กรุงเทพฯ--20 ธ.ค.--Communication & More
ปัจจุบันกระแสชะลอวัยมาแรงอย่างต่อเนื่อง เพราะคนยุคใหม่ไม่เพียงแค่ต้องการการมีสุขภาพดียืนยาวเฉกเช่นในอดีตเท่านั้น แต่ยังต้องการคงความอ่อนเยาว์ดูดีไว้ให้ยาวนานที่สุดเท่าที่จะทำได้ดังนั้น สมาคมเวชศาสตร์ชะลอวัยและฟื้นฟูสุขภาพแห่งประเทศไทย ร่วมกับ ชมรมโภชนวิทยามหิดล และ วิทยาลัยพยาบาลกองทัพบก จึงได้จัดงานสัมมนาวิชาการเรื่อง “แนวทางการดูแลสุขภาพให้ดูดีและอ่อนเยาว์” โดยการสนับสนุนของผลิตภัณฑ์นมถั่วเหลืองดีน่างาดำ 2 เท่า มิราแคลเธอทีน เพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับการดูแลสุขภาพ ทั้งร่างกายและผิวพรรณให้ดูดีและอ่อนเยาว์แบบองค์รวม โดยวิทยากรผู้เชี่ยวชาญหลากสาขา ศ.นพ.ธัมม์ทิวัตถ์ นรารัตน์วันชัย นายกสมาคมเวชศาสตร์ชะลอวัยและฟื้นฟูสุขภาพแห่งประเทศไทย ดร.ฉัตรภา หัตถโกศล อาจารย์นักโภชนาการ จากภาควิชาโภชนวิทยา มหาวิทยาลัยมหิดล นพ.สมิทธิ์ อารยะสกุล แพทย์ผิวหนังจากศูนย์เวชศาสตร์ชะลอวัยกรุงเทพ โรงพยาบาลกรุงเทพ และดร.คุณัตว์ พิธพรชัยกุล ผู้เชี่ยวชาญด้านวิทยาศาสตร์การกีฬา มหาวิทยาลัยศิลปากร ได้รับความสนใจจากแพทย์ พยาบาล นักโภชนาการ เภสัชกรและบุคลากรทางการแพทย์ เข้าร่วมประชุมกว่า 400 คน ณ แพทยสมาคมแห่งประเทศไทย เมื่อเร็วๆนี้
ศ.นพ.ธัมม์ทิวัตถ์ นรารัตน์วันชัย นายกสมาคมเวชศาสตร์ชะลอวัยและฟื้นฟูสุขภาพแห่งประเทศไทย กล่าวว่า แนวทางการดูแลสุขภาพให้ดูดีและอ่อนเยาว์นั้น ควรเริ่มต้นจากตัวเรา โดยการดูแลสุขภาพให้แข็งแรงและปราศจากโรคต่างๆ เพราะเมื่อสุขภาพร่างกายอยู่ในภาวะที่แข็งแรง จิตใจเราก็จะไม่เครียด และจะส่งผลให้หน้าตาผิวพรรณดูเปล่งปลั่งอ่อนกว่าวัยด้วย ซึ่งเราทุกคนสามารถเรียนรู้และนำไปปฏิบัติได้ ด้วยการดูแลสุขภาพแบบองค์รวมและปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์การดำเนินชีวิตใหม่อย่างถูกต้อง ตั้งแต่เรื่อง อาหาร ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นของการมีสุขภาพดีและอ่อนเยาว์ เราควรกินอาหารให้เป็นยา เพราะอาหารเป็นสิ่งที่เราต้องรับประทานเข้าไปทุกวัน การออกกำลังกาย การพักผ่อนให้เพียงพอ และตัดพฤติกรรมที่บั่นทอนสุขภาพ คือ งดสูบบุหรี่ หลีกเลี่ยงอาหารที่มีสารพิษปนเปื้อน ลดการแอลกอฮอล์ และเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของคาเฟอีน รวมถึงอาหารประเภททอด ปิ้ง หรือย่างต่างๆ หลีกเลี่ยงแดดจัดในช่วง 9.00-15.00 น. และเลี่ยงภาวะตึงเครียดต่างๆที่จะทำให้สุขภาพจิตเสื่อมลง จะสามารถยกระดับคุณภาพชีวิตและสุขภาพของเราให้ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
