กรุงเทพฯ--30 เม.ย.--มาสเตอร์ มายด์ คอมมิวนิเคชั่นส์
เด็มโก้ไม่หวั่นภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว มั่นใจรายได้ปีนี้โต 40% หลังเตรียมรับรู้รายได้เกือบ 2 พันล้านบาท รับอานิสงส์พลังงานบูม ดันธุรกิจสดใส ชี้ปัจจัยการเมืองไม่กระทบ เหตุแผนลงทุนโรงไฟฟ้าไม่สะดุด ขณะที่ภาคเอกชนขนาดใหญ่เดินตามแผนระยะยาว เผยไตรมาส 2 ลุยประมูลงานเพิ่มอีก 2 พันล้านบาท
นายไพฑูรย์ กำชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการสายการเงิน บริษัท เด็มโก้ จำกัด (มหาชน) หรือ DEMCO เปิดเผยว่า แม้ว่าในขณะนี้บรรดาสำนักวิจัยด้านเศรษฐกิจต่างๆ จะทยอยปรับลดอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศไทยในปี 2550 ลง แต่สถานการณ์ดังกล่าวไม่ได้ส่งผลกระทบกับการดำเนินงานของบริษัทฯ มากนัก โดยในปีนี้ รายได้ของบริษัทฯ จะเพิ่มขึ้นจากปี 2549 ในอัตรา 40-50% ได้อย่างแน่นอน
“ขณะนี้บริษัทฯ มีงานที่อยู่ในมือ (Backlog) 1,717 ล้านบาท และมีงานที่ประมูลได้แล้วอยู่ระหว่างรอลงนามในสัญญาอีก 370 ล้านบาท โดยในส่วนนี้เป็นงานของการไฟฟ้าภูมิภาค (กฟภ.) 267 ล้านบาท ซึ่งจะเซ็นสัญญาในวันที่ 14 พฤษภาคมนี้ ทั้งสองส่วนจะรับรู้เป็นรายได้ของปีนี้อย่างแน่นอน 1,899 ล้านบาท ส่วนอีก 188 ล้านบาท จะทยอยรับรู้ในปีหน้า ซึ่งเมื่อเทียบกับปี 2549 ที่มีรายได้ 1,354 ล้านบาท ก็เท่ากับว่ารายได้ในปีนี้เติบโตเพิ่มขึ้นถึง 40% ไม่นับรวมงานใหม่ที่ประมูลไปแล้วอีก 650 ล้านบาท ซึ่งอยู่ในขั้นตอนพิจารณาและงานใหม่ในไตรมาสที่ 2 ที่จะประมูลเพิ่มอีก 2 พันล้านบาท” นายไพฑูรย์กล่าว
ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการสายการเงิน DEMCO ยอมรับว่า ในปัจจุบันนี้ต้องถือว่าเป็นช่วงขาขึ้นของธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับพลังงาน ซึ่งการที่บริษัทฯ อยู่ในตลาดการก่อสร้างระบบสายส่งและสถานีไฟฟ้าทำให้ได้รับผลดีตามไปด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ (กฟผ.) การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) และการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) มีแผนลงทุนระยะยาวเพื่อรองรับการใช้ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นทุกปีๆ ละ 6% ซึ่งเป็นอัตราการเติบโตของการลงทุนที่ค่อนข้างคงที่ ทำให้บริษัทได้รับผลบวกโดยตรง
ในส่วนของภาคเอกชนนั้น แม้ว่าจะมีเอกชนบางรายจะชะลอการลงทุนใหม่ แต่สำหรับบริษัทขนาดใหญ่ในกลุ่มปิโตรเคมีหรือโรงไฟฟ้า ก็ยังคงมีการลงทุนในระบบไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นไปตามแผนงานระยะยาวที่วางไว้ ทำให้บริษัทฯ ได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจและการลงทุนไม่มากนัก
อย่างไรก็ตาม แม้ว่า ภาพรวมของธุรกิจจะดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่บริษัทฯ ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ โดยล่าสุดได้วางแผนที่จะขยายธุรกิจเข้าไปยังส่วนที่บริษัทฯ มีศักยภาพและมีความสามารถ ซึ่งจะขยายไปยังธุรกิจสายส่งที่เป็นเสาโครงเหล็ก เนื่องจากบริษัทมีโรงงานผลิตอยู่แล้ว และได้ขยายกำลังการผลิตจาก 6 พันตันเป็น 1.2 หมื่นตัน ทำให้มีโอกาสสร้างรายได้จากการขายเสาโครงเหล็กให้กับผู้รับเหมาหรืออาจจะนำไปใช้ในกิจการของบริษัทฯ เองด้วยก็ได้
นอกจากนี้ บริษัทยังวางแผนที่จะรักษาสัดส่วนรายได้ระหว่างงานภาครัฐและภาคเอกชนให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมใกล้เคียงกัน โดยมีเป้าหมายที่จะทำให้การเติบโตมีความสมดุลกันทั้งด้านรายได้ และอัตรากำไรขั้นต้น
“เราพยายามปิดความเสี่ยง ทั้งเรื่องสัดส่วนของรายได้ระหว่างภาครัฐและเอกชนเพื่อให้เกิดความสมดุล เช่นเดียวกับเรื่องของอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งแม้จะดูเหมือนกับว่า บริษัทฯ ได้เปรียบในแง่ต้นทุนการนำเข้าวัตถุดิบจากการที่ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้น แต่บริษัทฯ มีนโยบายชัดเจนในการทำ Forward ประกันความเสี่ยงเรื่องค่าเงินด้วยการทำให้ต้นทุนคงที่มากที่สุด ไม่ให้ผันผวนตามทิศทางของอัตราแลกเปลี่ยนมากเกินไปจนควบคุมต้นทุนไม่ได้” นายไพฑูรย์กล่าว
สำหรับสถานการณ์การเมืองซึ่งเป็นปัจจัยที่ไม่สามารถควบคุมได้นั้น ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการสายการเงิน DEMCO กล่าวว่า การที่ธุรกิจของบริษัทอิงอยู่กับการวางแผนลงทุนระยะยาวจะช่วยลดแรงเสียดทานในเรื่องดังกล่าวได้ อย่างเช่น การลงทุนในโรงไฟฟ้าขนาดย่อย (SPP) และโรงไฟฟ้าอิสระ (IPP) ซึ่งจะเกิดขึ้นในอนาคต ก็จะเป็นแหล่งรายได้ของบริษัทฯ ในปี 2552-2553 อย่างแน่นอน
บริษัท มาสเตอร์ มายด์ คอมมิวนิเคชั่นส์ จำกัด
รายละเอียดเพิ่มเติม ติดต่อ : คุณวารุณี คำไชย (แนน) /คุณศิริขวัญ ธรรมชัยพิเนต (หญิง)
โทร: 0-2643-1191 ต่อ 15 มือถือ : 081-496-6762 / 086-321-7018
e-mail : c_mastermind@yahoo.com