กรุงเทพฯ--21 ธ.ค.--กองประชาสัมพันธ์ กทม.
คกก.รักษาความสะอาดและสิ่งแวดล้อม สภากทม. หารือผู้บริหารกทม. พิจารณาสัญญาการประกวดราคาจ้างเหมาเอกชนจัดเก็บขยะครั้งใหม่ให้เหมาะสม คุ้มค่า พร้อมเสนอใช้วิธีการต่อสัญญาราคาเดิม แทนการประกวดราคาใหม่ ลดภาระค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น และเร่งศึกษาการใช้เตาเผาขยะ แก้ปัญาขยะล้นเมืองในอนาคต นางกรณิศ งามสุคนธ์รัตนา สมาชิกสภากรุงเทพมหานครเขตคลองเตย ในฐานะประธานคณะกรรมการการรักษาความสะอาดและสิ่งแวดล้อม สภากทม. พร้อมด้วยคณะกรรมการฯ ประชุมการจ้างเหมาเอกชนขนมูลฝอยจากโรงงานกำจัดมูลฝอยหนองแขมและนำไปทำลายโดยวิธีฝังกลบอย่างถูกสุขลักษณะ (แบบใหม่) ระยะที่ 2 และระยะที่ 3 โดยมีนายพรเทพ เตชะไพบูลย์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมคณะผู้บริหารสำนักสิ่งแวดล้อม และผู้เกี่ยวข้องร่วมประชุม ณ ห้องประชุม 3 สภากรุงเทพมหานคร
ประธานคณะกรรมการฯ กล่าวว่า ปริมาณขยะมูลฝอยของกรุงเทพมหานครยังเป็นปัญหาที่ผู้บริหารกทม.ควรให้ความสำคัญและวางแนวทางในการบริหารให้ชัดเจน ซึ่งจะต้องแก้ไขปัญหาในระยะยาวและถูกสุขลักษณะเพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อประชาชน ขณะเดียวกันการดำเนินการว่าจ้างเอกชนกำจัดขยะมูลฝอยด้วยการฝังกลบ ควรคำนึงถึงการใช้จ่ายงบประมาณอย่างคุ้มค่า ทั้งนี้พบว่าอัตราค่าจ้างเหมาขยะมูลฝอยต่อตันจากสัญญาฉบับเดิมที่สำนักสิ่งแวดล้อมได้จัดจ้างเอกชนดำเนินการอยู่ที่ 418 บาท/ตัน แต่สัญญาฉบับใหม่ของกรุงเทพมหานครที่จะดำเนินการประกวดราคาจ้างเอกชนรับเหมาดำเนินการนั้น ได้มีการกำหนดค่าผันแปรน้ำมันและค่าใช้จ่ายอื่นๆไว้ที่ 745 บาท/ตัน โดยผู้บริหารได้ยื่นญัตติเพื่อของบประมาณผูกพันในโครงการกำจัดขยะมูลฝอยอย่างถูกสุขลักษณะ ในระยะที่ 2 และระยะที่ 3 เสนอต่อสภากรุงเทพมหานครและได้มีมติเห็นชอบแต่งตั้งคณะกรรมการวิสามัญเพื่อพิจารณาญัตติดังกล่าวอยู่ในขณะนี้อีกด้วย
ผู้บริหารต่อรองค่าใช้จ่ายรักษาผลประโยชน์ให้กทม.
ทั้งนี้คณะกรรมการฯตั้งข้อสังเกตถึงสัญญาฉบับใหม่ที่จะดำเนินการประกวดราคาจ้างเอกชนผู้รับเหมากำจัดขยะอาจจะทำให้กรุงเทพมหานครเสียงบประมาณเพิ่มขึ้นมหาศาลในการกำจัดขยะมูลฝอยจากปริมาณขยะที่มีจำนวนกว่า 8,000 ตัน/วัน ดังนั้นผู้บริหารควรคำนึงถึงการใช้จ่ายงบประมาณให้เกิดความเหมาะสม พร้อมเสนอให้ผู้บริหารต่อสัญญากำจัดขยะกับเอกชนผู้รับเหมารายเดิม ซึ่งจากสัญญาและข้อตกลงกรุงเทพมหานครสามารถดำเนินการว่าจ้างรายเดิมต่อได้ตามเงื่อนไข และจะทำให้กรุงเทพมหานครไม่ต้องแบกภาระค่าใช้ที่มากขึ้น อีกทั้งสามารถพิจารณาเพิ่มค่าใช้จ่ายในอัตราผันแปรตามสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบันให้มีความเหมาะสมเพื่อให้สามารถดำเนินการต่อไปได้อีกด้วย
แนะเตาเผาขยะทางเลือกใหม่ในการกำจัดขยะมูลฝอยของกทม.
นายสุไหง แสวงสุข ส.ก.เขตทวีวัฒนา ในฐานะคณะกรรมการฯ กล่าวว่า ผู้บริหารควรมีนโยบายชัดเจนในการดำเนินการกำจัดขยะมูลฝอย เพราะเป็นปัญหาที่มีความผูกพันกับงบประมาณของกรุงเทพมหานคร โดยกำหนดแผนแม่บทในระยะยาวเพื่อให้เกิดความเหมาะสมในการจัดการขยะอย่างถูกวิธี ทั้งนี้วิธีการกำจัดขยะโดยการฝังกลบอาจเกิดปัญหาขึ้นได้ในอนาคตไม่ว่าจะเป็นค่าใช้จ่ายที่มากขึ้น และพื้นที่สำหรับรองรับปริมาณการฝังกลบขยะที่อาจจะเกิดปัญหาในอนาคต ดังนั้นผู้บริหารควรทำการศึกษาการกำจัดขยะด้วยการใช้เตาเผาขยะ ซึ่งวิธีนี้จะสามารถแก้ไขปัญหาขยะในระยะยาวและเป็นการรักษาสิ่งแวดล้อม รวมทั้งสามารถนำขยะที่ทำการเผามาบริหารจัดการให้เกิดประโยชน์สูงสุด
กทม.เล็งสร้างเตาเผาขยะในพื้นที่เขตอ่อนนุชและหนองแขม
ด้านรองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า กรุงเทพมหานครตระหนักถึงปัญหาขยะและสิ่งแวดล้อมในปัจจุบัน โดยขณะนี้ได้มีการศึกษาข้อดีข้อเสียในการกำจัดขยะด้วยวิธีเผา ซึ่งจะต้องเป็นเตาเผาขยะที่มีความเหมาะสมและสามารถกำจัดขยะได้อย่างประสิทธิภาพ โดยจะทำการพิจารณาและผลักดันให้เกิดโครงการเตาเผาขยะนำร่องในพื้นที่อ่อนนุชและหนองแขม โดยใช้งบประมาณ 300 ล้านบาท ในการก่อสร้าง ทั้งนี้จะทำการศึกษาประโยชน์ประกอบกับการพิจารณาโครงการเพื่อให้เกิดความชัดเจนต่อไป