รายงานประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 2553 และ 2554“เศรษฐกิจไทยปี 53 คาดว่าจะเติบโตถึงร้อยละ 7.8% และคาดว่าจะขยายตัวต่อเนื่องในปี 54”

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday December 28, 2010 15:26 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--28 ธ.ค.--กลุ่มการประชาสัมพันธ์ สำนักงานปลัดกระทรวงการคลัง นายนริศ ชัยสูตร ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง แถลงข่าวประมาณการเศรษฐกิจไทย ณ เดือนธันวาคม 2553 ว่า “เศรษฐกิจไทยในปี 2553 คาดว่าจะขยายตัวร้อยละ 7.8 ปรับตัวดีขึ้นมากจากปีก่อนหน้าที่หดตัวร้อยละ -2.3 ต่อปี ซึ่งประมาณการครั้งนี้สูงกว่าประมาณการ ณ เดือนกันยายน 2553 ที่คาดว่าจะขยายตัวร้อยละ 7.5 สะท้อนภาพรวมทางเศรษฐกิจในปี 2553 ที่ถือว่าขยายตัวได้ในระดับสูงมาก โดยปัจจัยสนับสนุนหลักมาจากการส่งออกสินค้าในรูปดอลลาร์สหรัฐที่ขยายตัวในอัตราที่สูงตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าหลัก รวมถึงการฟื้นตัวของการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชน ซึ่งได้รับแรงหนุนจากรายได้ของเกษตรกรที่เพิ่มสูงขึ้นจากการที่ราคาพืชผลสำคัญปรับตัวสูงขึ้น และการขยายกำลังการผลิตเพื่อรองรับกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้นตามการส่งออก สำหรับเสถียรภาพเศรษฐกิจภายในประเทศ คาดว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไปในปี 2553 จะอยู่ที่ร้อยละ 3.3 ใกล้เคียงกับที่ประมาณการไว้เดิม ส่วนอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานคาดว่าจะอยู่ที่ร้อยละ 0.9 สำหรับเสถียรภาพเศรษฐกิจภายนอกประเทศยังอยู่ในเกณฑ์ดี โดยดุลบัญชีเดินสะพัดในปี 2553 คาดว่าจะเกินดุลร้อยละ 4.4 ของ GDP เกินดุลลดลงจากปีที่แล้ว เนื่องจากการฟื้นตัวของการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชน ทำให้มูลค่านำเข้าสินค้ามีการเร่งตัวสูงขึ้นมาอยู่ที่ร้อยละ 37.5 ต่อปี เทียบกับมูลค่าการส่งออกสินค้าที่คาดว่าจะขยายตัวร้อยละ 28.3 ต่อปี” ตารางสรุปสมมติฐานและผลการประมาณการเศรษฐกิจปี 2553 และ 2554 (ณ เดือนธันวาคม 2553) 2552 2553 f 2554f เฉลี่ย เฉลี่ย ช่วง สมมติฐานหลัก สมมติฐานภายนอก 1) อัตราการขยายตัวเฉลี่ย 14 ประเทศคู่ค้าหลัก (ร้อยละต่อปี) -0.2 4.5 3.3 3.1— 3.6 2) ราคาน้ำมันดิบดูไบ (ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบาร์เรล) 61.3 78.2 83.0 78.0— 88.0 3) ราคาสินค้าส่งออกในรูปดอลลาร์สหรัฐฯ (ร้อยละต่อปี) 0.3 9.1 6.0 5.0— 7.0 4) ราคาสินค้านำเข้าในรูปดอลลาร์สหรัฐฯ (ร้อยละต่อปี) -2.5 8.0 5.8 4.8— 6.8 สมมติฐานด้านนโยบาย 