กรุงเทพฯ--21 ธ.ค.--ปภ.
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย หารือผู้แทนในจังหวัดภาคใต้ เพื่อกำหนดขอบเขต รูปแบบ และวิธีการสำรวจข้อมูลและจัดทำบัญชีผู้ประสบภัยในบุคคลหรือกลุ่มอาชีพที่ไม่สอดคล้องกับหลักเกณฑ์ที่ราชการกำหนด ในพื้นที่นำร่อง 4 จังหวัด ได้แก่ สุราษฎร์ธานี สงขลา พัทลุง นครศรีธรรมราช ซึ่งจะทำให้การวางแนวทาง การให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพทั่วถึง และเป็นธรรม
นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กล่าวว่า เมื่อช่วงเดือนพฤศจิกายน ที่ผ่านมา หลายจังหวัดในพื้นที่ภาคใต้ต้องประสบกับสถานการณ์อุทกภัย วาตภัย และดินถล่ม ทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนเป็นจำนวนมาก รองนายกรัฐมนตรี (นายสุเทพ เทือกสุบรรณ) ได้มอบหมายให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยดำเนินการสำรวจและจัดทำบัญชีผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ โดยเฉพาะบุคคลหรือ กลุ่มอาชีพที่ไม่สอดคล้องกับหลักเกณฑ์ที่ราชการกำหนด หรือได้รับการช่วยเหลือแล้วแต่ยังสามารถช่วยเหลือตัวเองหรือ ใช้ชีวิตได้ตามปกติ ดังนั้น เพื่อให้การกำหนดแนวทางการสำรวจข้อมูลความเสียหายของบุคคล กลุ่มอาชีพ เป็นไปอย่าง มีประสิทธิภาพ จึงได้จัดประชุมหารือกับผู้แทนจังหวัดในภาคใต้ที่ประสบภัย เพื่อร่วมกันกำหนดขอบเขต รูปแบบ และวิธีการสำรวจในพื้นที่นำร่อง 4 จังหวัด ได้แก่ สุราษฎร์ธานี สงขลา พัทลุง นครศรีธรรมราช โดยมีขอบเขตการสำรวจครอบคลุมทั้งกรณีบ้านพังทั้งหลัง/บางส่วน เครื่องมือประกอบอาชีพเสียหาย และกลุ่มอาชีพ ซึ่งจะทำให้การวางแนวทาง การให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพทั่วถึง และเป็นธรรม
นายวิบูลย์ กล่าวต่อไปว่า สำหรับความคืบหน้าการจ่ายเงินช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย 5,000 บาท ในพื้นที่ภาคใต้ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้ดำเนินการตรวจสอบและจัดส่งรายชื่อผู้มีสิทธิรับเงินช่วยเหลือ ตามหลักเกณฑ์ที่คณะรัฐมนตรีกำหนดให้แก่ธนาคารออมสินแล้วจำนวน 176,121 ครัวเรือน (ข้อมูล ณ วันที่ 17 ธันวาคม 2553) ซึ่งธนาคารออมสินได้จ่ายเงินไปแล้ว จำนวน 69,630 ครัวเรือน เป็นเงิน 348,150,000 บาท ทั้งนี้ ปภ. จะได้ประสานจังหวัดให้ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูล เพื่อป้องกันความซ้ำซ้อนและให้การช่วยเหลือเป็นไปอย่างทั่วถึงและเป็นธรรม รวมถึงจัดส่งรายชื่อเพิ่มเติมให้ ปภ. โดยด่วนที่สุด เพื่อให้สามารถจ่ายเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้วเสร็จโดยเร็วที่สุด