กรุงเทพฯ--16 ก.พ.--ธ.กรุงไทย
ในวันนี้ (16 กุมภาพันธ์ 2550) ได้มีพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงว่าด้วยความร่วมมือในการจัดทำโครงการความร่วมมือการชำระภาษีท้องถิ่นผ่านธนาคาร ระหว่างกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น ธนาคารกรุงไทย สมาคมสันนิบาตเทศบาลแห่งประเทศไทย และสมาคมองค์การบริหารส่วนตำบลแห่งประเทศไทย เพื่อส่งเสริมให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีความเข้มแข็งด้านการเงินการคลัง ให้บริการประชาชนผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ รวมทั้งส่งเสริมให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นสามารถจัดเก็บภาษีได้อย่างรวดเร็ว โปร่งใสและเป็นธรรม โดยผู้มีหน้าที่เสียภาษีโรงเรือนและที่ดิน ภาษีป้าย และภาษีบำรุงท้องที่ สามารถชำระภาษีให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นผ่านธนาคารกรุงไทย โดยไม่ต้องเดินทางไปชำระภาษีท้องถิ่น ณ สำนักงานขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และเป็นทางเลือกให้แก่ประชาชนผู้เสียภาษี
นายปรีชา ภูขำ รองกรรมการผู้จัดการ ผู้บริหารสายงาน สายงานธุรกิจภาครัฐ บมจ.ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ธนาคารได้เริ่มโครงการนำร่องกับเทศบาลนครนนทบุรี และเทศบาลเมืองบางบัวทองมาตั้งแต่ปี 2549 และขณะนี้ธนาคารมีความพร้อมในการให้บริการกับเทศบาลต่างๆ และองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) จำนวนเกือบ 8,000 แห่งทั่วประเทศ
“เมื่อผู้เสียภาษีได้รับใบแจ้งหนี้จากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สามารถยื่นชำระภาษีได้ที่เคาน์เตอร์สาขาของธนาคารกรุงไทยทั่วประเทศกว่า 700 แห่ง และรับใบเสร็จได้ทันที หรือชำระผ่านเครื่อง ATM กว่า 3,300 แห่ง หลังจากนั้นธนาคารจะโอนเงินภาษีเข้าบัญชีกระแสรายวันของเทศบาล และอบต.ที่เข้าร่วมโครงการโดยอัตโนมัติ ซึ่งจะช่วยเพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้เสียภาษี และยังช่วยให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นสามารถนำข้อมูลในระบบไปใช้ในการบริหารจัดการได้ดีขึ้นอีกด้วย”
นายปรีชา ภูขำ กล่าวต่อไปว่า เพื่อให้บริการรับชำระภาษีท้องถิ่นสามารถให้บริการได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ธนาคารและกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่นจะทำการฝึกอบรมการใช้โปรแกรมชำระภาษีให้กับเจ้าหน้าที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อทำความเข้าใจกับโปรแกรมและขั้นตอนการชำระภาษี นอกจากนี้ ธนาคารยังอยู่ระหว่างพัฒนาระบบเพื่อรองรับการชำระภาษีท้องถิ่นผ่านช่องทางอื่นๆ ได้แก่ บริการ KTB Online กรุงไทยโฟน 1551 เครื่อง ADM และทางโทรศัพท์มือถือ ซึ่งจะทำให้ผู้เสียภาษีโรงเรือนและที่ดิน ภาษีป้าย และภาษีบำรุงท้องที่ สามารถชำระภาษีได้ทุกที่ทุกเวลา