5) อัตราแลกเปลี่ยน (บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ) 34.3 31.7 29.5 28.5— 30.5 6) อัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทย ณ สิ้นปี (ร้อยละต่อปี) 1.25 2.00 3.00 2.50— 3.50 7) รายจ่ายภาคสาธารณะตามปีงบประมาณ (ล้านล้านบาท) 2.47 2.52 2.64 2.63— 2.66 ผลการประมาณการ 1) อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (ร้อยละต่อปี) -2.3 7.8 4.5 4.0— 5.0 2) อัตราการขยายตัวของการบริโภครวม (ร้อยละต่อปี) 0.1 4.9 4.7 4.2— 5.2 - การบริโภคภาคเอกชน (ณ ราคาคงที่) (ร้อยละต่อปี) -1.1 4.8 4.9 4.4— 5.4 - การบริโภคภาครัฐ (ณ ราคาคงที่) (ร้อยละต่อปี) 7.5 5.3 3.4 2.9— 3.9 3) อัตราการขยายตัวของการลงทุนรวม (ร้อยละต่อปี) -9.2 11.1 8.7 7.7— 9.7 - การลงทุนภาคเอกชน ( ณ ราคาคงที่) (ร้อยละต่อปี) -13.1 15.1 11.3 10.3— 12.3 - การลงทุนภาครัฐ (ณ ราคาคงที่) (ร้อยละต่อปี) 2.7 0.5 4.2 3.2— 5.2 4) อัตราการขยายตัวปริมาณส่งออกสินค้าและบริการ (ร้อยละต่อปี) -12.5 15.1 6.4 5.4— 7.4 5) อัตราการขยายตัวปริมาณนำเข้าสินค้าและบริการ (ร้อยละต่อปี) -21.5 22.1 8.1 7.1— 9.1 6) ดุลการค้า (พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) 19.3 12.7 11.7 10.7— 12.7 - สินค้าส่งออกในรูปดอลลาร์สหรัฐฯ (ร้อยละต่อปี) -14.3 28.3 13.2 12.2— 14.2 - สินค้านำเข้าในรูปดอลลาร์สหรัฐฯ (ร้อยละต่อปี) -24.0 37.5 14.6 13.6— 15.6 7) ดุลบัญชีเดินสะพัด (พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) 20.2 14.0 13.1 12.7— 16.2 - ร้อยละของGDP 7.7 4.4 3.6 3.1— 4.1 8) อัตราเงินเฟ้อทั่วไป (ร้อยละ) -0.9 3.3 3.5 3.0— 4.5 อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน (ร้อยละ) 0.3 0.9 2.5 2.0— 3.0 9) อัตราการว่างงาน (ร้อยละของกำลังแรงงานรวม) 1.5 1.1 1.1 1.0 -1.2 สำนักนโยบายเศรษฐกิจมหภาค สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง โทร. 0-2273-9020 ต่อ 3255 ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลังได้ประเมินภาวะเศรษฐกิจไทยในปีหน้าว่า “ในปี 2554 สำนักงานเศรษฐกิจการคลังประเมินว่า เศรษฐกิจไทยจะยังคงขยายตัวต่อเนื่องจากปีนี้ โดยประเมินว่าเศรษฐกิจจะขยายตัวร้อยละ 4.5 (โดยมีช่วงคาดการณ์ที่ร้อยละ 4.0 — 5.0) ตามอุปสงค์ภายในประเทศที่ยังคงมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่องจากปี 2553 ทั้งการบริโภคและการลงทุน ขณะที่อุปสงค์ภายนอกประเทศคาดว่าจะชะลอตัวลง เนื่องจากยังมีความเสี่ยงจากความเปราะบางของการฟื้นตัวของเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าหลักที่อาจส่งผลกระทบต่อภาคการส่งออกของไทยได้ ในด้านเสถียรภาพเศรษฐกิจภายในประเทศ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปในปี 2554 คาดว่าจะอยู่ที่ร้อยละ 3.5 ต่อปี (โดยมีช่วงคาดการณ์ที่ร้อยละ 3.0 — 4.5 ต่อปี) โดยมีแรงกดดันที่สำคัญมาจากราคาน้ำมันที่คาดว่าจะปรับตัวสูงขึ้นจากปีนี้ และราคาสินค้าเกษตรในประเทศที่อาจเร่งตัวขึ้น สำหรับเสถียรภาพเศรษฐกิจภายนอกประเทศ คาดว่าในปี 2554 ดุลบัญชีเดินสะพัดจะเกินดุลที่ร้อยละ 3.6 ของ GDP (ช่วงคาดการณ์ที่ร้อยละ 3.1 — 4.1 ของ GDP) โดยมูลค่าส่งออกสินค้าคาดว่าจะขยายตัวร้อยละ 13.2 ต่อปี (ช่วงคาดการณ์ที่ร้อยละ 12.2 — 14.2 ต่อปี) และมูลค่านำเข้าสินค้าคาดว่าจะขยายตัวร้อยละ 14.6 ต่อปี (ช่วงคาดการณ์ที่ร้อยละ 13.6 — 15.6 ต่อปี)” เอกสารแนบ รายงานประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 2553 และ 2554 1. เศรษฐกิจไทยในปี 2553 1.1 ด้านการขยายตัวทางเศรษฐกิจ เศรษฐกิจไทยในปี 2553 คาดว่าจะฟื้นตัวขึ้นจากปีที่แล้วมาขยายตัวที่ร้อยละ 7.8 ต่อปี สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้เมื่อเดือนกันยายน 2553 โดยแรงขับเคลื่อนสำคัญมาจากการส่งออกสินค้าและบริการที่คาดว่าจะขยายตัวสูงถึงร้อยละ 15.1 ต่อปี ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าโดยเฉพาะประเทศในภูมิภาคเอเชียและประเทศเกิดใหม่ ในขณะที่ภาคเอกชนมีแนวโน้มที่จะมีการจับจ่ายใช้สอยภายในประเทศมากขึ้นจากปีก่อน และเป็นแรงขับเคลื่อนที่แข็งแกร่งของเศรษฐกิจ โดยการบริโภคภาคเอกชนคาดว่าจะกลับมาขยายตัวที่ร้อยละ 4.8 ต่อปี ตามภาวะการจ้างงานและรายได้เกษตรกรที่อยู่ในเกณฑ์ดี ตลอดจนความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ปรับสูงขึ้นภายหลังเหตุการณ์ความไม่สงบทางการเมืองภายในประเทศคลี่คลายลง ในขณะเดียวกันการลงทุนภาคเอกชนคาดว่าจะกลับมาขยายตัวสูงถึงร้อยละ 15.1 ต่อปี สอดคล้องกับอัตราการใช้กำลังการผลิตในหลายสาขาอุตสาหกรรมที่เริ่มตึงตัว อีกทั้งแรงสนับสนุนจากแนวโน้มการบริโภคและการส่งออกที่ขยายตัวดียังทำให้ภาคธุรกิจต้องลงทุนเพิ่มเติม เพื่อรองรับการขยายตัวของอุปสงค์ในอนาคตทั้งจากในและต่างประเทศ ส่วนการใช้จ่ายของภาครัฐยังคงมีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนให้เศรษฐกิจไทยขยายตัวต่อเนื่อง โดยในปี 2553 การบริโภคภาครัฐคาดว่าจะขยายตัวร้อยละ 5.3 ต่อปี ซึ่งเป็นผลจากการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำของรัฐบาลเพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ ขณะที่แรงกระตุ้นผ่านรายจ่ายลงทุนคาดว่าจะลดลงจากการเบิกจ่ายงบลงทุนของรัฐวิสาหกิจที่ล่าช้าเป็นสำคัญ ทำให้การลงทุนภาครัฐจะขยายตัวชะลอลงที่ร้อยละ 