กรุงเทพฯ--30 ธ.ค.--กบข.
กบข. ตั้งเป้าปี 2554 เป็นปีแห่งการออมอย่างเข้าใจ หวังกระตุ้นสมาชิกเข้าใจตัวเอง เข้าใจว่าทำไมต้องออม และเข้าใจกบข.ว่านำเงินออมของสมาชิกไปบริหารอย่างไร
นางสาวโสภาวดี เลิศมนัสชัย เลขาธิการ กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) กล่าวว่าปัจจุบันสมาชิกกบข.ส่วนมากยังขาดความเข้าใจเรื่องการออมอย่างแท้จริง เชื่อว่าการออมที่ดีคือการฝากธนาคาร ขณะที่การออมและนำเงินออมไปลงทุนบริหารต่อเพื่อให้งอกเงยเกิดดอกผลสำหรับใช้ในระยะยาวนั้นเป็นสิ่งที่สมาชิกไม่พึงปรารถนา
“เหตุที่เป็นเช่นนี้ถือเป็นเรื่องปกติ หลายสิ่งหลายอย่างที่เราเรียนรู้สมัยเป็นนักเรียนมักเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับวิชาการ ไม่ก็วิชาชีพ เราไม่ค่อยได้เรียนรู้วิธีการบริหารเงินที่เราหามาได้ ช่องทางที่เราคุ้นเคยที่สุดก็มีเพียงฝากธนาคาร ซึ่งดอกเบี้ยต่ำมาก การฝากธนาคารควรทำเพื่อให้เกิดสภาพคล่องในการใช้เงิน แต่การออมต้องนำเงินออมไปลงทุนเพื่อให้เกิดดอกผลงอกเงย และที่สำคัญคือต้องตระหนักว่าการออมและการบริหารเงินออมนั้นเป็นเรื่องของการสร้างเงินให้ออกดอกออกผลในระยะยาว ภาวะผันผวนของผลตอบแทนระยะสั้นเป็นเรื่องปกติของการลงทุนทั่วไป เพราะหากนำเงินไปลงทุนแบบผลตอบแทนแน่นอน คุ้มครองเงินต้น 100% แบบการฝากธนาคาร ผลตอบแทนที่ได้ก็จะน้อยมาก เมื่อนำเงินเฟ้อมาหักลบเงินที่มีอยู่แล้วค่าเงินจริงก็ด้อยลงไปแน่นอน ออมแบบนี้ดูเหมือนดี แต่จริงๆ แล้วยิ่งออมยิ่งค่าเงินลด”
นอกจากปี 2554 จะเป็นปีสื่อสารให้สมาชิกเข้าใจถึงความเข้าใจเรื่องการออมอย่างแท้จริงแล้ว กบข.ยังจะย้ำให้สมาชิกเข้าใจถึงโครงสร้างทางสังคมที่กำลังเปลี่ยนแปลง จำนวนสมาชิกในครอบครัวมีน้อยลง ขณะที่อายุขัยเฉลี่ยของคนไทยก็จะสูงขึ้นไม่ต่ำกว่า 80 ปี นั่นก็หมายความว่าต้องมีชีวิตอยู่อีกไม่ต่ำกว่า 20 ปีหลังเกษียณ การเร่งออมเพิ่มและออมต่อเงินได้หลังเกษียณเพื่อให้มั่นใจว่ามีเงินเพียงพอสำหรับใช้กว่าจะถึงบั้นปลายชีวิตถือเป็นประเด็นสำคัญ
“สิ่งสำคัญที่ กบข. ละเลยไม่ได้สำหรับการสื่อสารในปี 2554 คือการอธิบายให้สมาชิกและสังคมเข้าใจถึงวิธีการจัดการบริหารเงินออมของสมาชิก และเข้าใจถึงเงินออมซึ่งบริหารโดยกองทุน กบข. นำไปลงทุนเพื่อหาผลตอบแทนระยะยาวที่เหมาะสม ซึ่งกบข.ก็ตั้งเป้าหมายว่าต้องชนะเงินเฟ้อ เพราะนั่นหมายถึงทำให้ค่าเงินของสมาชิกยังคงมีอำนาจซื้อไม่น้อยกว่าเดิม โดยเฉลี่ยนับตั้งแต่ตั้งกบข.มาเกือบ 14 ปี กบข.ก็บริหารเงินออมสมาชิกได้อัตราผลตอบแทนเฉลี่ยประมาณ 7% สูงกว่าอัตราเงินเฟ้อประมาณ 3% นั่นคือสมาชิกได้ผลตอบแทนจากเงินออมอีกประมาณ 4%” นางสาวโสภาวดีอธิบายเพิ่มเติม
เกี่ยวกับ กบข. กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) จัดตั้งขึ้นตาม พรบ.กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ พ.ศ.2539 เพื่อเป็นหลักประกันการจ่ายบำเหน็จบำนาญและให้ประโยชน์ตอบแทนการรับราชการแก่ข้าราชการเมื่อออกจากราชการ ส่งเสริมการออมทรัพย์ของสมาชิก และจัดสวัสดิการและสิทธิประโยชน์อื่นให้แก่สมาชิก กบข. มีสถานะเป็นองค์กรของรัฐจัดตั้งขึ้นตามกฎหมายเฉพาะไม่มีสถานะเป็นส่วนราชการหรือรัฐวิสาหกิจ มีคณะกรรมการ กบข.เป็นผู้กำหนดนโยบาย ปัจจุบัน กบข.มีสมาชิกกว่า 1.2 ล้านคน มูลค่าสินทรัพย์สุทธิประมาณ 485,000 ล้านบาท
ติดต่อฝ่ายสื่อสารสมาชิก ปุณยนุช จันทศร / ปิยะณัฐ สวนอภัย โทร. 02 636 1000 ต่อ 263 / 254