กรุงเทพฯ--26 เม.ย.--เจ ดับบลิวที
มร. ควัง คี ปาร์ค กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ กล่าวในงานแสดงนวัตกรรมสินค้า หมวดภาพและเสียงระดับภูมิภาคประจำปี 2550 “สุนทรียภาพทางประสบการณ์ (The Art of Experience)” ว่า แนวทางการทำตลาดสินค้าหมวดภาพและเสียงของซัมซุงในประเทศไทยปีนี้ จะทำในเชิงรุกมากขึ้น ด้วยการเตรียมเปิดตัวสินค้าใหม่หมวดภาพและเสียงกว่า 65 รายการ สำหรับในหมวด ภาพซัมซุงจะเน้นไปที่ตลาดโทรทัศน์จอภาพความละเอียดสูง (เอชดี) โดยซัมซุงเตรียมส่งสินค้าไลน์ใหม่เข้าทำตลาดอย่างต่อเนื่อง อาทิ แอลซีดีทีวี ฟูลเอชดี M8 และพลาสม่าทีวี Q9
ในปีที่ผ่านมา ยอดขายซัมซุงในหลายหมวดผลิตภัณฑ์เพิ่มมากขึ้นโดยเฉพาะแอลซีดีทีวี ทั้งนี้จากสถิติล่าสุด ซัมซุงทิ้งห่างคู่แข่งครองแชมป์ผู้นำในตลาดแอลซีดีทีวีในประเทศไทยด้วยส่วนแบ่งการตลาด 34.4% ของมูลค่าตลาดรวมและ 34.7% ของจำนวนเครื่อง ทิ้งห่างคู่แข่งอย่างเห็นได้ชัด ทั้งนี้ซัมซุงมุ่งมั่นที่จะตอกย้ำความเป็นผู้นำในตลาดทีวี ด้วยการชูนวัตกรรมเอชดีเป็นตัวชูโรงในการทำตลาดหลากหลายไลฟ์สไตล์ และมีแผนผลักดันให้เครื่องเล่น MP3 ของซัมซุงมีการเพิ่มส่วนแบ่งในใจผู้บริโภคในกลุ่มวัยรุ่นและวัยทำงาน
“ซัมซุงคาดหวังว่าอุตสาหกรรมจอภาพความละเอียดสูง จะมีการเติบโตสูงอย่างต่อเนื่องในอีก 2-3 ปีข้างหน้า และภายในปี พ.ศ. 2553 เอชดีทีวี จะกลายเป็นสินค้าที่มีอย่างแพร่หลาย และเป็นสิ่งจำเป็นต่อผู้บริโภค โดยทางซัมซุงได้วางจุดยืนที่ชัดเจนที่สุด ในการมอบประสบการณ์การรับชมโทรทัศน์ที่เหนือระดับผ่านจอภาพเอชดี ที่ซัมซุงมีครบทุกไลน์ ตั้งแต่เอชดีทีวี ไปจนถึงเครื่องเล่นดีวิดีแผ่นบลูเรย์ และชุดโฮมเธียร์เตอร์ ด้วยการลงทุนอย่างต่อเนื่องในการวิจัยศึกษาและพัฒนาสินค้ากว่า 2.1 แสนล้านบาทในปี พ.ศ. 2549 หรือกว่า 9.5% ของรายได้รวมของบริษัท เราจึงมั่นใจว่า เอชดีทีวี จะสร้างปรากฏการณ์กลายเป็นเทรนด์ใหม่ของผู้บริโภค” มร. ปาร์ค กล่าว
มร. ปาร์ค กล่าวต่อว่า ปัจจุบัน สถานการณ์ของตลาดในประเทศไทยมีปัจจัยต่างๆ ที่เอื้อต่อการใช้เอชดีทีวีมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น การส่งสัญญาณแพร่ภาพเอชดี การวางจำหน่ายเอชดีทีวี อุปกรณ์เพื่อการบันทึกภาพต่างๆ เช่น แผ่นบลูเรย์และเอชดี วีดีโอเกมส์ ความต้องการเอชดีทีวีและการตอบรับที่เพิ่มมากขึ้นในกลุ่มผู้บริโภคชาวไทยต่อสินค้าคุณภาพสูงดีไซน์เยี่ยมในราคาที่สามารถหาซื้อได้ ล้วนนำมาซึ่งความสำเร็จของซัมซุง
ทั้งนี้ จากสถิติล่าสุด ซัมซุงได้ก้าวนำคู่แข่งขึ้นเป็นผู้นำตลาดโลกในกลุ่มโทรทัศน์ด้วยส่วนแบ่งการตลาด 14% ของมูลค่าตลาดโดยรวมและ 10.6% ในสัดส่วนจำนวนเครื่อง ส่วนในตลาดภูมิภาคเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ ยอดขายของแอลซีดีทีวีมีอัตราเติบโตกว่า 400% ถือเป็นอันดับหนึ่งของภูมิภาค ขณะที่ตลาดในประเทศไทย ซัมซุงคาดการณ์ว่าปีนี้ตลาดรวมแอลซีดีทีวีจะมีอัตราการเติบโตที่ 250% จากปีที่แล้ว โดยตั้งเป้ายอดขายแอลซีดีทีวีภายในปีนี้ไว้ที่ 100,000 เครื่อง
จากความสำเร็จด้วยยอดขายกว่า 3 ล้านเครื่องทั่วโลกของแอลซีดีทีวี “บอร์โดซ์ อาร์ 7” ในปีที่ผ่านมา ล่าสุด ปีนี้ซัมซุงได้เปิดตัว “บอร์โดซ์ พลัส (Bordeaux Plus)” แอลซีดีทีวี ดีไซน์โฉบเฉี่ยวเพรียวบางขึ้นอีกขั้นด้วยเส้นสายบางเบาและรูปลักษณ์ที่เรียบสง่าเป็นมันเงา พร้อมลำโพงที่ซ่อนไว้ด้านหลังอย่างแยบยล ซัมซุงจึงมั่นใจว่า “บอร์โดซ์ พลัส” จะช่วยผลักดันยอดขายให้ซัมซุงแอลซีดีทีวีบรรลุเป้าหมายที่วางไว้ 100,000 แสนเครื่องในปีนี้อย่างแน่นอน
