กรุงเทพฯ--24 ธ.ค.--พรานทะเล มาร์เก็ตติ้ง
จากปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม ภาวะโลกร้อน การบุกรุกพื้นที่ป่าชายเลนซึ่งเป็นแหล่งอาหารและระบบนิเวศวิทยา ส่งผลกระทบต่อสัตว์น้ำในท้องทะเล มีจำนวนลดลงและสูญพันธุ์ คนในชุมชนชายฝั่งทะเลพลอยได้รับความเดือดร้อน เพราะเป็นแหล่งทำมาหากินเลี้ยงชีพ บริษัทพรานทะเล มาร์เก็ตติ้ง จำกัด จึงได้จัดกิจกรรม “พรานทะเล คืนชีวิตสู่ธรรมชาติ” ปีที่ 5 โดยล่าสุดได้ร่วมกันปล่อย ลูกสัตว์น้ำ ทั้งลูกปลา ลูกกุ้ง และลูกปู จำนวนกว่า 4 ล้านตัว ลงสู่อ่าวไทยเพื่อขยายพันธุ์สัตว์น้ำ เพิ่มจำนวนทรัพยากรธรรมชาติตามแนวพระราชดำริ โดยในปีนี้ซึ่งเป็นมหามงคลวันเฉลิมพระชนมพรรษา 84 พรรษา ซึ่งถือว่าเป็นไปตามเป้าหมายของโครงการที่มีจุดประสงค์ในการคืนชีวิตสัตว์ทะเลสู่ธรรมชาติเพื่อรักษาสมดุลระบบนิเวศ อีกทั้งเพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และถวายเป็นพระราชกุศล โดยตลอดระยะเวลา 5 ปีพรานทะเลได้คืนชีวิตสัตว์น้ำสู่ธรรมชาติจำนวนกว่า 14 ล้านตัว
พรานทะเลได้ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและการปกครองส่วนท้องถิ่น รวมทั้งได้รับความร่วมมือจากพนักงานของพรานทะเล และพลังมวลชนของชาวบ้านในชุมชนชายฝั่งได้ร่วมกันเป็นส่วนหนึ่งของการพลิกฟื้นคืนชีวิตให้กับสัตว์น้ำน้อยใหญ่ มีการฟื้นฟูสภาพและสร้างความอุดมสมบูรณ์ให้ระบบนิเวศวิทยาบริเวณนี้เพื่อให้มีความเหมาะสมพร้อมรองรับและเป็นที่อยู่อาศัยของบรรดาลูกสัตว์น้ำวัยกระเตาะกระแตะที่อาจจะยังไม่สามารถดำรงชีวิตอยู่รอดในบริเวณทะเลลึกได้ มีแนวไม้ไผ่ชะลอคลื่นที่คอยกันคลื่นลมยาวเป็นแนวสุดลูกหูลูกตาเพื่อให้พวกมันได้เติบใหญ่และสามารถออกไปเติบโตผสมพันธุ์และขยายสู่ท้องทะเลกว้างในอนาคต
ดร.ธงชัย ธาวนพงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทพรานทะเล มาร์เก็ตติ้ง จำกัด พูดถึงความสำเร็จของโครงการ “พรานทะเลคืนชีวิตสู่ธรรมชาติปีที่ 5 ในครั้งนี้ว่า “ด้วยความรักในผืนแผ่นดินนี้ เพราะผมเป็นลูกน้ำเค็ม เป็นชาวสมุทรสาครและทำอาชีพประมงมานาน เห็นความเปลี่ยนแปลงของท้องทะเลไทย โดยเฉพาะพื้นที่ชาวฝั่งซึ่งเป็นป่าชายเลน เป็นแหล่งอาหารและส่งผลต่อระบบนิเวศโดยรวม ปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมส่งผลต่อการดำรงชีวิตของสัตว์น้ำ จำนวนสัตว์น้ำที่ลดลงจนน่าใจหาย วันนี้พวกเราจึงต้องมาช่วยกันเพิ่มจำนวนสัตว์น้ำ และฟื้นฟูระบบนิเวศชายฝั่งให้ดีขึ้น จึงเป็นที่มาของโครงการนี้ โดยพรานทะเลเราทำต่อเนื่องเข้าสู่ปีที่ 5 และได้คืนชีวิตสัตว์น้ำไปแล้วกว่า 14 ล้านตัวแล้ว”
