กรุงเทพฯ--24 ธ.ค.--อสมท
เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม ที่ผ่านมา บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) จัดกิจกรรมเสวนา “เรียนรู้วิถีธรรมตามรอยท่านพุทธทาสกับ อสมท ครั้งพิเศษ” ณ หอจดหมายเหตุพุทธทาส อินทรปัญโญ โดยเชิญบุคคลที่มีชื่อเสียงจาก แวดวงต่างๆมาร่วมเสวนาเพื่อสะท้อนมุมมองภายหลังจากการได้ร่วมกิจกรรมสัมผัสและเรียนรู้ศึกษาหลักธรรมตามรอยของท่านพุทธทาส อินทปัญโญ รวมถึงบทบาทสื่อมวลชนต่อการเผยแพร่หลักธรรมเพื่อเป็นเครื่องเตือนสติสังคม
พระอาจารย์เมธี สุเมธโส แห่งสวนโมกขพลาราม อ. ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี กล่าวถึง เส้นทางการเข้าสู่ธรรมะของท่านว่า “เมื่อวัยเด็กชีวิตท่านสัมผัสกับธรรมะมาตลอด ได้อยู่กับสิ่งแวดล้อมที่ดี เนื่องจากพื้นฐานครอบครัวน้อมนำหลักธรรมคำสอนทางพระพุทธศาสนามาใช้ในการดำเนินชีวิต ประกอบกับเป็นชาว อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี จึงทำให้ซึมซับหลักธรรมมาโดยตลอด จนกระทั่งก้าวเข้าสู่เส้นทางธรรม ได้สัมผัสหลักธรรมคำสอนของท่านพุทธทาสฯ จึงตัดสินใจเลือกเดินบนเส้นทางสายธรรมะ จวบจนกระทั่งทุกวันนี้”
พระอาจารย์เมธี สุเมธโส กล่าวเพิ่มเติมว่า “หลักในการดำเนินชีวิตตามหลักคิดของพระพุทธเจ้าประกอบด้วย 3 ส่วนด้วยกัน คือ การควบคุมตนเอง , การรู้จักประมาณในการบริโภค และมีจิตใจที่ตื่นอยู่เสมอ แต่ต้องนำทั้ง 3 สิ่งมาประกอบกันและหมั่นฝึกฝนจิต สิ่งเหล่านี้จะเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ทำให้การใช้ชีวิตเกิดความหมาย”
ทั้งนี้ ในส่วนของมุมมองจากผู้ที่เคยร่วมกิจกรรมเรียนรู้วิถีธรรมตามรอยท่านพุทธทาส กับ บมจ. อสมท ที่ผ่านมา ซึ่งต่างสะท้อนมุมมองและทัศนคติในการนำหลักธรรมของท่านพุทธทาสมาใช้ในการดำเนินชีวิตและ การทำงานรวมทั้งบทบาทการทำงานของสื่อสารมวลชนในหลากหลายแง่มุม
คุณหญิงสุพัตรา มาศดิตถ์ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี กล่าวว่า “หลายคนเข้าใจว่าการปฏิบัติธรรมคือต้อง เข้าวัดเพื่อปฏิบัติธรรม แต่สิ่งที่ บมจ. อสมท กำลังทำอยู่ขณะนี้ผ่านการจัดกิจกรรมและสื่อต่างๆ กำลังชี้ให้คนทั่วไป ได้เห็นว่า ธรรมะสามารถเข้ามาอยู่ในชีวิตประจำวันได้ โดยเฉพาะหลักธรรมของท่านพุทธทาส ที่เป็นหลักธรรมที่ปฏิบัติได้จริงและนำมาประยุกต์ใช้ในการดำเนินชีวิตได้ทันทีซึ่งเมื่อทำแล้วชีวิตจะเป็นสุข เมื่อมีทุกข์แล้วไม่รู้สึกทุกข์ นับเป็นการทำหน้าที่ในบทบาทสื่อสารมวลชนอย่างสร้างสรรค์ หากสื่อมวลชนในปัจจุบันเพิ่มความตระหนักในการนำเสนอข่าวสารสาระความรู้จะทำให้อยู่ร่วมกันในสังคมได้อย่างสงบสุข”
