กรุงเทพฯ--15 ก.พ.--มาสเตอร์ มายด์ คอมมิวนิเคชั่น
ผู้บริหาร PTL มั่นใจวงจรขาลงของธุรกิจสิ้นสุดแล้ว เชื่อปลายปี 50 ความต้องการใช้ผลิตภัณฑ์สมดุลกับปริมาณการผลิต ส่งผลแนวโน้มอุตสาหกรรมกลับมาเติบโตอย่างแข็งแกร่งได้อีกครั้ง เผยยอดขายรวม 9 เดือนหลังของปี 49 ทำได้ถึง 3,417.7 ล้านบาท มีกำไรรวม 220.94 ล้านบาท เดินหน้ากระจายความเสี่ยง เพิ่มความหลากหลายของสินค้า พร้อมเจาะตลาดใหม่ หวังรักษาฐานกำไรขั้นต้น
นายมานิตย์ กุปต้า กรรมการและผู้จัดการทั่วไป บริษัท โพลีเพล็กซ์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า เชื่อว่าธุรกิจของบริษัทได้ผ่านวัฏจักรในช่วงที่ต่ำที่สุดไปแล้ว โดยสะท้อนได้จากผลการดำเนินงานของบริษัทในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งมีแนวโน้มดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเมื่อเปรียบเทียบระหว่างไตรมาสต่อไตรมาส จากยอดขาย 1,037.66 ล้านบาท ในไตรมาสที่ 1 ของปี 2549-50 (เม.ย.-มิ.ย.49) เพิ่มเป็น 1,145.92 ล้านบาท ในไตรมาสที่ 2 (ก.ค.-ก.ย.49) และ 1,234.12 ล้านบาท ในไตรมาสที่ 3 (ต.ค.-ธ.ค. 49)
ในด้านของกำไรสุทธิของบริษัทและบริษัทย่อยก็เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ไตรมาสที่ 1 ถึงไตรมาสที่ 3 เช่นกัน โดยเพิ่มจาก 30.94 ล้านบาท เป็น 75.39 ล้านบาท และ 114.60 ล้านบาท ตามลำดับ ซึ่งจะเห็นได้ว่าแม้ยอดขายจะไม่ได้เพิ่มมากนัก แต่กำไรกลับเพิ่มขึ้นมาก เนื่องจากอัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มสูงขึ้นจากต้นทุนการผลิตที่ลดลง
“เราได้ย้ำกับผู้ลงทุนมาตลอดถึงผลตอบแทนจากการลงทุนตามแผนกลยุทธ์ที่บริษัทฯ วางไว้ โดยจะเห็นได้จากผลประกอบการที่ออกมาในปัจจุบันเทียบกับในอดีตและเปรียบเทียบกับบริษัทคู่แข่งในอุตสาหกรรมเดียวกัน ” นายมานิตย์กล่าว
นายมานิตย์กล่าวขยายความกรณีที่มองว่าวัฏจักรธุรกิจผ่านจุดต่ำสุดแล้วว่า ก่อนหน้านี้ธุรกิจอยู่ในช่วง โอเวอร์ ซัพพลาย (Over supply) มีผลผลิตล้นตลาด นอกจากนี้ราคาน้ำมันที่สูงขึ้นและค่าเงินดอลล่าร์ที่อ่อนลงเมื่อเทียบกับค่าเงินบาทก็ยิ่งมีผลกระทบกับบริษัทฯด้วยแต่ในขณะนี้จะเห็นว่าแนวโน้มการใช้แผ่นฟิล์ม (ดีมานด์) ที่เพิ่มขึ้นจนเข้าใกล้ปริมาณการผลิตที่มีอยู่ในตลาด (ซัพพลาย) และคาดว่าในปลายปี 2550 ดีมานด์จะกลับมาสมดุลกับซัพพลายอีกครั้ง
กรรมการและผู้จัดการทั่วไป บริษัท โพลีเพล็กซ์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวด้วยว่าจากประสบการณ์อันยาวนานของบริษัทฯทำให้บริษัทฯก้าวหน้าขึ้นมาเป็นผู้นำในการผลิตแผ่นฟิล์มทั้งในระดับประเทศไทยและระดับโลก และบริษัทฯก็จะเดินหน้าเพิ่มความหลากหลายให้ผลิตภัณฑ์ โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าเพิ่ม เช่น แผ่นฟิล์มเคลือบโลหะ ขณะเดียวกัน ยังควบคุมต้นทุน โดยหันมาใช้ก๊าซธรรมชาติในการผลิตตั้งแต่เดือนมกราคม 2550 ซึ่งจะช่วยลดความผันผวนจากราคาน้ำมันในตลาดโลกได้เป็นอย่างดี และยังเป็นพลังงานที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอีกด้วย
ทั้งนี้ บริษัทมีแผนที่จะผลิต Extrusion Coating สำหรับโรงงานในประเทศไทยในช่วงต้นปีหน้า รวมทั้งจะเริ่มผลิตแผ่นฟิล์มบางหรือ Thin Film สายการผลิตที่ 2 สำหรับโรงงานใน ประเทศตุรกีในช่วงครึ่งหลังของปีหน้า โดยก่อนหน้านี้ได้เดินเครื่องสายการผลิตที่ 1 แบบ 100% ไปแล้วตั้งแต่เดือนธันวาคม 2548 หลังจากที่เริ่มเดินเครื่องผลิตได้เพียง 4 ไตรมาส
“กลยุทธ์ที่สำคัญของโพลีเพล็กซ์ในปีนี้ จะมุ่งเน้นลงทุนในผลิตภัณฑ์ที่สร้างมูลค่าเพิ่ม อย่างเช่น Extrusion Coating และการพัฒนาผลิตภัณฑ์ของบริษัทให้มีความหลากหลายเพื่อลดความเสี่ยงจากวงจรขึ้นลงของมาร์จิ้น ขณะเดียวกัน เราจะพุ่งเป้าไปยังกลุ่มลูกค้าที่มีคุณภาพมากขึ้น พร้อมๆ กับการเปิดตลาดใหม่ที่มีศักยภาพและโอกาสในการเติบโต” นายมานิตย์กล่าว
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
สุนิสา ทองวรรณ โทรศัพท์ 0-4105-7878 , 0-2643-1191-2
อีเมล์ c_mastermind@yahoo.com
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net