เปิดวิสัยทัศน์ภารกิจท้าทาย MD หญิงแม่ทัพใหม่ รี้ด เทรดเด็กซ์ “นิชาภา ยศวีร์” นำทีมลุยเวียดนาม เจาะอุตสาหกรรมโลหะการ ชิ้นส่วนอิเล็คทรอนิกส์ การศึกษา และเทคโนฯผลิตสื่อป้ายโฆษณา

ข่าวทั่วไป Wednesday June 13, 2007 17:17 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--13 มิ.ย.--รี้ด เทรดเด็กซ์
MD หญิงคนใหม่ค่าย รี้ด เทรดเด็กซ์ ด้วยประสบการณ์ที่สั่งสมมานานกว่า 18 ปี ประกาศสานต่อจุดยืนในการดำเนินการธุรกิจ Trade Exhibition สร้างคุณค่าเพิ่มให้กับธุรกิจของลูกค้า และส่งเสริมให้ศักยภาพการผลิตทุกอุตสาหกรรมไทยแข็งแกร่งนำไปสู่เศรษฐกิจไทย ตั้งเป้านำทีมลุยเวียดนาม พร้อมดันเทรดโชว์ไทยสู่ อันดับ1 ของศูนย์กลางการจัดแสดงสินค้าในเอเชีย
นางนิชาภา ยศวีร์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท รี้ด เทรดเด็กซ์ จำกัด เปิดเผยว่า ปัจจุบันปัจจัยสำคัญในการพัฒนาธุรกิจเอ็กซิบิชั่นของไทย สู่ อันดับ1 ของศูนย์กลางการจัดแสดงสินค้าในเอเชีย ไม่ได้มีปัญหาเรื่องการขาดแคลนพื้นที่ศูนย์ประชุมอย่างที่ผ่านมา พื้นที่จัดงานไม่เป็นปัญหามีความพร้อมของศูนย์แสดงสินค้าที่มีอยู่หลายแห่งเช่น ไบเทค, อิมแพค, ศูนย์ประชุมสิริกิติ์, เซ็นทรัลเวิลด์ (เปิดปี 2550), รอยัลพารากอน ฮอลล์, และ PEACH ซึ่งรวมๆ แล้ว พื้นที่แสดงสินค้าจะมีประมาณ 250,000 ตารางเมตร แต่กลยุทธ์สำคัญสำหรับการเป็นผู้ให้บริการด้านสถานที่ คือ ยุทธศาสตร์ของศูนย์ประชุมแต่ละแห่งต้องหาคาแรกเตอร์ของตัวเองให้เหมาะสมกับตลาดการจัดงาน เพราะการแข่งขันของธุรกิจศูนย์ประชุมขณะนี้ไม่ได้แข่งกันเอง แต่แข่งกับศูนย์ในต่างประเทศด้วย อย่างสิงคโปร์ มีมารีน่าเบย์ที่เพิ่งสร้าง มาเก๊ามีกาสิโนใหม่ ตอนนี้ทุกประเทศมียุทธศาสตร์ อย่างรัฐบาลของสิงคโปร์และมาเก๊า
สำหรับบริษัท รี้ด เทรดเด็กซ์ จำกัด เราเป็น Trade Exhibition หรือ Trade Promotion ไม่ใช่เพียงแค่ออแกไนเซอร์รับจัดEvent ซึ่งเราวางกลยุทธการชิงธุรกิจเอ็กซิบิชั่นจากประเทศต่างๆในเอเชีย โดย เน้นผลักดันงานเอ็กซิบิชั่นขนาดใหญ่ที่จัดงานอยู่แล้วในไทยให้มีขนาดใหญ่ขึ้นทุกปี ซึ่งงานแสดงสินค้าแต่ละงานที่บริษัทจัดต่อเนื่องทุกงานเติบโตกว่า 20เปอร์เซ็นต์ทุกปี นอกจากนี้สำหรับการพัฒนาการจัดงานเอ็กซิบิชั่นใหม่เราจะต้องมองในจุดที่ไทยได้เปรียบ ต้องเจาะให้เห็นถึงจุดเด่นของการขยายธุรกิจอุตสาหกรรมในหมวดที่โดดเด่นให้ได้เพื่อพัฒนาให้เกิดการจัดงานนิทรรศการ ซึ่ง รี้ด เทรดเด็กซ์ ก็ขยายงานใหม่อาทิ เช่น งานเวิล์ดไดแดก เอเชีย ที่เป็นงานด้านอุปกรณ์การศึกษา เป็นต้น โดยการบริหารงาน เราจะให้ ความสำคัญหลัก วัตถุประสงค์ 3 อย่างคือ Knowledge, Match making (นักลงทุน และ ผู้ต้องการเทคโนโลยี) และ Networking สำหรับคนในวงการต้องมาเจอกัน รวมไปถึงการจับคู่ทางธุรกิจหรือหาตลาดให้โดยผ่านเครือข่ายของรี้ด เอ็กซ์ฮิบิชั่นส์ ซึ่งเป็นผู้จัดงานอันดับหนึ่งของโลก ซึ่งผลสำเร็จประกอบด้วย 4 ปัจจัย คือ เข้าใจโจทย์และตอบโจทย์ได้ถูกเพื่อประสิทธิภาพและประสิทธิผลที่เกิดขึ้น มีวินัยในการตอบโจทย์ให้ผลสมบูรณ์