นายแพทย์บัญชา พงษ์พานิช เลขานุการมูลนิธิหอจดหมายเหตุฯ กล่าวว่า “หลักธรรมของท่านพุทธทาสเป็นโอสถขนานแท้ที่เยียวยาโลก แต่จำทำอย่างไรเพื่อให้คนทั่วไปได้เห็นหลักธรรมง่ายๆ เป็นการส่งตรงธรรมะถึงบ้าน ซึ่งตรงนี้ บมจ. อสมท สามารถทำได้ด้วยสื่อที่มีอย่างครอบคลุม ท่านพุทธทาส เคยกล่าวว่า สื่อมวลชนคือเพื่อนร่วมสร้างโลก สื่อสามารถทำได้ถ้าสมัครใจที่จะทำ วันนี้เราไม่ต้องเรียกหาธรรมาภิบาลซึ่งเป็น คำใหม่ที่ใช้กัน เพียงสื่อมวลชนพร้อมที่จะเปิดพื้นที่ให้ธรรมะเข้าไปมีบทบาทและทำหน้าที่เยียวยาสังคม ประเทศไทย ยังมีพระอาจารย์ที่มีความรู้ความสามารถอีกจำนวนมากที่พร้อมจะเผยแพร่หลักธรรมคำสอนแก่สังคม”
กรรณิการ์ วิริยะกุล บรรณาธิการหนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ หนึ่งในสื่อมวลชนที่ได้เดินทางในเส้นทาง ตามรอยท่านพุทธทาส อินทปัญโญ กล่าวว่า “ได้เรียนรู้หลักธรรมตามรอยท่านพุทธทาสได้ลึกซึ่งยิ่งขึ้น และทัศนคติในการดำเนินชีวิตเปลี่ยนไปรวมทั้งได้นำหลักธรรมมาปรับใช้กับการทำงานสื่อสารมวลชน ที่ตระหนักถึงบทบาทการทำหน้าที่ผู้ให้ข่าวสารซึ่งคำนึงถึงประโยชน์ของคนส่วนรวม”
นอกจากนี้ นายแพทย์บัญชา ยังหยิบยกบางส่วนของจดหมายส่งความสุขที่ท่านพุทธทาสเขียนถึง อาจารย์สัญญา ธรรมศักดิ์ เมื่อ 73 ปีที่แล้วมานำเสนอ เพื่อให้ทุกคนได้ดำเนินชีวิตตามรอยท่านพุทธทาส ได้อย่างมีความสุข
“ในทางพุทธศาสนาโดยตรงแท้นั้น ชีวิตคือ Compounded thing อันหนึ่งซึ่งหมุนกลิ้งไปตามอำนาจของส่วนผสมส่วนหนึ่งๆ สิ่งสำคัญคือ เรามีหน้าที่อะไร ต้องดูแลชีวิตให้กลิ้งไปในทางที่ดี แต่พยายามกลิ้งให้งดงาม เหมือนตัวละครที่พยายามทำบทบาทของตนให้เรียบร้อยที่สุด เพราะการกลิ้งที่งดงามนั้นช่วยให้เราหยุดกลิ้งได้เร็วเข้า ที่สำคัญคุณจึงต้องพยายามกลิ้งให้ดีกว่าปีเก่า”
ทั้งนี้ นายแพทย์บัญชา กล่าวเพิ่มเติมว่า “ช่วงเวลาปีใหม่ นับเป็นโอกาสที่ดีที่เราจะคิดบัญชี ทบทวนชีวิตก่อนที่นากาจะเคลื่อนข้ามปีใหม่ บอกเล่าเรื่องราวที่ดีและบกพร่อง ตั้งเป้าหมายที่ดีในปีใหม่จัดเวลาชีวิตให้กลิ้งไปในทิศทางที่ดี ลองเริ่มต้นเปลี่ยนชีวิตจากที่เคยสังสรรค์มาเริ่มเจริญสติรับปีใหม่ชีวิตใหม่ที่วัดใกล้บ้านหรือจะเลือกเริ่มต้นที่บ้านก็ได้ เป็นวิถีปฏิบัติอันเรียบง่ายที่ทุกคนสามารถทำได้เช่นกัน”