PYLON จ่ายปันผลหุ้นละ 0.025บ.ตอบแทน ผถห. มั่นใจปี 2550 รายได้โตต่อเนื่องหลังปัจจัยลบคลี่คลาย

ข่าวทั่วไป Thursday March 1, 2007 17:19 —ThaiPR.net

Bangkok--1 Mar--ไพลอน
PYLON ใจดีควักเงิน 3.75 ล้านบาท จ่ายปันผลให้กับผู้ถือหุ้นอัตราหุ้นละ 0.025 บาท แม้รอบปีที่ผ่านมาต้องกับเผชิญปัญหาและอุปสรรคในการทำงานซึ่งเป็นปัจจัยกดดันให้ผลการดำเนินงานลดลง อย่างไรก็ตาม มั่นใจปี 2550 แนวโน้มการดำเนินธุรกิจดีขึ้นชัดเจน หลังปัจจัยลบต่างๆ เริ่มคลี่คลาย ทั้งเรื่องการเมืองและราคาน้ำมัน โดยขณะนี้งานภาครัฐและเอกชนเริ่มเดินหน้าต่อได้แล้ว เชื่อรายได้เฉพาะส่วนของงานฐานรากทะลุ 500-550 ล้านบาทแน่ ขณะที่กำไรขั้นต้นจะดีขึ้นกว่าเดิมไม่น้อยกว่า 40%
นายชเนศวร์ แสงอารยะกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไพลอน จำกัด (มหาชน) หรือ PYLON กล่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทครั้งที่ 1/2550 ได้มีมติอนุมัติให้บริษัทนำกำไรมาจัดสรรเป็นเงินปันผลประจำปี 2549 ให้กับผู้ถือหุ้น จำนวน 3.75 ล้านบาท โดยจะจ่ายปันผลในอัตราหุ้นละ 0.025 บาท
สำหรับผลประกอบการในปี 2549 บริษัทมีกำไรสุทธิ18.06 ล้านบาท ลดลงจากปี 2548 ที่มีกำไรสุทธิ 35.75 ลบ. โดยสาเหตุที่ทำให้ผลประกอบการลดลงเนื่องจากในปี 2549 เป็นปีที่ปัญหาและอุปสรรคในธุรกิจรับเหมาก่อสร้างรุมเร้าเข้ามาพร้อมๆ กัน ประกอบกับงานในส่วนของภาครัฐลดลงจากปัญหาทางการเมือง อีกทั้งราคาน้ำมันได้ปรับตัวขึ้นสูงมากและแกว่งตัวอย่างรุนแรง ทำให้ต้นทุนราคาวัสดุก่อสร้างและต้นทุนการก่อสร้างปรับขึ้นไปในทิศทางเดียวกัน นอกจากนั้นยังมีปัญหาภาวะน้ำท่วมในบางหน่วยงาน ทำให้การดำเนินงานล่าช้ากว่ากำหนดมีผลให้ต้นทุนเพิ่มขึ้นด้วย
“ผลประกอบการของบริษัทได้รับผลกระทบจากปัญหาต้นทุนน้ำมันและวัสดุปรับตัวสูงขึ้นในช่วงไตรมาสที่ 2 และไตรมาสที่ 3 ของปี โดยในไตรมาสที่ 4 บริษัทได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ปฏิวัติ ทำให้งานของภาครัฐที่กำลังจะเริ่มต้องล่าช้าออกไป แต่อย่างไรก็ดี ในปี 2549 บริษัทก็สามารถสร้างรายได้ทะลุ 520 ล้าน ได้สำเร็จ ”
ทั้งนี้รายได้ของบริษัท 520 ล้านบาท มาจากธุรกิจก่อสร้างงานฐานราก 350 ล้านบาท และ 170 ล้านบาท มาจากรายได้จากงานก่อสร้างระบบชิ้นส่วนคอนกรีตสำเร็จรูป (Prefabricated Concrete System) ซึ่งเป็นระบบก่อสร้างโดยการหล่อชิ้นส่วนต่างๆ เช่น เสา, คาน, พื้น, ผนัง, บันได ขึ้นมาแล้วยกติดตั้งรวมกัน
สำหรับแนวโน้มธุรกิจในปี 2550 เขากล่าวว่า มีทิศทางที่ดีขึ้นเมื่อเทียบกับปี 2549 เนื่องจากปัจจัยลบต่างๆ ที่กดดันธุรกิจเริ่มคลี่คลายไปในทิศทางที่ดีขึ้น ทั้งเรื่องการเมืองที่แม้จะยังไม่นิ่งแต่ก็มีความชัดเจนขึ้น ในขณะเดียวกันราคาน้ำมันที่เคยผันผวนอยู่ในระดับสูงได้ปรับตัวลดลงและมีเสถียรภาพมากขึ้น ทำให้ง่ายต่อการกำหนดราคาต้นทุนในการทำงาน นอกจากนี้งานของภาครัฐและเอกชนบางส่วนที่เคยชะลอในปีที่ผ่านมา ปีนี้ก็เริ่มเดินหน้าต่อได้ ดังนั้นทำให้มั่นใจว่าธุรกิจรับเหมาฯ ทั้งระบบจะเริ่มปรับตัวดีขึ้นในปี 2550 รวมทั้งธุรกิจก่อสร้างฐานรากของบริษัทด้วย
"ในปีนี้บริษัทตั้งเป้ารายได้ไว้เฉพาะในส่วนของธุรกิจก่อสร้างฐานรากไว้ที่ 500-550 ล้านบาท หรือเติบโตขึ้นประมาณ 40% จาก 350 ล้านบาทในปีที่ผ่านมา ส่วนงานด้านการก่อสร้างด้วยระบบชิ้นส่วนคอนกรีตสำเร็จรูปและงานอื่นๆ รวมทั้งโครงการรถไฟฟ้าที่จะเปิดประมูลในปีนี้ยังไม่ได้นำมารวมไว้ในประมาณการ ดังนั้นหากมีงานในลักษณะดังกล่าวเข้ามาก็จะทำให้รายได้เติบโตขึ้นทันที นอกจากนั้นปัจจัยลบที่เริ่มคลี่คลายลง โดยเฉพาะเรื่องราคาน้ำมัน จะทำให้บริษัทสามารถกำหนดมูลค่าโครงการได้แม่นยำขึ้นและนำไปสู่การปรับตัวดีขึ้นของกำไรขั้นต้น (มาร์จิ้น) โดยคาดว่าในปี 2550 กำไรขั้นต้นจะปรับตัวดีขึ้นจากปีก่อนประมาณ 40% "นายชเนศวร์กล่าวในที่สุด
ทั้งนี้ กำหนดวันปิดสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้นเพื่อสิทธิในการเข้าร่วมประชุมสามัญผู้ถือหุ้น และรับเงินปันผลในวันอังคารที่ 27 มีนาคม 2550 และมีกำหนดประชุมผู้ถือหุ้น วันที่ 17 เมษายน 2550
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม : จุฬารัตน์ เจริญภักดี 089-4888-337

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