กรุงเทพฯ--21 ก.พ.--ธนาคารเกียรตินาคิน
“ธนาคารเกียรตินาคิน” เปิดศูนย์ประมูลรถยนต์แห่งใหม่ Kiatnakin Car Center มุ่งขยายฐานลูกค้าสู่ระดับประชาชนทั่วไป พร้อมเน้นการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับพันธมิตรทั้งดีลเลอร์และเต็นท์รถ ตั้งเป้าปี 50 พอร์ตสินเชื่อเช่าซื้อเพิ่มขึ้นราว 30%
นายธวัชไชย สุทธิกิจพิศาล กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารเกียรตินาคิน จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “ธนาคารเกียรตินาคิน จะจัดให้มีการเปิดศูนย์ประมูลรถยนต์ Kiatnakin Car Center ในวันเสาร์ที่ 24 กุมภาพันธ์ 2550 โดยธนาคารฯ ได้ใช้งบประมาณในการก่อสร้างและพัฒนาระบบประมาณ 40 ล้านบาท ในการก่อสร้างอาคารศูนย์ประมูลรถยนต์ ปรับปรุงพื้นที่บริเวณลานจอดรถ ติดตั้งระบบต่างๆ ตลอดจนพัฒนาระบบการให้บริการลูกค้าให้ทันสมัย และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น สามารถตอบสนองความต้องการลูกค้าได้อย่างคล่องตัว นอกจากนี้ ยังได้มีการวางแผนที่จะใช้เป็นศูนย์อบรมความรู้เรื่องเครื่องยนต์และตัวถังรถยนต์มือสองให้กับลูกค้าและพนักงานธนาคารฯ อีกด้วย”
Kiatnakin Car Center ตั้งอยู่ที่ถนนบางนา-ตราด กม.8 การเดินทางสะดวก โดยมีจุดที่น่าสนใจคือเป็นศูนย์ประมูลรถที่ครบวงจรและทันสมัย ประกอบไปด้วย Car Care ส่วนตรวจสภาพรถภายในพื้นที่ลานจอดรถ ทีมช่างที่มีประสบการณ์และมีความชำนาญด้านการดูรถยนต์มือสอง เน้นการให้บริการที่ได้มาตรฐานและโปร่งใส พร้อมการันตีการตรวจสภาพรถยนต์ทุกคัน มีระบบไอทีช่วยในการประมวลผลการประมูลสามารถตรวจสอบผลการประมูลย้อนหลังทั้งปี ได้ทางเว็บไซต์ www.kiatnakin.co.th มีมาตรการรักษาความปลอดภัยที่มีประสิทธิภาพ โดยได้ติดกล้อง CCTV กว่าหลายสิบจุดครอบคลุมพื้นที่ เพื่อควบคุมดูแลรถยนต์ได้อย่างทั่วถึงตลอด 24 ชั่วโมง นอกเหนือจากนี้ ลูกค้าที่ประมูลรถได้ สามารถจัดไฟแนนซ์กับธนาคารฯ ได้ในเงื่อนไขพิเศษ โดยธนาคารฯ ได้จัดให้มีการประมูลรถยนต์มือสองเป็นประจำทุกสัปดาห์ แบ่งเป็นการประมูลแบบยื่นซอง และยกมือ แต่ละครั้งจะมีรถยนต์ให้เลือกประมูลกว่า 100 คัน
นายธวัชไชย กล่าวเพิ่มเติมว่า ในปี 2550 ธนาคารฯ มีแผนที่จะขยายสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์เพิ่มขึ้นประมาณ 30% สำหรับยอดปล่อยสินเชื่อปี 2549 อยู่ที่ 29,666 ล้านบาท จากปี 2548 อยู่ที่ 23,556 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 6,110 ล้านบาท (ประมาณ 26%) โดยยังคงสัดส่วนรถใหม่และรถมือสองอยู่ที่ 50:50 ทั้งนี้ ธุรกิจเช่าซื้อรถยนต์ นับเป็นธุรกิจหลักและเป็นธุรกิจที่ธนาคารฯ มีความเชี่ยวชาญ กลยุทธ์หลักอีกอย่างหนึ่งคือเน้นการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับพันธมิตรทั้งดีลเลอร์และเต็นท์รถยนต์ที่มีอยู่ประมาณ 