กรุงเทพฯ--4 ม.ค.--พณ.
กระทรวงพาณิชย์ ออกประกาศเปิดตลาดเมล็ดถั่วเหลือง มะพร้าว เนื้อมะพร้าวแห้ง และน้ำมันมะพร้าว ตามความตกลงเขตการค้าเสรีอาเซียน (AFTA) มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2553 ที่ผ่านมา
นายสุรศักดิ์ เรียงเครือ รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ (คต.) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า นางพรทิวา นาคาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ (พณ.) ได้ลงนามประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง การนำเมล็ดถั่วเหลือง มะพร้าว เนื้อมะพร้าวแห้ง และน้ำมันมะพร้าว เข้ามาในราชอาณาจักร ตามความตกลงเขตการค้าเสรีอาเซียน พ.ศ. ๒๕๕๓ ซึ่งประเทศไทยมีพันธกรณีที่จะต้องเปิดตลาดการนำเข้าตามความตกลงเขตการค้าเสรีอาเซียน (AFTA) ที่มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2553 ที่ผ่านมา ให้แก่ประเทศสมาชิกอาเซียน โดยต้องมีการกำหนดมาตรการในการนำสินค้าดังกล่าวเข้ามาในราชอาณาจักร ทั้งนี้ เมล็ดถั่วเหลือง มะพร้าว เนื้อมะพร้าวแห้ง และน้ำมันมะพร้าว ที่มีถิ่นกำเนิดและส่งตรงมาจากประเทศสมาชิกอาเซียน เป็นสินค้าที่ต้องมีหนังสือรับรองแสดงการได้รับสิทธิในการยกเว้นภาษีทั้งหมดหรือบางส่วนที่ออกโดยหน่วยงานของประเทศที่ส่งออก หรือโดยกรมการค้าต่างประเทศแสดงต่อกรมศุลกากรในการนำเข้ามาในราชอาณาจักรเพื่อประกอบการใช้สิทธิพิเศษทางด้านภาษีศุลกากร
เพื่อให้เป็นไปตามประกาศของกระทรวงพาณิชย์ กรมการค้าต่างประเทศจึงออกประกาศ เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการขอและออกหนังสือรับรอง แสดงการได้รับสิทธิในการยกเว้นภาษีทั้งหมดหรือบางส่วน สำหรับผู้ที่มีสิทธิขอหนังสือรับรองต้องเป็นผู้ที่ไม่อยู่ระหว่างฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดใด ๆ ที่กำหนดไว้ในประกาศนี้ โดยต้องขอขึ้นทะเบียนเป็นผู้นำเข้าสินค้าดังกล่าว และยื่นคำร้องขอหนังสือรับรองพร้อมเอกสารหลักฐานประกอบการพิจารณาสำหรับแต่ละสินค้า ซึ่งหนังสือรับรองสำหรับเมล็ดถั่วเหลืองให้มีอายุ 1 เดือนนับแต่วันออก แต่ต้องไม่เกินวันที่ 31 ธันวาคม ของปีที่ออกหนังสือรับรอง ส่วนหนังสือรับรองสำหรับมะพร้าว เนื้อมะพร้าวแห้ง และน้ำมันมะพร้าว ให้มีอายุ 1 เดือนนับแต่วันออก แต่ต้องไม่เกินกำหนดระยะเวลาที่กำหนดไว้ ทั้งนี้ ผู้ที่ได้รับหนังสือรับรองจะต้องรายงานการนำเข้า การใช้ และปริมาณคงเหลือต่อกรมการต่างประเทศ พร้อมหลักฐานสำเนาใบขนสินค้าขาเข้าที่เจ้าหน้าที่ศุลกากรสลักรายการถูกต้อง ภายใน 1 เดือนนับแต่วันที่นำเข้าสินค้าแต่ละครั้ง ไม่เช่นนั้นจะถือว่าขาดคุณสมบัติต้องระงับการออกหนังสือรับรองสำหรับการนำเข้าในครั้งต่อ ๆ ไป จนกว่าจะมีการส่งรายงานโดยถูกต้อง
รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับผู้ประกอบการ และผู้ที่สนใจ หากมีข้อสงสัย สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วน