ก.ล.ต. กล่าวโทษผู้กระทำผิดกรณีสร้างราคาหลักทรัพย์ FOCUS IFEC และ RCI ในช่วงปี 2551

ข่าวทั่วไป Wednesday December 29, 2010 08:30 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--29 ธ.ค.--ก.ล.ต. ก.ล.ต. กล่าวโทษผู้กระทำผิดกรณีสร้างราคาหลักทรัพย์ FOCUS IFEC และ RCI ในช่วงปี 2551ต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ และลงโทษผู้ติดต่อกับผู้ลงทุนที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ก.ล.ต. กล่าวโทษนายสง่า สกุลเอกไพศาล (หรือ “เฮียตี๋” เดิมชื่อนายจักรชัย หรือนายธน แซ่เจียม) ในกรณีเป็นผู้ซื้อขายหลักทรัพย์ของบริษัทโฟคัส ดีเวลลอปเม้นท์ แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) (“FOCUS”) ระหว่างวันที่ 24-25 เมษายน 2551 หลักทรัพย์ของบริษัทอินเตอร์ ฟาร์อีสท์ วิศวการ จำกัด (มหาชน) (“IFEC”) เมื่อวันที่ 29 เมษายน 2551 และหลักทรัพย์ของบริษัทโรแยล ซีรามิค อุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน) (“RCI”) เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2551 โดยผ่านบัญชีของบุคคลอื่นในลักษณะสร้างราคา และกล่าวโทษนางสาวนงลักษณ์ สินประเสริฐเลิศ และนายอดิเรก อุ่มบางตลาด ซึ่งขณะนั้นเป็นเจ้าหน้าที่การตลาด ที่บริษัทหลักทรัพย์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) และบริษัทหลักทรัพย์เมอร์ชั่น พาร์ทเนอร์ จำกัด (มหาชน) ตามลำดับ ในฐานะเป็นผู้ให้การช่วยเหลือและสนับสนุนนายสง่า โดย ก.ล.ต.ได้กล่าวโทษต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2553 สืบเนื่องจาก ก.ล.ต. ได้รับแจ้งจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า ตรวจสอบพบสภาพการซื้อขายที่ผิดปกติของหลักทรัพย์ดังกล่าวอันเนื่องมาจากการซื้อขายของบุคคลกลุ่มหนึ่ง และจากการตรวจสอบของ ก.ล.ต. พบว่า ในช่วงเวลาดังกล่าว หลักทรัพย์ FOCUS IFEC และ RCI มีการซื้อขายกันมากและมีการเปลี่ยนแปลงของราคาไม่ตรงกับสภาพปกติของตลาด ซึ่งมีพยานหลักฐานน่าเชื่อว่าเกิดจาก การกระทำของนายสง่า ที่สั่งซื้อขายหลักทรัพย์ดังกล่าวผ่านบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ของบุคคลอื่นรวม 8 บัญชี ในลักษณะอำพราง เพื่อให้บุคคลทั่วไปหลงผิดไปว่าหลักทรัพย์นั้นมีการซื้อขายกันมากหรือราคาหลักทรัพย์นั้นเปลี่ยนแปลงไป โดยมีพฤติกรรมการซื้อขายในลักษณะต่อเนื่อง อันเป็นผลทำให้การซื้อหรือขายหลักทรัพย์นั้นผิดไปจากสภาพปกติของตลาด เพื่อชักจูงให้บุคคลทั่วไปทำการซื้อขายหลักทรัพย์นั้น รวมทั้งมีการจับคู่ซื้อขายโดยบุคคลที่ได้ประโยชน์เป็นบุคคลคนเดียวกัน การกระทำดังกล่าวเข้าข่ายเป็นความผิดตามมาตรา 243 และมาตรา 244 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 ประกอบมาตรา 83 แห่งประมวลกฎหมายอาญา ในกรณีเดียวกันนี้ ก.ล.ต. ได้กล่าวโทษผู้ติดต่อกับผู้ลงทุนของบริษัทหลักทรัพย์อีก 2 ราย ซึ่งมีพยานหลักฐานน่าเชื่อว่าได้ช่วยเหลือสนับสนุนการกระทำของนายสง่า โดย (1) นางสาวนงลักษณ์ สินประเสริฐเลิศ ซึ่งขณะเกิดเหตุปฏิบัติงานเป็นผู้ติดต่อกับผู้ลงทุนของบริษัทหลักทรัพย์กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) สาขาชลบุรี เกี่ยวข้องกับการซื้อขายหุ้นของ FOCUS และ IFEC และ (2) นายอดิเรก อุ่มบางตลาดซึ่งขณะเกิดเหตุปฏิบัติงานเป็นผู้ติดต่อกับผู้ลงทุนของบริษัทหลักทรัพย์เมอร์ชั่น พาร์ทเนอร์ จำกัด (มหาชน) เกี่ยวข้องกับการซื้อขายหุ้นของ RCI โดยบุคคลทั้งสองมีพฤติกรรมช่วยเหลือในการจัดหาบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ให้แก่นายสง่า ส่งคำสั่งซื้อขายหลักทรัพย์ในลักษณะสร้างราคา และช่วยเหลือในการทำธุรกรรมทางการเงินที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายหลักทรัพย์ดังกล่าว อันเข้าข่ายเป็นความผิดตามมาตรา 243 และมาตรา 244 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 ประกอบมาตรา 86 แห่งประมวลกฎหมายอาญา อนึ่ง ก.ล.ต. ได้เปิดโอกาสให้บุคคลทั้งสามพิจารณาเข้ารับการเปรียบเทียบแล้ว แต่บุคคลดังกล่าวไม่ยินยอมเข้ารับการเปรียบเทียบ ก.ล.ต. จึงได้กล่าวโทษบุคคลทั้งสามต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ เนื่องจากนางสาวนงลักษณ์ และนายอดิเรก มีฐานะเป็นบุคคลที่ได้รับความเห็นชอบให้เป็นบุคลากรในธุรกิจตลาดทุน การถูกกล่าวโทษในกรณีช่วยเหลือสนับสนุนการกระทำอันไม่เป็นธรรมในการซื้อขายหลักทรัพย์ เป็นเหตุให้บุคคลทั้งสองเข้าข่ายมีลักษณะต้องห้ามตามประกาศที่เกี่ยวข้องตลอดระยะเวลาที่ถูกกล่าวโทษดำเนินคดี และทำให้การได้รับความเห็นชอบสิ้นสุดลง บุคคลทั้งสองรายดังกล่าว จึงไม่สามารถทำหน้าที่เป็นบุคลากรในธุรกิจตลาดทุนได้ต่อไป

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