“การปล่อยสัตว์น้ำจำนวน 4 ล้านตัวในวันนี้ เพื่อสร้างความตระหนักและปลุกจิตสำนึกให้เด็กๆ และชาวบ้านในชุมชน ในการช่วยกันอนุรักษ์และรักษาทั้งผืนป่าโกงกาง พื้นที่ป่าชายเลน วิธีการที่ถูกต้องในการจับสัตว์น้ำ การรักษาสภาพแวดล้อมของชายฝั่งเพื่อให้คนในพื้นที่ได้รู้ว่าการที่พวกเขาอยู่ดีกินดีได้ต้องพึ่งพาและอาศัยธรรมชาติ ดังนั้นหากช่วยกันแบ่งปันความรักผ่านการดูแลรักษาธรรมชาติก็จะทำให้คนในชุมชนมีความสุขจากการทำมาหากินได้ เพราะการอนุรักษ์อย่างยั่งยืนคือการสร้างการมีส่วนร่วมและให้ทุกคนร่วมเป็นเจ้าของ”
ส่วนลูกน้ำเค็มรุ่นเยาว์อย่าง ด.ช.ธนากร คำวิเศษ หรือจิ๋ว อายุ 12 ปีจากโรงเรียนบ้านชายทะเลบางกระเจ้า เล่าให้ฟังว่า “บ้านผมอยู่ไม่ไกลจากที่นี่ เมื่อก่อนตอนผมเด็กๆ ทะเลแถวนี้มีปลาเต็มไปหมด ชาวบ้านที่นี่เกือบทั้งหมดเป็นชาวประมง หาปลาไปขาย พวกกุ้งตัวเล็กๆก็เอามาทำกะปิ ของขึ้นชื่อของบางกระเจ้าเลย แต่ตอนนี้เรือต้องออกไปไกลๆ เพราะไม่มีปลามากๆเหมือนเมื่อก่อนแล้ว ตอนนี้พวกเราทั้งที่เป็นเด็กๆและผู้ใหญ่ในชุมชนก็เลยว่าเราต้อง
ช่วยกัน เพราะไม่งั้นเราก็จะไม่มีปลา ไม่มีปู ไม่มีกุ้งกินกันแล้ว นอกจากเราจะจับมากินเราต้องปล่อยคืนกลับไปสู่ธรรมชาติด้วย และการจับก็ต้องเลือกจับที่ตัวโตๆที่ได้ขนาด กินได้ขายก็ได้ ส่วนตัวเล็กก็ต้องปล่อยไปก่อน วันนี้ผมกับเพื่อนๆ สนุกมากๆ เพราะถึงเราจะเคยมาที่นี่บ่อยๆแต่วันนี้เราได้เป็นผู้ให้ธรรมชาติบ้าง หลังจากที่เราเป็นฝ่ายรับมาตลอด วันนี้ก็เลยรู้สึกภูมิใจนะครับ และหวังว่าลูกปลา ลูกปู ลูกกุ้งตัวน้อยๆที่เราปล่อยไปวันนี้ จะโตเป็นแม่กุ้ง พ่อปู และปลาตัวโตๆในวันพรุ่งนี้ วันนี้พวกผมสนุกมาก ต้องขอขอบคุณพี่ๆพรานทะเลด้วยนะครับ”
โครงการ “พรานทะเล คืนชีวิตสู่ธรรมชาติ” จึงเป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างความรู้ความเข้าใจ และปลูกฝังความรักในท้องทะเลไทยให้แก่คนในชุมชน คืนสมดุลสู่ระบบนิเวศน์ชายฝั่งสร้างความอุดมสมบูรณ์ เพิ่มจำนวนพันธุ์สัตว์น้ำท้องถิ่นในแหล่งน้ำธรรมชาติให้มีจำนวนมากขึ้น ลดโอกาสและความเสี่ยงในการสูญพันธุ์ เพื่อที่ระบบนิเวศชายฝั่งสมุทรสาครจะกลับมางดงามและอุดมสมบูรณ์อีกครั้ง