ผ่อนคลาย สบาย(กาย)ใจ...รับลมหนาว เคล็บ(ไม่)ลับดีๆ ในการดูแลร่างกายและจิตใจ จาก TK park

ข่าวทั่วไป Friday December 24, 2010 10:19 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--24 ธ.ค.--ทีเค พาร์ค แม้สภาพอากาศในปัจจุบันค่อนข้างแปรปรวน แต่เมื่อลมหนาวมาเยือน...ก็อาจทำให้ใครหลายคนชื่นฉ่ำหัวใจไม่น้อย เพราะรอคอยมาตลอดทั้งปีจะมีสักครั้ง ถึงแม้ลมหนาวที่รอคอยมานานนั้น อาจจะหนาวจริง หรือ หนาวไม่จริงก็ตาม แต่วันนี้..มีเคล็ด(ไม่)ลับดีๆ ในการดูแลร่างกายและจิตใจในช่วงหน้าหนาวนี้มาฝากกัน เก็บตกจากวงเสวนาหัวข้อ “ผ่อนคลาย สบาย(กาย)ใจ รับลมหนาว”..ในงาน Art of Living @ Mini TK หนึ่งในกิจกรรมที่ทางอุทยานการเรียนรู้ หรือ TK park จัดขึ้นเมื่อประมาณต้นเดือนธันวาคมที่ผ่านมา โดยมีคุณนิภาพร พุ่มกลั่น วิทยากรพิเศษจาก TK park มาให้คำแนะนำวิธีการต่างๆ ในการผ่อนคลาย ผ่อนกาย ผ่อนใจ รับลมหนาวที่มาเยือนนี้ คุณนิภาพร แนะนำว่า ก่อนเราจะมาผ่อนคลายร่างกายกันในหน้าหนาว สิ่งหนึ่งที่ควรจะระวังและป้องกันไว้เลย คือ อาการต่างๆ ที่จะมาพร้อมกับหน้าหนาว ทั้งคันตา คันจมูก จาม น้ำมูกไหล และอาจถึงไซนัสอักเสบ และยังต้องระวังโรคที่จะมากับช่วงหน้าหนาวที่จะติดต่อกันทางลมหายใจ ทั้งหวัด หัด สุกใส และไวรัสอีกเพียบ แต่เราสามารถป้องกันได้ด้วยการทำร่างกายให้พร้อม เริ่มกันที่ “สมอง” ที่จะมองข้ามไปไม่ได้ เพราะสมองประกอบด้วยน้ำถึง 85 เปอร์เซ็นต์ และในหน้าหนาวร่างกายจะสูญเสียน้ำมากกว่าปกติ ซึ่งจะทำให้เซลล์สมองเหี่ยว เราจึงควรที่จะดื่มน้ำให้มากกว่าปกติ 8 — 10 แก้ว โดยเน้นที่การจิบบ่อยๆ ในระหว่างวัน นอกจากน้ำเปล่าแล้ว เครื่องดื่มอุ่นๆ จะเหมาะที่สุดในช่วงบรรยากาศหนาวและแห้ง อย่างชาสมุนไพรจากธรรมชาติ เช่น “ชากุหลาบ” จะมีกลิ่นหอมอ่อนๆ ช่วยให้ผ่อนคลายอีกทั้งยังบำรุงหัวใจ ช่วยกำจัดคอเลสเตอรอล ช่วยขับถ่าย ล้างสารพิษและยังช่วยบำรุงผิวพรรณ “ชาแอปเปิ้ล” มีรสเปรี้ยวกำลังดี จะช่วยเรียกพลังความสดชื่นช่วยเพิ่มพลังการทำงานของสมองช่วยเรื่องความจำ และยังช่วยลดการสะสมของไขมันอีกด้วย หรือจะเลือกดื่ม “ชาบลูเบอรี่” ที่อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ มีใยอาหารสูงช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด เหมาะกับคุณผู้หญิงมากเพราะจะช่วยชะลอความแก่คงความสดใส และยังช่วยเพิ่มสมรรถภาพทางเพศในคุณผู้ชายอีกด้วย แต่ชาสมุนไพรที่ได้รับความนิยมมากโดยเฉพาะในแถบเอเชียอย่างประเทศจีน ได้แก่ “ ชาเกสรบัว” ที่ไม่ได้มีแค่เกสรบัว แต่ยังอุดมไปด้วยคุณประโยชน์จากสมุนไพรทั้ง มะลิ พิกุล บุนนาค สารภี เพราะในเกสรบัวจะมีสารอัลคาลอยด์ ที่มีฤทธิ์ต่อต้านการกลายพันธุ์ของดีเอ็นเอ มีฤทธิ์ลดระดับน้ำตาลในเลือดและช่วยบำรุงระบบการทำงานของหัวใจ แต่เครื่องดื่มที่ต้องหลีกเลี่ยงในช่วงอากาศแบบนี้ คือ กาแฟและเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน เพราะคาเฟอีนจะไปกระตุ้นการขับปัสสาวะให้ร่างกายสูญเสียน้ำมากขึ้น นอกจากการดื่มเครื่องดื่มสมุนไพรที่บำรุงจากภายในแล้ว การบำรุงจากภายนอกโดยเฉพาะผิวพรรณในช่วงอากาศแห้งแบบนี้ก็เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ อาการคันผิวหนังเนื่องจากความแห้งสามารถบรรเทาได้ด้วย การอาบสมุนไพร ที่หาได้ไม่ยากนักอย่าง ยอดผักบุ้ง ใบมะกรูด ใบมะขาม ใบส้มป่อย ต้นตะไคร้ หัวไพล ใบหนาด หัวขมิ้นชัน การบูร หัวหอมแดง เพียงนำสมุนไพรทั้งหมดมาต้มรวมกันในอัตราส่วนที่พอดี แล้วผสมน้ำอาบให้อุ่นๆ สรรพคุณจะช่วยกระตุ้นระบบไหลเวียนของโลหิต ลดอาการคัน และทำให้ระบบการหายใจดีขึ้น “การออกกำลังกาย” ไม่ว่าจะในฤดูไหนก็เป็นสิ่งที่สำคัญมากต่อสุขภาพร่างกาย การออกกำลังกายบำบัด ที่จะต้องพยายามใช้ชีวิตกลางแจ้งให้มากขึ้นเพื่อให้ร่างกายได้รับวิตามินจากแสงแดดในช่วงเวลาที่เหมาะสม เลือกการออกกำลังให้ถูกวิธี บวกกับการรับประทานอาหารที่ไม่ผ่านกระบวนการมากนักเพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่มาจากธรรมชาติที่แท้จริง ข้อดีอีกอย่างหนึ่งของยาวิเศษอย่างการออกกำลังกายก็คือการผ่อนคลายและช่วยให้ร่างกายหลั่งสารความสุขที่สามารถป้องกันโรคซึมเศร้าได้ ในช่วงหน้าหนาวที่ช่วงเวลากลางวันจะลดลง ร่างกายจะได้รับแสงแดดน้อยกว่าปกติ เกิดการเปลี่ยนแปลงในวงจรการหลับและมีการหลั่งฮอร์โมนแห่งการหลับหรือเมลาโทนินลดลง ซึ่งเป็นสาเหตุส่วนหนึ่งของโรคซึมเศร้าที่มาพร้อมกับหน้าหนาวด้วย เคล็ด(ไม่ลับ)อีกอย่างหนึ่งคือ “การเปลี่ยนสีสันรับวันหนาว” เพื่อลดบรรยากาศความซึมเซาเปลี่ยนบรรยากาศรอบตัวให้สดใสด้วยสีสันสร้างความสดชื่นในบรรยากาศมีความสุขมากขึ้น ด้วยการนำสีสันของหน้าร้อนมาแต่งเติมเพิ่มความสมดุลให้ลงตัวอย่างสีแดง สีส้ม สีเหลือง สีเขียว ....