1,000 ราย โดยในปีนี้ ธนาคารฯ มีแผนการเปิดสาขาใหม่อีก 10 แห่ง จากปัจจุบัน 19 แห่ง ส่วนใหญ่เป็นสาขาในภูมิภาคซึ่งเป็นตลาดหลักของธนาคารฯ สำหรับตลาดรถยนต์ในปี 2550 ถึงแม้จะมีการคาดการณ์ว่าไม่มีการขยายตัว แต่ยังเป็นตลาดที่มีขนาดใหญ่และธนาคารฯ ยังมีฐานที่เล็กโดยมีส่วนแบ่งการตลาดประมาณ 5% ซึ่งคาดว่าจะสามารถเติบโตได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ ทั้งนี้ ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจเช่าซื้อประสบความสำเร็จมีประเด็นหลักๆ 3 ส่วน ได้แก่ ราคา ซึ่งในตลาด ไม่มีความแตกต่างกัน ต่อมาคือการให้บริการ การทำธุรกิจเช่าซื้อคู่ค้าคือดีลเลอร์และเต็นท์รถ นับเป็นบุคคลสำคัญ การให้บริการตรงนี้เป็นเรื่องสำคัญมาก ที่จะทำอย่างไรให้ลูกค้าได้รับการจัดไฟแนนซ์ที่รวดเร็ว และมีการบริการที่สะดวก และประเด็นสุดท้ายคือการควบคุมคุณภาพหนี้ โดยธนาคารฯ ยังจะต้องระมัดระวังด้านคุณภาพหนี้จากสภาพเศรษฐกิจที่ถดถอย ซึ่งมีผลต่อความสามารถในการชำระหนี้ของผู้เช่าซื้ออีกด้วย
การเปิดศูนย์ประมูลรถยนต์ Kiatnakin Car Center จะจัดให้มีขึ้นในวันเสาร์ที่ 24 กุมภาพันธ์ 2550 ตั้งแต่เวลา 10.00 — 17.00 น. กิจกรรมในวันงานประกอบไปด้วยการเสวนาเรื่องวิธีการดูรถยนต์มือสองจากกูรูชื่อดังอาจารย์พัฒนเดช อาสาสรรพกิจ โดยมีนานา ไรบีนา มาร่วมให้ข้อมูล นอกจากนี้ ลูกค้าที่เข้าร่วมงานทุกท่านสามารถร่วมเล่นเกมส์รับของรางวัลพิเศษ โดยจะเริ่มต้นการประมูลรถยนต์โดยวิธียกมือ ราว 11.30 น. ผู้ที่สนใจเข้าร่วมกิจกรรม และประมูลรถยนต์ สามารถติดต่อสอบถามข้อมูล และลงทะเบียนได้ที่ 0-2316-2734 ในวันและเวลาราชการ
Note to Editor: เกียรตินาคิน ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2514 เปิดดำเนินธุรกรรมธนาคารพาณิชย์ภายใต้ชื่อ “ธนาคารเกียรตินาคิน จำกัด (มหาชน)” เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2548 ปัจจุบันมีเงินกองทุนเท่ากับ 17,463ล้านบาท สินทรัพย์รวมเท่ากับ 76,763 ล้านบาท มีสาขาทั่วประเทศ 19 แห่ง เป็นธนาคารพาณิชย์ให้บริการครอบคลุมทั้งด้านเงินฝาก และสินเชื่อที่ธนาคารมีความเชี่ยวชาญได้แก่ บริการสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ บริการสินเชื่อเพื่อพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย บริการสินเชื่อธุรกิจ บริการเงินฝาก ประเภทออมทรัพย์ ประจำ กระแสรายวัน และบริการอื่นๆ
สื่อมวลชนต้องการข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ คุณทิพวรรณ วอทอง (โม)
โทร. 081 421 2923 หรือ E-mail: mailtippawan@yahoo.com
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net