กรุงเทพฯ--6 ม.ค.--มิตซูบิชิ มอเตอร์ส
มร.โนบุยูกิ มูราฮาชิ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ในเดือนธันวาคมที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้ทำยอดจำหน่ายสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่สูงกว่า 5,000 คันเป็นครั้งที่ 2 นับตั้งแต่เดือนมีนาคม 2548 โดยมียอดจำหน่าย 5,424 คัน ซึ่งในปีที่ผ่านมา บริษัทฯ มียอดจำหน่ายในระดับสูงอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ยอดจำหน่ายรวมของปี 2553 สูงกว่าปีก่อนถึงสองเท่าตัว คือ 39,549 คัน บรรลุเป้าหมายส่วนแบ่งการตลาดที่ตั้งไว้ 5% ขณะที่ยอดการส่งออกก็เพิ่มขึ้น 66% อยู่ที่ระดับมากกว่า 180,000 คัน
ปัจจัยที่ส่งผลให้ยอดจำหน่ายในประเทศสูงขึ้นนี้ มร.มูราฮาชิ มองว่าเกิดจากการที่บริษัทฯ นำเสนอรถยนต์ที่มีความหลากหลาย ตรงกับความต้องการของผู้บริโภค โดยเฉพาะรุ่นที่เป็นพลังงานทางเลือกทั้ง CNG และ E85 รวมถึงความเชื่อมั่นของประชาชน ต่อเสถียรภาพเศรษฐกิจในปัจจุบัน
ยอดจำหน่ายในประเทศ
กลุ่มรถยนต์ 2553 2552 เติบโต (%)
รถยนต์นั่ง (Lancer, Space Wagon) 8,333 4,229 97%
ระกระบะ และ PPV (Triton, Pajero Sport) 31,216 15,397 102.7%
รวม 39,549 19,626 101.5%
สำหรับการส่งออกของบริษัทฯ ในปีที่ผ่านมาสามารถทำยอดได้มากกว่า 180,000 คัน (รวม BU และ CKD) หรือเติบโตขึ้น 66% จากปีก่อน (108,896 คัน) ซึ่งตลาดส่งออกที่ดีได้แก่กลุ่มประเทศอาเซียนและยุโรป ในขณะที่ยอดการผลิตรวมตลอดปีอยู่ที่ระดับ 197,000 คัน หรือเพิ่มขึ้น 98% จากปีก่อน (99,208 คัน)
มร. มูราฮาชิ ประมาณการว่าในปีที่ผ่านมา ตลาดรถยนต์ของประเทศไทยน่าจะอยู่ที่ระดับ 780,000 คัน เพิ่มขึ้นถึง 47% จากปีก่อนหน้า (531,282 คัน) อันเนื่องมากจากการขยายตัวของเศรษฐกิจ ความมั่นคงทางด้านการเมือง และความมั่นใจของผู้บริโภคในการจับจ่ายใช้สอย นอกจากนี้ยังคาดการณ์ว่าตลาดรถยนต์รวมจะขยายตัวต่อเนื่องในปี 2554 ด้วยอัตราเติบโตประมาณ 4-5% สอดคล้องกับระดับ GDP ซึ่งจะทำให้ตลาดรถยนต์ในประเทศจะมีขนาดประมาณ 820,000 คัน โดยมองเห็นปัจจัยสนับสนุนจากการขึ้นเงินเดือนของข้าราชการ การขยายตัวของการลงทุนทางธุรกิจ รวมถึงการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ของหลายค่ายที่กระตุ้นให้ตลาดมีความคึกคักยิ่งขึ้น ในส่วนของมิตซูบิชินั้น วางเป้าหมายส่วนแบ่งตลาดที่ 6% หรือประมาณ 50,000 คัน
ข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อ
ฝ่ายสื่อสารองค์กร 02-529-9000