กรุงเทพฯ--13 ม.ค.--เอ็มทีเอส โกลด์ ฟิวเจอร์
ข้อมูลทองคำวันนี้
- ราคาสมาคม เปิดที่ 19,900 - 20,000
- ราคา Gold Spot เปิดที่ 1,387
- อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท 30.32 — 30.35
- GFG11 Hi- Low 20,080 — 20,020 ปิดที่ 20,030
Gold Insight
สัญญาทองคำตลาด COMEX
ส่งมอบเดือนก.พ.เพิ่มขึ้น 1.5 ดอลลาร์ หรือ 0.1% ปิดที่ 1,385.8 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1,376.30 - 1,389.00 ดอลลาร์ ทำสถิติปิดบวกติดต่อกัน 3 วันทำการ เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้สาธารณะยังคงเป็นสาเหตุหลักที่กระตุ้นให้นักลงทุนถือครองทองคำเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยง นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากรายงานที่ว่า ความต้องการทองคำในจีนและอินเดียปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์
พุ่งขึ้น 83.56 จุด หรือ 0.72% ปิดที่ 11,755.44 จุด ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 11.48 จุด หรือ 0.90% ปิดที่ 1,285.96 จุด และดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้น 20.50 จุด หรือ 0.75% ปิดที่ 2,737.33 จุด หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยรายงานการสำรวจภาวะเศรษฐกิจซึ่งบ่งชี้ว่า กิจกรรมทางเศรษฐกิจของสหรัฐในเกือบทุกภูมิภาคเริ่มฟื้นตัวขึ้น รวมถึงอุตสาหกรรมการผลิตและธุรกิจค้าปลีก นอกจากนี้ ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังดีดตัวขึ้นขานรับข่าวความสำเร็จในการประมูลพันธบัตรของรัฐบาลโปรตุเกส
สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX
ส่งมอบเดือนก.พ.เพิ่มขึ้น 75 เซนต์ หรือ 0.82% ปิดที่ 91.86 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 90.79 - 92.39 ดอลลาร์หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของสหรัฐเปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบร่วงลงเกินคาดในรอบสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งทำให้นักลงทุนเชื่อมั่นว่าความต้องการพลังงานในสหรัฐยังคงแข็งแกร่ง นอกจากนี้ ตลาดน้ำมันนิวยอร์กยังได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้ยุโรป หลังจากมีรายงานว่ารัฐบาลโปรตุเกสประสบความสำเร็จในการประมูลพันธบัตร
กองทุน SPDR Gold Trust
กองทุนทองคำใหญ่ที่สุดในโลก รายงานการเข้าถือทองคำถึง ณ. วันที่ 13 มกราคม ไม่เปลี่ยนแปลงการถือครองถือครองเท่าเดิมที่ระดับ 1,271.47 ตัน
USD/EU ค่าเงินยูโรพุ่งขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (12 ม.ค.) หลังจากรัฐบาลโปรตุเกสประสบความสำเร็จในการประมูลพันธบัตร อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์บางคนมองว่า ปัญหาหนี้ของโปรตุเกรสได้รับการบรรเทาเพียงชั่วคราว และยังคงมีความเป็นไปได้ว่าโปรตุเกสจะต้องขอความช่วยเหลือจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) และสหภาพยุโรป (อียู)
ค่าเงินยูโรพุ่งขึ้น 1.19% แตะที่ 1.3130 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันอังคารที่ 1.2975 ดอลลาร์สหรัฐ
โดยค่าเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับค่าเงินสกุลยูโรเช้านี้เปิดตลาดยู่ที่ระดับ1.3121 ดอลลาร์ต่อยูโร
ข่าวเศรษฐกิจโลก