เริ่มกันที่การเพิ่มสีสันสดใสภายในบ้าน โดยการเลือกใช้อุปกรณ์เครื่องใช้และของตกแต่งบ้านที่ดูสว่างสดใส ทั้งผ้าม่าน เครื่องนอน รวมไปถึงการเพิ่มกรอบรูปสวยๆ ที่มีภาพสีสันสดใส เพิ่มมุมแจกันปักดอกไม้สีสด เท่านี้ก็จะทำให้บรรยากาศในบ้านให้ดูสดใสขึ้นมาทันตา หรือ หากรู้สึกเบื่อบรรยากาศที่ทำงานมากว่าเบื่ออากาศที่เอาแน่เอานอนไม่ได้แล้วล่ะก็ ควรอย่างยิ่งที่ต้องมาปฎิวัติบรรยากาศของที่ทำงานกันอย่างจริงจัง การเพิ่มสีสันให้กับโต๊ะทำงาน เช่น การปักดอกไม้ในแจกันใบสวยสีสันสดใจ จะช่วยสร้างบรรยากาศได้สดชื่นมากขึ้น หรือ นำส้มใส่ตะกร้าใบไม่ต้องใหญ่มากมาวางไว้ข้างๆ โต๊ะ กลิ่นน้ำมันหอมระเหยจากเปลือกส้มจะทำให้คุณรู้สึกปลอดโปร่งมีชีวิตชีวาเหมาะอย่างมากกับโต๊ะทำงานที่ต้องใช้พลังสมองในการสร้างสรรค์ความคิด นอกจากนี้ การกินส้มสดๆ ช่วยให้กระปรี้กระเปร่าแถมยังช่วยให้ระบบขับถ่ายดีขึ้น ตามด้วยการจัดโต๊ะทำงานให้เก๋และมีดีไซด์ แม้ว่าโต๊ะทำงานที่มีระเบียบจะช่วยให้คุณมีสมาธิและจิตใจสงบขึ้นแต่ในช่วงหน้าหนาวแบบนี้ เราอาจต้องการแรงบันดาลใจในการทำงานมากขึ้นกว่าเดิม ลองเลือกหาไอเดียเก๋ๆ จากสิ่งของเครื่องใช้ เช่น หาดินสอปากกาสีๆ ดีไซน์สวยๆ มาปักในแก้วที่มีสีสดใส หรือหาแฟ้มงานสีสันฉูดฉาดมาแทนที่สีดำๆ ทึมๆ แบบเดิม ก็จะช่วยสร้างแรงบันดาลใจและช่วยสร้างความแปลกใหม่ในการทำงานได้ดีทีเดียว สิ่งที่สำคัญที่สุดของการทำงาน คงจะ“หนี” ความสดชื่น กระตือรือร้นและสมองที่ปลอดโปร่งแจ่มใสไปไม่ได้ เพราะบรรยากาศของหน้าหนาวมักจะนำความรู้สึกหดหู่ เบื่อหน่าย และไม่อยากทำงานเข้ามาปกคลุมบริเวณออฟฟิศ ทำให้ได้ง่วงเหงาหาวนอนกัน ดังนั้นช่วงเวลาที่เหมาะที่สุดสำหรับการบำบัด คือ ช่วงยามเช้าหลังการตื่นนอน กลิ่นที่ควรใช้คือ กลิ่นส้ม มะนาว เกรฟฟรุต เบอร์กามอต ยูคาลิปตัส ตะไคร้ โรสแมรี่ ซินนามอน มะลิ ทีทรี แต่กลิ่นยอดนิยมที่มีการทำวิจัยโดยบริษัทผลิตน้ำหอมที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น โดยได้จัดอันดับให้“ กลิ่นเลม่อน( มะนาว) และส้ม” เป็นกลิ่นชนะเลิศ ที่จะช่วยให้ห้องทำงานสดชื่นมาก กระตุ้นการทำงานของคนในที่ทำงานและทำให้ความผิดพลาดของงานลดลงได้ถึง 54 