นางนิชาภา กล่าวต่อว่า ในการเข้ามาดูแลงานในตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ ยังคงมุ่งมั่นสานต่อ นโยบายความสำเร็จที่ยึดหลักคิดตลอดระยะเวลากว่า 20 ปีที่ รี้ด เทรดเด็กซ์ (Reed Tradex) อยู่ในวงการการจัดงานแสดงสินค้าในประเทศไทย 3 เรื่องสำคัญ หนึ่งคือการทุ่มเทดูแลลูกค้า ซึ่งบริษัทถือว่า Customer First ทุกกลยุทธ์ ทุกวิธีคิด ทุกกิจกรรมที่เราทำ เราจะขึ้นต้นด้วยคำว่า “Customer-Focused” ตลอด ความต้องการของลูกค้าต้องมาก่อน ทุกสิ่งที่ทำจึงมีความต้องการของลูกค้าเป็นนิวเคลียส แล้วทุกอย่างก็จะเติบโตจากตรงนั้น ทุกวันนี้ การที่ รี้ด เทรดเด็กซ์ เป็นแบรนด์ที่เป็นที่รู้จักในวงการ และการที่งานที่เราจัดได้รับความเชื่อถือว่าจะมอบผลที่ลูกค้าต้องการและมากกว่านั้นได้ ก็มีจุดเริ่มต้นอยู่ที่การที่เราตอบสนองความต้องการ ทุ่มเทดูแลลูกค้านั่นเอง เหมือนปฏิกิริยาลูกตุ้มเพนดูลั่ม (Pendulum) แรงจากลูกตุ้มฝั่งซ้าย ส่งผ่านลูกตุ้มตรงกลาง ส่งผลให้ลูกตุ้มด้านขวาลอยขึ้นไป เราทุ่มใจให้ลูกค้า ลูกค้าก็เทใจให้เราเหมือนกัน ดังนั้น การทุ่มเทดูแลยุทธศาสตร์และสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อลูกค้า เราเหมือนเรดาร์บนเรือจับปลา เราช่วยลูกค้าหาปลา ที่เหลือลูกค้าจัดการเอง แต่เราต้องเป็นเรดาร์ที่ยอดเยี่ยมที่สุด เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เราสามารถขยายบริการของเราออกไปได้ ธุรกิจก็มีความยั่งยืน
ประการที่สองคือ การหาช่องทางเพิ่มรายได้จากสิ่งที่เราถนัด ทำแล้วมีความได้เปรียบในการแข่งขัน เช่น การที่เรามีความชำนาญในการทำการตลาด เราก็หาช่องทางต่อยอดการให้บริการนั้นอย่างครบวงจรขึ้นให้กับลูกค้า หรือเช่นการที่เรามีความคุ้นเคยใกล้ชิดกับอุตสาหกรรมผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ เราก็พิจารณาต่อยอดในการจัดงานสำหรับอุตสาหกรรมนี้ในเวียดนาม ในจีน ซึ่งเป็นตลาดที่มีการขยายตัวอย่างมาก เป็นต้น
นอกจากนั้น เราก็ต่อยอดธุรกิจด้วยการใช้ประโยชน์จากเครือข่ายทั่วโลกของบริษัท รี้ด เทรดเด็กซ์ เป็นสมาชิกของกลุ่มบริษัท รี้ด เอ็กซ์ฮิบิชั่นส์ (Reed Exhibitions) ซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่อังกฤษ ปีหนึ่งจัดงานประมาณ 460 งานใน 34 ประเทศ ดังนั้น อีกบริการหนึ่งของเราก็คือ Export Division หรือ การนำนักธุรกิจไทยที่สนใจไปร่วมงานต่าง ๆ เพื่อเปิดตลาดใหม่ในต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นงานแสดงเครื่องประดับอัญมณี งานแสดงส่วนประกอบ เทคโนโลยีและวัสดุอุปกรณ์สำหรับเครื่องจักรกล และงานแสดงผลิตภัณฑ์ด้านอาหาร
ประการสุดท้ายคือ เราลงทุนเพิ่มขึ้นในเรื่องคนและระบบ ไม่ใช่เพิ่มคน แต่ส่งเสริมคนเก่งอย่างเป็นระบบ รักษาดูแลคนเก่าที่มีอยู่ ทำให้เขาเก่งยิ่งขึ้น และพร้อมจะดูแลลูกค้า นอกจากนั้น เรายังปรับระบบต้นทุนให้ดี โดยการบริหารการเงินและวินัยทางการเงิน เป็นจุดแข็งจุดหนึ่งของเรา ด้านการใช้จ่ายนั้น จะไม่ตระหนี่ แต่จะประหยัด ถ้าเห็นว่าจำเป็น เราก็ลงทุน แต่ไม่เกินไป พูดอีกอย่างก็คือ ประหยัดเสมอ แต่พอเพียง หรือ Limited but enough