อีกหนึ่งในสินค้าที่ซัมซุงให้ความสำคัญ คือ โทรทัศน์ตระกูล สลิมฟิตทีวี (SlimFit) หรือโทรทัศน์รุ่นที่ 4 ซึ่งนับเป็นมาตรฐานใหม่ของโทรทัศน์สี ด้วยรูปทรงที่เพรียวบางกว่าโทรทัศน์สีทั่วไปถึง 30% แต่ยังให้ภาพคมชัดความละเอียดสูง พร้อมหลอดภาพสีแบบนาโนเทคโนโลยีจึงให้ภาพชัดคมสมจริงสีสันเจิดจ้ายิ่งขึ้น พร้อมกันนี้ซัมซุงมุ่งหวังที่จะสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับโทรทัศน์สีในประเทศไทย ด้วยการเปลี่ยนจากการใช้โทรทัศน์สีจอแบนไปสู่โทรทัศน์สีสลิมฟิตทีวีซึ่งสวยและบางกว่า
มร.ปาร์ค กล่าวเสริมว่า นอกจากโทรทัศน์จอภาพความละเอียดสูงแล้ว เครื่องเล่น MP3 นับว่าเป็นตัวขับเคลื่อนความสำเร็จของซัมซุงทั้งในตลาดประเทศไทยและในภูมิภาค ดังนั้น ในปีนี้ซัมซุงมีแผนทำตลาดเครื่องเล่น MP3 ในเชิงรุกมากขึ้น ด้วยการเปิดตัวสินค้าใหม่กว่า 10 รายการ ควบคู่กับการทำการตลาดในกลุ่มวัยรุ่นและวัยเริ่มทำงาน “ยูธ มาร์เก็ตติ้ง (Youth Marketing)” เพื่อสร้างความผูกพันระหว่างซัมซุงและผู้บริโภคให้ซัมซุงเป็นแบรนด์ในใจผู้บริโภค
ในปีนี้ ซัมซุงตั้งงบการตลาดกว่า 670 ล้านบาทในกลุ่มภาพและเสียง เพื่อให้บรรลุยอดขายการเติบโตที่วางไว้กว่า 36% ซัมซุงจึงเน้นกลยุทธ์การวางผลิตภัณฑ์ (Product Placement) โดยการจัดวางซัมซุงแอลซีดีทีวีในสถานที่ไฮเอนด์ต่างๆ เพื่อสร้างการรับรู้ในแบรนด์ให้มากยิ่งขึ้น ควบคู่กับการสร้างไลฟ์สไตล์ที่สอดคล้องกับผู้บริโภค (Lifestyle Creation) โดยนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีความเป็นเลิศทั้งด้านเทคโนโลยีและการออกแบบ ผสานกับแพ็คเกจ “มิกซ์แอนด์แมทช์ (Mix-and-Match Package)” เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถเลือกสรรผลิตภัณฑ์ที่สอดคล้องกับความต้องการและไลฟ์สไตล์ของตนได้มากที่สุด นอกจากนี้กลยุทธ์การขยายตลาดผ่านช่องทางในกลุ่มผู้ประกอบการ (Business-to-Business), การเป็นพันธมิตรกับบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์, การทำกิจกรรมและสื่อการตลาดในรูปแบบต่างๆ ล้วนช่วยเพิ่มโอกาสในการเห็นและสัมผัสสินค้าของซัมซุงพร้อมกับการเข้าถึงผู้บริโภคได้โดยตรง” มร. ปาร์ค กล่าวท้ายสุด
ล่าสุด ซัมซุงได้จัดงานแสดงนวัตกรรมในหมวดภาพและเสียง ภายใต้ชื่อ “สุนทรียภาพทางประสบการณ์” ที่เมืองทองธานีในวันที่ 25 เมษายนนี้ ซึ่งภายในงานนี้ท่านจะได้สัมผัสประสบการณ์ใหม่ๆ จากโทรทัศน์รุ่นต่างๆ ของซัมซุง ที่ให้ภาพสวยชัดคมสีสันเจิดจ้าและมีรูปแบบการใช้งานที่ล้ำยุคและดีไซน์นำสมัย พร้อมเอาใจคอเพลงด้วยหลากรุ่นเครื่องเล่น MP3 ดีไซน์เพรียวบางแต่อัดแน่นด้วยแพ็คเกจมัลติมีเดียและการใช้งานที่ครบครันเต็มรูปแบบ
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ
บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัดปริญดา นิลทจันทร์โทร 0-2695-9169 อีเมล์ prinda.n@samsung.com
เจ ดับบลิวที พับบลิค รีเลชั่นส์พรชนันท์ มงคลกุล (กิฟท์) โทร 0-2204-8223 , 081-755-1105
อีเมลล์ pornchanan.mongkolkul@jwt.comศรุตยา มหากายี (โอ๋) โทร. 0-2204-8224 , 089-665-6819อีเมลล์ saruttaya.mahakayee@jwt.com
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net