0.5 ต่อปี ส่วนปริมาณการนำเข้าสินค้าและบริการในปี 2553 มีแนวโน้มขยายตัวสูงถึงร้อยละ 22.1 ต่อปี ตามการขยายตัวของอุปสงค์ภายในประเทศและการผลิตสินค้าส่งออกที่เร่งขึ้น 1.2 ด้านเสถียรภาพเศรษฐกิจ เสถียรภาพเศรษฐกิจภายในประเทศ ในด้านอัตราเงินเฟ้อทั่วไปในปี 2553 คาดว่าจะปรับสูงขึ้นจากปีก่อนมาอยู่ที่ร้อยละ 3.3 เนื่องจากแรงกดดันจากแนวโน้มราคาน้ำมันที่ปรับสูงขึ้นตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก และแนวโน้มราคาสินค้าเกษตรที่ปรับสูงขึ้นตามสภาพภูมิอากาศที่แปรปรวนเป็นสำคัญ ในขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานที่ไม่รวมราคาน้ำมันและอาหารสดคาดว่าจะเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ร้อยละ 0.9 สำหรับอัตราการว่างงานมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ่นมาอยู่ที่ร้อยละ 1.1 ของกำลังแรงงานรวม เนื่องจากการจ้างงานที่กลับมาเพิ่มขึ้นตามสภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวขึ้น ในด้านเสถียรภาพภายนอกประเทศ คาดว่าดุลบัญชีเดินสะพัดในปี 2553 จะเกินดุลลดลงจากปีก่อนมาอยู่ที่ 14.0 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ อันเป็นผลจากมูลค่านำเข้าสินค้าที่คาดว่าจะขยายตัวในอัตราเร่งกว่ามูลค่าส่งออกสินค้า โดยคาดว่ามูลค่าสินค้านำเข้าในปี 2553 จะขยายตัวในอัตราสูงที่ร้อยละ 37.5 ต่อปี ตามการเร่งตัวขึ้นของการใช้จ่ายภายในประเทศ ขณะที่มูลค่าส่งออกสินค้าในปี 2553 คาดว่าจะขยายตัวที่ร้อยละ 28.3 ต่อปี ตามการขยายตัวของปริมาณการส่งออกสินค้าที่สอดคล้องกับแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจประเทศคู่ค้า 2. เศรษฐกิจไทยในปี 2554 2.1 ด้านการขยายตัวทางเศรษฐกิจ เศรษฐกิจไทยในปี 2554 คาดว่าจะขยายตัวต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา โดยมีโอกาศที่จะขยายตัวร้อยละ 4.5 ต่อปี (โดยมีช่วงคาดการณ์ที่ร้อยละ 4.0 — 5.0 ต่อปี) ซึ่งแรงขับเคลื่อนที่สำคัญมาจากการจับจ่ายใช้สอยภายในประเทศที่ยังคงมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่องจากปี 2553 ทั้งการบริโภคและการลงทุน โดยการบริโภคภาคเอกชนคาดว่าจะขยายตัวต่อเนื่องที่ร้อยละ 4.9 ต่อปี (โดยมีช่วงคาดการณ์ที่ร้อยละ 4.4 — 5.4 ต่อปี) ตามภาวะการจ้างงานและรายได้ที่ยังอยู่ในเกณฑ์ดี ทั้งในส่วนของรายได้เกษตรกรที่คาดว่าจะปรับสูงขึ้นตามราคาพืชผลสำคัญ รายได้ของลูกจ้างและข้าราชการที่จะปรับสูงขึ้นตามการปรับอัตราค่าจ้างขั้นต่ำและเงินเดือนข้าราชการ รวมถึงรายได้จากภาคท่องเที่ยวที่คาดว่าจะฟื้นตัวหลังจากสถานการณ์ทางการเมืองกลับเป็นปกติ ขณะที่การลงทุนภาคเอกชนคาดว่าจะขยายตัวร้อยละ 11.3 ต่อปี (โดยมีช่วงคาดการณ์ที่ร้อยละ 10.3 — 12.3 ต่อปี) โดยเป็นผลจากความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น ประกอบกับแนวโน้มอัตราการใช้กำลังการผลิตภาคอุตสาหกรรมโดยเฉพาะอุตสาหกรรมที่เน้นการผลิตเพื่อส่งออกที่อยู่ในระดับค่อนข้างสูงตั้งแต่ปี 2553 สำหรับอุปสงค์ภายนอกประเทศคาดว่าจะชะลอตัวลง เนื่องจากความเสี่ยงจากความเปราะบางและล่าช้าในการฟื้นตัวของเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าที่อาจส่งผลกระทบต่อภาคการส่งออกของไทยได้ โดยคาดว่าจะส่งผลให้ปริมาณการส่งออกสินค้าและบริการในปี 2554 ขยายตัวชะลอลงมาอยู่ที่ร้อยละ 6.4 ต่อปี (โดยมีช่วงคาดการณ์ที่ร้อยละ 5.4 - 7.4 ต่อปี) ส่วนปริมาณการนำเข้าสินค้าและบริการคาดว่าจะขยายตัวชะลอลงมาอยู่ที่ร้อยละ 8.1 ต่อปี (โดยมีช่วงคาดการณ์ที่ร้อยละ 7.1 — 9.1 ต่อปี) สำหรับการใช้จ่ายภาครัฐในปี 2554 คาดว่าการบริโภคภาครัฐจะขยายตัวที่ร้อยละ 3.4 ต่อปี (โดยมีช่วงคาดการณ์ที่ร้อยละ 2.9 — 3.9 ต่อปี) ตามการเบิกจ่ายงบประมาณประจำปีของรัฐบาลในปี 2554 ที่เป็นไปอย่างต่อเนื่อง ขณะที่การลงทุนภาครัฐคาดว่าจะขยายตัวเร่งขึ้นมาอยู่ที่ร้อยละ 4.2 ต่อปี (โดยมีช่วงคาดการณ์ที่ร้อยละ 3.2 — 5.2 ต่อปี) 2.2 ด้านเสถียรภาพเศรษฐกิจ เสถียรภาพเศรษฐกิจภายในประเทศ ในด้านอัตราเงินเฟ้อทั่วไปในปี 2554 คาดว่าจะอยู่ที่ร้อยละ 3.5 (โดยมีช่วงคาดการณ์ที่ร้อยละ 3.0 — 4.5) อันเป็นผลจากราคาน้ำมันในตลาดโลกที่คาดว่าจะทรงตัวอยู่ในระดับสูงต่อเนื่องจากปี 2553 และการปรับเพิ่มค่าจ้างขั้นต่ำที่อาจส่งผลให้แรงกกดันด้านต้นทุนเพิ่มสูงขึ้น ส่วนอัตราการว่างงานคาดว่าจะอยู่ในระดับต่ำที่ร้อยละ 1.1 ของกำลังแรงงานรวม (โดยมีช่วงคาดการณ์ที่ร้อยละ 1.0 — 1.2 ของกำลังแรงงานรวม) ในด้านเสถียรภาพภายนอกประเทศ คาดว่าดุลบัญชีเดินสะพัดจะเกินดุลลดลงเล็กน้อยมาอยู่ที่ 13.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณร้อยละ 3.6 ของ GDP (โดยมีช่วงคาดการณ์ที่ร้อยละ3.1 — 4.1 ของ GDP) เนื่องจากดุลการค้าที่คาดว่าจะเกินดุลดลงมาอยู่ที่ 11.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (โดยมีช่วงคาดการณ์ที่ 12.7 — 14.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) โดยคาดว่ามูลค่านำเข้าสินค้าในปี 2554 จะขยายตัวร้อยละ 14.6 ต่อปี (โดยมีช่วงคาดการณ์ที่ร้อยละ 13.6 — 15.6 ต่อปี) ในขณะที่มูลค่าส่งออกสินค้าคาดว่าจะขยายตัวร้อยละ 13.2 ต่อปี (โดยมีช่วงคาดการณ์ที่ร้อยละ 12.2 — 14.2 ต่อปี) สำนักนโยบายเศรษฐกิจมหภาค สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง โทร. 0-2273-9020 ต่อ 3255

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