สำหรับยุทธศาสตร์การบริหารงานในปี 2007 นี้ การดำเนินธุรกิจของรี้ดในไทย ตั้งเป้าอัตราการเติบโต 15 — 20เปอร์เซ็นต์ โดยมีการจัดงานในไทยระดับนานาชาติในไทย 8 งาน และ บุกเวียดนาม 1 งาน
- งานในประเทศไทยได้แก่ The 5 Stars Show งาน21 -24 มิถุนายน ณ ไบเทค “มหกรรมเทคโนโลยีเครื่องจักรผลิตชิ้นส่วนยานยนต์และอิเล็คทรอนิกส์” ประกอบด้วย , งานเมทัลเล็กซ์ 2007 และ งานเวิล์ดไดแดค เอเชีย
- งานที่เวียดนาม ได้แก่ เมทัลเล็กซ์ เวียดนาม ณ ศูนย์การแสดงสินค้าและนิทรรศการ Nong Nghiep Exhibition Hall, Cau Giay, Ha Noi, Viet Nam ระหว่างวันที่ 11 — 13 ตุลาคม ฮานอย ประเทศเวียดนาม และตั้งเป้าในปี 2008 จะเพิ่มโชว์เกี่ยวกับการศึกษา Edutech และ งานที่เกี่ยวกับเทคโนโลยีการผลิตป้ายสื่อโฆษา VisComm เวียดนาม ณ โฮจิมินส์ ประเทศเวียดนาม
“สิ่งหนึ่งที่เราคำนึงถึงตลอดในการทำงาน ควบคู่ไปกับความสำเร็จของลูกค้าของเราแล้ว คือการเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยพัฒนายกระดับอุตสาหกรรมการจัดงานแสดงสินค้าในบ้านเรา ให้ทั่วโลกได้ประจักษ์ ว่าบ้านเรามีเอกลักษณ์และมีมาตรฐานสูงแห่งหนึ่งของโลกสำหรับอุตสาหกรรม MICE (Meeting, Incentive, Convention and Exhibition) ได้อย่างแท้จริงและสมภาคภูมิ แต่อย่างไรก็ตามประเทศไทยไทยมีปัญหาในเรื่องการพัฒนาเทคโนโลยีและบุคคลากร ที่ต้องเร่งพัฒนาคนโดยเฉพาะด้านการตลาด ซึ่งถ้ามีการทำการตลาดได้แข็งแรงกว่านี้ ดิฉันมั่นใจว่าภายใน 3 ปี ไทยจะขั้นสู่อันดับ1 ของศูนย์กลางการจัดแสดงสินค้าในเอเชียได้อย่างแน่นอน ซึ่งเราต้องสร้างตรงนี้ให้เป็นแบรนด์ดิ้งสำหรับประเทศไทยให้ได้” นางนิชาภากล่าว
นางนิชาภา ยศวีร์ จบการศึกษาระดับปริญญาตรีด้าน คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ เข้าร่วมงานกับบริษัท รี้ด เทรดเด็กซ์ ในตำแหน่ง Marketing Communications ในปี 2531 สำหรับความเป็นมืออาชีพนั้น ได้สั่งสมประสบการณ์ความเป็นมืออาชีพในการทำงานมากกว่า 18 ปี ครอบคลุมประสบการณ์อันหลากหลายทั้งในด้านการประชาสัมพันธ์ การตลาด การบริหารโปรเจ็ค งบประมาณ การบริหารจัดการ และการพัฒนาธุรกิจ โดยเริ่ม ทำหน้าที่กรรมการผู้จัดการ ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายนที่ผ่านมา(จบ)
เกี่ยวกับ บริษัท รี้ด เทรดเด็กซ์ จำกัด รี้ด เทรดเด็กซ์ เป็นผู้นำด้านการจัดงานแสดงสินค้าและการประชุมในประเทศไทยและต่างประเทศ เป็นสมาชิกของกลุ่ม รี้ด เอ็กซ์ซิบิชั่น ที่มีสำนักงานอยู่ใน 26ประเทศทั่วโลก ซึ่งมีการจัดงานแสดงสินค้าปีละ 450งานครอบคลุม49อุตสาหกรรม ใน32ประเทศ รี้ด เทรดเด็กซ์วางแผนการจัดงานระดับชาติปีละ10งาน ในปี2549เติบโตประมาณ 20% ตั้งเป้าเติบโตในปี 2550ประมาณ 15-20%
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
นวพร โรจน์อารยานนท์
ประชาสัมพันธ์บริษัทฯ
02-6867252 /085-9079490
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