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร จึงขอเตือนประชาชนที่อาศัยในพื้นที่ดังกล่าว โดยเฉพาะพื้นที่ภาคใต้ฝั่งตะวันออก จังหวัดระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง สตูล และ สุราษฎร์ธานี ให้เพิ่มความระมัดระวัง และเตรียมความพร้อมรับมือกับภาวะน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากในพื้นที่และมีแนวโน้มขยายพื้นที่ได้อีก เนื่องจากยังคงมี
ฝนตกอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งผู้ที่อาศัยบริเวณที่ลาดเชิงเขาและพื้นที่ลุ่มน้ำ ให้ระมัดระวังอันตรายจากภาวะฝนตกหนัก พายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่มตามแนวเชิงเขา สำหรับชาวเรือ ควรระมัดระวังอันตรายจากการเดินเรือใน 1- 2 วันนี้ ( วันที่ 21 -22 สิงหาคม 2550 ) เบื้องต้น กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้แจ้งเตือนไปยังจังหวัดที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบ รวมทั้งศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตในพื้นที่เสี่ยงภัย ให้เตรียมการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย วาตภัย ดินถล่มและคลื่นลมแรง โดยแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยเพิ่มความระมัดระวังอันตรายที่เกิดจากฝนตกหนัก จัดเตรียมเจ้าหน้าที่ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง รวมทั้งเตรียมเครื่องมืออุปกรณ์ให้พร้อมเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้ทันต่อเหตุการณ์
นอกจากนี้ นายอนุชา ยังกล่าวอีกต่อไปว่า ในช่วงเดือนสิงหาคมถึงปลายเดือนตุลาคม เป็นช่วงที่ประเทศไทยเข้าสู่ฤดูฝน ซึ่งจะมีฝนตกหนัก หรือพายุลมแรง มักจะเกิดอุบัติภัยร้ายแรงบ่อย ดังนั้น กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จึงเตือนประชาชน ให้เตรียมความพร้อมรับมือกับสถานการณ์อุทกภัยที่อาจเกิดขึ้น โดยให้ติดตามข่าวสาร ประกาศคำเตือน ข่าวการพยากรณ์อากาศอย่างใกล้ชิด ผู้ที่อาศัยในพื้นที่เสี่ยงภัยน้ำท่วม ให้เตรียมขนย้ายทรัพย์สินของมีค่า อุปกรณ์ไฟฟ้าไว้บนที่สูง เตรียมอาหารกระป๋อง เครื่องเวชภัณฑ์ เครื่องนุ่งห่ม และไฟฉาย ให้พร้อมใช้งาน สำหรับผู้ที่อาศัยในพื้นที่เสี่ยงภัยบริเวณลาดเชิงเขา ใกล้ลำน้ำ ให้ระมัดระวัง ดินโคลนถล่ม น้ำท่วมฉับพลัน โดยให้สังเกตจากสิ่งบอกเหตุ หากมีฝนตกหนักติดต่อกันนานกว่า 6 ชั่วโมง มีปริมาณฝนมากกว่า 100 มิลลิเมตร/วัน สีน้ำในลำห้วยเปลี่ยนเป็นสีเดียวกับดินบนภูเขา ระดับน้ำสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ให้รีบแจ้งเตือนชาวบ้าน เพื่ออพยพไปตามเส้นทางที่กำหนดไว้ ไปอยู่ในพื้นที่ปลอดภัย ในช่วงเกิดพายุฝนลมแรงควรหลีกเลี่ยง การอยู่ใกล้กับต้นไม้ใหญ่ เสาไฟฟ้า และป้ายโฆษณา ซึ่งอาจหักโคนลงมาทับได้ ในกรณีเกิดลมพัดแรงให้หลบอยู่ภายในบ้านหรืออาคารที่มั่นคงแข็งแรง หลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง เพราะอาจมีสิ่งของปลิวใส่ และไม่ควรออกไปว่ายน้ำ หรือนำเรือออกจากฝั่ง ในขณะที่เกิดฝนฟ้าคะนอง เพราะอาจได้รับอันตรายจากการโดนพายุหรือกระแสน้ำพัดออกจากฝั่งและอาจทำให้เรือล่มได้ สำหรับผู้ที่ขับขี่รถอยู่บนท้องถนน ควรเพิ่มความระมัดระวังในขณะขับขี่ให้มาก เพราะฝนทีตกลงมาทำให้ถนนลื่น ทัศน์วิสัยในการมองเห็นลดลง ทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่าย ดังนั้น ควรหมั่นตรวจสอบอุปกรณ์ รถยนต์ให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน สุดท้ายนี้ หากประชาชนในพื้นที่ใดได้รับความเดือดร้อนจากสาธารณภัย สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ที่ สายด่วนสาธารณภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานและให้การช่วยเหลือ โดยด่วนต่อไป