กรุงเทพฯ--21 ก.พ.--SCNYL
บมจ. ไทยพาณิชย์นิวยอร์คไลฟ์ประกันชีวิต หรือ SCNYL โชว์ผลการดำเนินงานปี 2549 ยอดขายเติบโตทุกช่องทาง ดันเบี้ยรับรวมทะลุหมื่นล้านบาท แบงก์แอสชัวรันส์ ยังนำโด่งเบอร์หนึ่งของตลาด ปีนี้เร่งต่อยอดบุกทุกช่องทางเพื่อครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย เตรียมอัดฉีดเพิ่มยอดขายผ่านช่องทางตัวแทนเต็มที่ ส่วนแบงก์แอสชัวรันส์ เดินหน้าจับมือธนาคารไทยพาณิชย์ พัฒนากรมธรรม์คุณภาพที่ตรงใจลูกค้ามากที่สุด พร้อมจัดกิจกรรมลูกค้าสัมพันธ์หลากหลายเพิ่มคุณค่าการบริการลูกค้า ล่าสุดชิงเปิดตัวกรมธรรมสะสมทรัพย์ทั้งระยะสั้น และระยะยาวใหม่ 2 แบบรวด
นายโดนอลด์ คาร์ดีน กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ. ไทยพาณิชย์นิวยอร์คไลฟ์ประกันชีวิต เปิดเผยถึงทิศทางและกลยุทธ์ธุรกิจในปี 2550 ว่า “SCNYL จะเร่งต่อยอดการเติบโตทั้ง 6 ช่องทาง ผ่านกลยุทธ์ผ่านหลากหลายช่องทาง หรือ Multi distribution channel เพื่อบรรลุเป้าหมายระยะยาวที่จะเพิ่มสัดส่วนยอดขายของนอนแบงก์ ให้เทียบเท่า หรือมากกว่าแบงก์แอสชัวรันส์ภายในสิ้นปี 2554 และติดท็อปไฟว์ในด้านเบี้ยรับรวมภายในสิ้นปีหน้า โดยจะหันมารุกหนักในการเพิ่มการเติบโตผ่านช่องทางตัวแทน เร่งรีครูทตัวแทนคุณภาพ และฝึกอบรมให้มีทักษะการขาย และบริการเป็นเลิศ เพื่อเพิ่มเบี้ยต่อรายของตัวแทนให้มากขึ้น ผ่านระบบฝึกอบรมตัวแทน GOLD System ที่ทรงประสิทธิภาพของนิวยอร์คไลฟ์ โดยตั้งเป้าว่าจะเติบโตให้ได้ 30% ต่อปีในอีก 5 ปีข้างหน้า และคาดว่าปีนี้ เบี้ยปีแรกของทั้งบริษัท จะเพิ่มขึ้น 5% เป็น 5,366 ล้านบาท ส่วนเบี้ยรับรวม จะเติบโต 18% เป็น 11,800 ล้านบาท
“ในฐานะผู้นำตลาดแบงก์แอสชัวรันส์ เราจะผนึกกำลัง และอาศัยความเชี่ยวชาญทางการตลาดของธนาคารไทยพาณิชย์ขยายช่องทางนี้ เพื่อรักษาตำแหน่งผู้นำตลาดต่อไป โดยเล็งเพิ่มฐานลูกค้าใหม่ๆ ของธนาคาร นอกเหนือจากให้บริการกลุ่มลูกค้ารายบุคคล เครดิตไลฟ์ ผู้เช่าซื้อรถ กลุ่ม SME โดยเน้นหนักการวิจัยตลาด วิเคราะห์ฐานข้อมูลลูกค้าเพื่อพัฒนานวัตกรรมกรมธรรม์ใหม่ๆ ที่ตรงใจลูกค้า รวมทั้งคุณภาพ และคุณค่าการบริการลูกค้าให้สอดคล้องกับนโยบาย World-Class service ของธนาคาร ซึ่งส่งผลให้เราเป็นผู้นำในการกำหนดทิศทางผลิตภัณฑ์ และบริการของตลาดแบงก์แอสชัวรันส์” นายโดนอลด์ กล่าว
นายบัณฑิต เจียมอนุกูลกิจ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานธุรกิจธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวว่า “ต้นปีที่ผ่านมา SCNYL ได้เปิดตัวกรมธรรม์สะสมทรัพย์ใหม่ 2 แบบผ่านแบงก์แอสชัวรันส์ เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าธนาคาร คือ New Saver+ และ Freedom+ ซึ่งจับกลุ่มลูกค้าที่แตกต่างกัน โดยได้รับผลตอบรับอย่างดีจากลูกค้าธนาคาร New Saver+ เน้นกลุ่มที่ต้องการออมระยะสั้น ชำระเบี้ยเพียง 6 ปี แต่ให้ความคุ้มครอง 14 ปี ให้ผลตอบแทนที่สูงขึ้น และยังขยายฐานลูกค้าจากอายุสูงสุดจาก 55 ปี เป็น 60 ปี ส่วน Freedom+ เป็นการออมระยะยาว ชำระเบี้ย 20 ปี ให้คุ้มครองถึง 70 ปี พร้อมเงินคืนที่สอดคล้องกับความต้องการใช้เงินในแต่ละช่วงของชีวิต”
นอกจากนี้ ในปีนี้ จะฝึกอบรมให้ความรู้ด้านการขายแบบตรงความต้องการลูกค้าหรือ Need Base Selling แก่พนักงานขาย เพื่อ แนะนำผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับลูกค้าแต่ละราย รวมทั้งเพิ่มคุณค่าการบริการลูกค้า ผ่านโครงการ SCB Life+ Experience Program ซึ่งปีที่ผ่านมาได้จัดกิจกรรมที่สร้างความประทับใจลูกค้าและครอบครัวมากมาย เช่น Valentine Dinner, King Rama V Dinner, คอนเสิรต์ เป็นต้น
