กรุงเทพฯ--10 เม.ย.--ปตท.
นายชัยวัฒน์ ชูฤทธิ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่กลุ่มธุรกิจน้ำมัน บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า แม้สถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างอิหร่านกับอังกฤษจะคลี่คลายลง ภายหลังอิหร่านได้ปล่อยตัวทหารอังกฤษทั้ง 15 คน แต่ล่าสุดอิหร่านยังคงเดินหน้าพัฒนาพลังงานนิวเคลียร์ ประกอบกับมีปัจจัยความไม่สงบในไนจีเรีย และปริมาณการสำรองน้ำมันสำเร็จรูปของสหรัฐฯ ลดต่ำลงกว่าปีก่อนถึง 6.21% (อยู่ที่ระดับ 12.3 ล้านบาร์เรล) ส่งผลให้ตลาดเกิดความกังวลและทำให้ราคาน้ำมันตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง
ล่าสุดในวันนี้ (10 เม.ย.50) ราคาน้ำมันดิบดูไบขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 64.21 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล น้ำมันเบนซิน 95 ขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 82.86 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล และน้ำมันดีเซลอยู่ที่ระดับ 78.76 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ทำให้ต้นทุนราคาน้ำมันในประเทศปรับตัวสูงขึ้นตาม และส่งผลให้ค่าการตลาดทั้งเบนซินและดีเซลอยู่ในระดับต่ำ ปตท. จึงจำเป็นต้องพิจารณาทยอยปรับราคาน้ำมันขายปลีกทุกชนิดขึ้น 40 สตางค์/ลิตร มีผลตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (11 เม.ย. 50) เวลา 05.00 น. เป็นต้นไป ส่งผลให้ราคาน้ำมันในเขต กทม. และปริมณฑล เป็นดังนี้
น้ำมันเบนซิน พีทีที อัลฟา เอ็กซ์ 95 28.79
น้ำมันเบนซิน พีทีที แก๊สโซฮอล์ 95 พลัส 26.29 (ถูกกว่าเบนซิน95 ถึง 2 .50 บาท)
น้ำมันเบนซิน พีทีที อัลฟา เอ็กซ์ 91 27.99
น้ำมันเบนซิน พีทีที แก๊สโซฮอล์ 91 พลัส 25.99 (ถูกกว่าเบนซิน91 ถึง 2 บาท)
น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว พีทีที เดลต้า เอ็กซ์ ยูโร ทรี 24.94
น้ำมัน พีทีทีไบโอดีเซล/น้ำมันดีเซล-ปาล์มบริสุทธิ์ 24.24 (ถูกกว่าดีเซล ถึง 70 สตางค์)
ช่วงนี้ราคาน้ำมันยังคงผันผวน ขอให้ผู้ใช้รถทุกท่านช่วยกันประหยัด เพราะบ้านเราต้องนำเข้าน้ำมันจากต่างประเทศเป็นส่วนใหญ่ โดยเฉพาะใกล้ถึงเทศกาลสงกรานต์ ขอให้ทุกคนวางแผนการเดินทางให้ดี ตรวจเช็กสภาพรถยนต์ก่อนเดินทาง ขับรถด้วยความไม่ประมาท และใช้พลังงานทดแทนให้มากขึ้น อาทิ น้ำมัน “พีทีที แก๊สโซฮอล์ 95 พลัส” (ราคาถูกกว่าน้ำมันเบนซิน 95 ถึง 2.50 บาท/ลิตร), น้ำมัน “พีทีที แก๊สโซฮอล์ 91 พลัส” (ราคาถูกกว่าน้ำมันเบนซิน91 ถึง 2 บาท/ลิตร), “น้ำมันไบโอดีเซล” (ราคาถูกกว่าน้ำมันดีเซลถึง 70 สตางค์/ลิตร) และก๊าซเอ็นจีวี (ราคา 8.50 บาท/กก.) ซึ่งจะสามารถช่วยตนเองและประเทศประหยัดได้อีกทาง