ดร.ฉัตรภา หัตถโกศล อาจารย์นักโภชนาการ จากชมรมโภชนวิทยามหิดล กล่าวว่า ในการดูแลสุขภาพผิวพรรณให้ดูดีและอ่อนเยาว์ของหนุ่ม-สาวยุคใหม่มักจะให้ความสำคัญกับการดูแลจากภายนอก การใช้เครื่องสำอางแพงๆ หรือการพึ่งนวัตกรรมใหม่ๆทางการแพทย์ ซึ่งในความเป็นจริงแล้วการดูแลจากภายนอกจะช่วยได้เพียง 30% เพราะผิวหนังไม่ใช่กระเพาะอาหาร จึงไม่สามารถดูดซึมเครื่องสำอางได้ทั้งหมด ส่วนการทำศัลยกรรมก็เป็นการแก้ไขเฉพาะจุด แต่อวัยวะข้างในหากไม่ได้รับการดูแลที่ดีก็จะเสื่อมและถดถอยไปตามอายุที่มากขึ้น ทางที่ดีควรดูแลร่างกายทั้งระบบจากภายใน ด้วยการรับประทานอาหารที่เป็นประโยชน์ให้ครบ 5 หมู่ รวมถึงการที่เลือกรับประทานอาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น ผัก ผลไม้ และงาดำ โดยเฉพาะในงาดำนั้น จะมีทั้งแคลเซียม และไฟเบอร์สูงซึ่งจะช่วยไปดักจับไขมัน และสารก่อมะเร็งต่างๆ ให้ขับออกจากร่างกายได้มากขึ้น
อีกทั้งสารต้านอนุมูลอิสระสูงที่ได้จากวิตามินอีในงาดำนั้น เป็นวิตามินอีจากธรรมชาติที่ได้จากอาหารจึงเป็นสารต้านอนุมูลอิสระได้เป็นอย่างดีมากกว่าการซื้อวิตามินอีสกัดมารับประทาน สารต้านอนุมูลอิสระในงาดำ จึงมีส่วนช่วยชะลอวัยได้โดยการที่ร่างกายสามารถขับของเสียได้เร็วกว่าเดิม ทำให้การสะสมของสารพิษในร่างกายลดลง ร่ายกายทำงานน้อยลง โดยมีการศึกษาออกมาแล้วว่าผู้ที่รับประทานอาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระที่สูง หรือการรับประทานผักผลไม้ จะดูมีความอ่อนเยาว์มากกว่าผู้ที่รับประทานอาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระต่ำ และไม่เพียงแต่ชะลอวัยจากภายนอกเท่านี้ แต่ยังสามารถบำรุงจากภายในได้ด้วยสุขภาพจะดีและไม่เสื่อมสภาพเร็วอีกด้วย
ดร.คุณัตว์ พิธพรชัยกุล ผู้เชี่ยวชาญด้านวิทยาศาสตร์การกีฬา มหาวิทยาลัยศิลปากร กล่าวว่า การออกกำลังกายที่ทำให้เราดูอ่อนเยาว์นั้น ต้องออกแบบต่อเนื่อง 20-60 นาที เพื่อให้ร่างกายได้มีการใช้ออกซิเจนและเลือดสูบฉีดไปเลี้ยงตามส่วนต่างๆของร่างกายได้ดีขึ้น ทำให้ผิวได้รับออกซิเจนได้ในปริมาณที่สูงขึ้น ช่วยให้การเสื่อมสภาพ หรือการคงตัวของผิวได้ยาวนานขึ้น แต่ควรทำ และหากเรารับประทานอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อผิวพรรณ ก็จะทำให้ร่างกายมีความอ่อนเยาว์ได้สูงขึ้นจะเห็นว่า “แนวทางการดูแลสุขภาพให้ดูดีและอ่อนเยาว์” เป็นสิ่งที่เราทุกคน สามารถสร้างขึ้นด้วยตัวของเราเองได้ไม่ยาก...