ส่วนช่องทางตัวแทนนั้น บริษัทได้จัดตั้ง ฝ่ายสรรหาตัวแทน และฝ่ายพัฒนาธุรกิจตัวแทน เพื่อเป็นศูนย์กลางในการรีครูท และฝึกอบรม สัมมนาให้ความรู้แก่ตัวแทน และผู้บริหารหน่วย ติดตามประสิทธิภาพการทำงานของตัวแทน โดยตั้งเป้ารีครูทตัวแทนใหม่เพิ่มอีก 2,000 คน จากที่มีอยู่ 3,000 คน พร้อมจัดแคมเปญแข่งขันประจำเดือน และรายไตรมาส คุณวุฒิท่องเที่ยวต่างประเทศ รวมทั้งคุณวุฒินานาชาติของนิวยอร์คไลฟ์อีกด้วย เพื่อกระตุ้นยอดขายของตัวแทนทุกระดับชั้น อีกทั้งเตรียมสาขาใหม่ ในกรุงเทพ 2 แห่ง และภูเก็ต 1 แห่ง อีกด้วย
ด้านนายไกดา ศรีเฟื่องฟุ้ง รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ เปิดเผยว่าถึงแผนงานสายงานประกันชีวิตธุรกิจเฉพาะว่า ปัจจุบัน SCNYL ติดอันดับ 2 ในตลาด worksite โดยจะเพิ่มจำนวน และทักษะการขายให้แก่พนักงานขาย ในช่องทาง worksite พร้อมออกกรมธรรม์ใหม่ในเดือนมิถุนายน และเพิ่มสัดส่วนลูกค้ากลุ่มข้าราชการ และพนักงานบริษัทเอกชน จาก 15:85 เป็น 30:70 ส่วนเทเลมาร์เกตติ้ง ตั้งเป้าเติบโตจากปีก่อนถึง 50% โดยเพิ่มพนักงานขายอีก และออกกรมธรรม์ใหม่กลางปีนี้เช่นกัน
พร้อมกันนี้ นายโดนอลด์ ได้เปิดแผยผลประกอบการปี 2549 ว่า “ทุกช่องทางการขายของ SCNYL ยังรักษาการเติบโตได้ดี และสูงกว่าอัตราเติบโตของธุรกิจ แม้ว่าธุรกิจประกันชีวิตจะเผชิญกับปัจจัยลบมากมาย โดยมีเบี้ยใหม่จากทุกช่องทางการขายทั้งสิ้น (รวมซิงเกิ้ลพรีเมี่ยม) 5,088 ล้านบาท เติบโต 4.86% ขณะที่อัตราเติบโตเฉลี่ยของธุรกิจประกันชีวิตติดลบ 8% และขยับมาติดอันดับ 3 ของตลาดรวมในด้านเบี้ยใหม่ มีส่วนแบ่งตลาด 10.39% มีเบี้ยปีต่อไป 5,614 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21ส่วนเบี้ยรับรวมเพิ่มขึ้นจากปีก่อน 14% เป็น 10,000 ล้านบาท สูงกว่าธุรกิจ ซึ่งเติบโตเพียง 4%”
ในปีที่ผ่านมา แบงก์แอสชัวรันส์ เติบโต 4% มีเบี้ยปีแรกถึง 4,233 ล้านบาท แบ่งเป็นเบี้ยรายบุคคล 2,149 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22% และเครดิตไลฟ์ 2,074 ล้านบาท ลดลง 8% เนื่องจากผลกระทบจากยอดขายที่ลดลงของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ แต่ SCNYL ยังครองอันดับหนึ่งในช่องทางนี้ ด้วยส่วนแบ่งตลาดกว่า 50% ด้านช่องทางตัวแทน มีเบี้ยปีแรก 477 ล้านบาท Worksite 130 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22% ส่วน Affinity Marketing หรือเทเลมาร์เกตติ้ง เป็นช่องทางที่มีอัตราเติบโตสูงสุด ถึง 190% มีเบี้ยปีแรก 97 ล้านบาท
เขากล่าวต่อว่า “หากมองย้อนไปเมื่อปี 2543 ที่นิวยอร์คไลฟ์เข้ามาเปิดตลาดในไทย SCNYL ยังเป็นบริษัทเล็กๆ มีเบี้ยรับรวมเพียงหลักพันล้านบาท แต่วันนี้เป็นสิ่งที่น่าภูมิใจ เพราะเราได้ก้าวมาเป็นหนึ่งในผู้นำตลาด ที่มีเบี้ยรับรวมทะลุหลักหมื่นล้านบาท ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการเติบโตอย่างรวดเร็วตลอด 7 ปีที่ผ่านมา ซึ่งพิสูจน์ให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของกลยุทธ์การจัดจำหน่ายผ่านหลากหลายช่องทาง หรือ Multi distribution channels ซึ่งครอบคลุมถึง 6 ช่องทาง โดยมีแบงก์แอสชัวรันส์เป็นหัวหอกสำคัญ เสริมด้วยตัวแทน เครดิตไลฟ์ ประกันชีวิตข้าราชการ (worksite) เทเลมาร์เกตติ้ง และประกันกลุ่ม ทำให้เราเข้าถึงตลาดทุกกลุ่มเป้าหมาย
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
นันทวัน กิจธนาเจริญ
ส่วนสื่อสารองค์กร
โทร. 02-655-3000 ต่อ 3416 / 01-835-6540
Nantawan@scnyl.com