เปอร์เซ็นต์ รองลงมาคือ “ กลิ่นจัสมิน หรือ กลิ่นมะลิ ” ช่วยให้พนักงานตื่นตัวและลดความผิดพลาดในการทำงานลงถึง 33 เปอร์เซ็นต์ และอันดับที่ 3 คือ “ กลิ่นของดอกลาเวนเดอร์ ” ที่มีผลทำให้ความผิดพลาดในการทำงานลดน้อยลง 20 เปอร์เซ็นต์ จะเห็นว่ากลิ่นนั้นมีผลย่างมากที่จะช่วยกระตุ้นระบบการทำงานต่างๆ ของร่างกาย อีกกลิ่นบำบัดหนึ่งที่เหมาะอย่างยิ่งในช่วงบรรยากาศลมหนาวมาเยือนแบบนี้ต้อง “กลิ่นกุหลาบ” แต่อาจไม่เหมาะสมกับที่ทำงานนัก เพราะกลิ่นนี้จะช่วยสร้างบรรยากาศรอบตัวให้โรแมนติกและผ่อนคลายมากๆ แต่ไม่ช่วยสร้างความกระตือรือร้นในการทำงาน ดังนั้น กลิ่นกุหลาบจึงเหมาะกับช่วงเวลาเย็นๆ ค่ำๆ อย่างช่วงกลางคืน ที่ร่างกายกำลังต้องการความผ่อนคลายเตรียมที่จะล้มตัวลงนอน เพื่อพักผ่อนจากความเหนื่อยล้าที่ต้องพบเจอมาในระหว่างวัน อย่างไรก็ดี นอกจากการเพิ่มสีสันต่างๆ เป็นหนึ่งในทางช่วยสร้างบรรยากาศยามลมหนาวมาเยือนแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่ช่วยคุณได้ก็คือ “Aromatherapy” เพิ่มความสดชื่นด้วยกลิ่นบำบัด ศาสตร์แห่งความหอมที่มาพร้อมกับธรรมชาติของพืชพันธุ์สมุนไพร ที่มีคุณสมบัติในการเชื่อมสานความสมดุลระหว่างร่างกาย จิตใจ และอารมณ์ กลิ่นบำบัด จาก ดอกไม้ ผลไม้ น้ำมันหอม กำยาน สามารถแก้อาการซึมเศร้าทั้งทางร่างกายจิตใจและจะเกิดผลดีที่สุดหากเลือกใช้ให้สัมพันธ์กับสถานที่และช่วงเวลาที่เหมาะสม ไม่ว่าจะเป็น การผสมน้ำอาบ ประคบนวดตัว สูดดม ฉีดพ่นให้เป็นละออง ใช้เตาระเหย จุดเทียนหอม หรือการแช่มือหรือเท้าในน้ำที่ผสมกลิ่นเหล่านี้ลงไป อย่าลืมที่จะลองนำเคล็ด(ไม่)ลับต่างๆ เหล่านี้ไปทำกันดู…เป็นการต้อนรับลมหนาวที่จะหนาวจริงหรือหนาวหลอกก็ตาม!! แต่ที่แน่ๆ ไม่ว่าจะช่วงเวลาไหนหรือฤดูไหน เราก็ต้องหมั่นดูแลร่างกายและรักษาสุขภาพจิตสุขภาพใจเอาไว้ทุกเมื่อ เผื่อไว้ต้อนรับวันใหม่ในทุกช่วงเวลาและทุกช่วงฤดู เหมือนกับที่ TK park กำลังเตรียมความพร้อมเตรียมตัวที่จะกลับสู่บ้านหลังเดิม ที่หลายๆ คนคงจะคิดถึงกัน ในวันอังคารที่ 4 มกราคม 2554 นี้ ณ ชั้น 8 Dazzle Zone ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ แล้วกลับมาพบกันอีกครั้งเมื่อฤดูกาลแห่งการเรียนรู้กลับมาเยือน
แท็ก TK park  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