- กระทรวงการคลังสหรัฐเปิดเผยว่า ยอดขาดดุลงบประมาณเดือนธ.ค.ปี 2553 ของสหรัฐ อยู่ที่ 8 หมื่นล้านดอลลาร์ ส่งผลให้ยอดขาดดุลงบประมาณโดยรวมในปี 2553 มีอยู่มากกว่า 1 ล้นล้านดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม ยอดขาดดุลงบของเดือนธ.ค.ปี 2553 ยังต่ำกว่าระดับ 9.1 หมื่นล้านดอลลาร์ของยอดขาดดุลในเดือนธ.ค.ปี 2552 นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า ยอดขาดดุลงบประมาณมีแนวโน้มพุ่งขึ้นอีกมาก อันเนื่องมาจากผลของขยายโครงการลดหย่อนภาษี โดยเมื่อวันที่ 6 ธ.ค.ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีโอบามายอมทำข้อตกลงกับแกนนำพรรครีพับลิกันในการขยายโครงการลดหย่อนภาษีที่อดีตประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช ได้ริเริ่มเอาไว้ โดยโอบามาได้ลงนามบังคับใช้กฎหมายขยายโครงการลดหย่อนภาษีของผู้มีรายได้ทุกระดับชั้นออกไปอีก 2 ปี พร้อมกับขยายระยะเวลาการให้สวัสดิการแก่ประชาชนที่ว่างงานหลายล้านคนออกไปอีก 13 เดือน
- รัฐบาลโปรตุเกสสามารถประมูลขายพันธบัตรมูลค่า 1.25 พันล้านยูโร หรือ 1.62 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่ต่ำกว่าการคาดการณ์ของตลาด โดยสัดส่วนของการจองซื้อพันธบัตรอายุ 4 ปีมีอยู่มากกว่าปริมาณพันธบัตรถึง 2.6 เท่า และสัดส่วนของการจองซื้อพันธบัตรอายุ 10 ปีมีมากกว่าปริมาณพันธบัตรถึง 3.2 เท่าผลการประมูลพันธบัตรที่ออกมาอย่างน่าพอใจทำให้สกุลเงินยูโรพุ่งขึ้นเหนือระดับ 1.31 ดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์บางคนมองว่า สกุลเงินยูโรจะแข็งแกร่งเพียงระยะสั้นๆเท่านั้น และการประมูลพันธบัตรในครั้งนี้ก็อาจจะไม่ช่วยให้รัฐบาลโปรตุเกสแก้ปัญหาหนี้สาธารณะได้ โดยคาดว่าในที่สุดแล้วโปรตุเกสอาจจะต้องขอความช่วยเหลือด้านการเงินจากไอเอ็มเอฟและอียูเช่นเดียวกับกรีซและไอร์แลนด์
- ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยรายงานสำรวจภาวะเศรษฐกิจว่า กิจกรรมทางเศรษฐกิจของสหรัฐในช่วงเดือนพ.ย.จนถึง ธ.ค.2553 ขยายตัวปานกลาง โดยเฉพาะอุตสาหกรรมการผลิต ธุรกิจค้าปลีก และธุรกิจบริการในทุกภูมิภาคมีความแข็งแกร่ง นอกจากนี้ ผู้บริโภคมีการจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น ซึ่งช่วยให้ยอดค้าปลีกปรับตัวขึ้นแข็งแกร่งในช่วงเทศกาลวันหยุดปี 2553
- ชาวอินเดียเริ่มซื้อทองคำสะสมในช่วงก่อนเทศกาลเก็บเกี่ยวซึ่งจะเริ่มต้นในช่วงกลางเดือนม.ค. ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ยอดการนำเข้าทองคำในอินเดียจะพุ่งขึ้น 64% เป็น 500 - 550 ตันในปี 2554 ส่วนที่ประเทศจีนนั้น นักวิเคราะห์คาดว่ากระแสความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อภายในประเทศจะเป็นแรงผลักดันให้นักลงทุนแห่ซื้อทองคำเพื่อป้องกันความเสี่ยง นอกจากนี้ ชาวจีนยังซื้ออัญมณีเพิ่มขึ้นก่อนช่วงเทศกาลตรุษจีนซึ่งจะมีขึ้นในเดือนก.พ.
- ออลลี เรห์น คณะกรรมาธิการฝ่ายกิจการเศรษฐกิจและการเงินของสหภาพยุโรป (อียู) กล่าวว่า รัฐมนตรีคลังยุโรปจะประชุมกันในสัปดาห์หน้า เพื่อหารือกันเรื่องการเพิ่มขีดความสามารถในการปล่อยเงินกู้ให้กับประเทศยุโรปที่ประสบปัญหาทางการเงิน พร้อมกับกล่าวว่า อียูจำเป็นต้องใช้ยุทธศาสตร์ที่ครอบคลุมเพื่อกอบกู้วิกฤตการณ์การเงิน โดยผ่านการใช้มาตรการด้านการคลัง รวมทั้งการปฏิรูปและแก้ไขปัญหาในระบบการเงิน
- สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของสหรัฐเปิดเผย สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่แล้ว ร่วงลง 2.2 ล้านบาร์เรล แตะระดับ 33.1 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 400,000 บาร์เรล
- ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยรายงาน Beige Book ซึ่งเป็นรายงานสำรวจภาวะเศรษฐกิจจากเฟดทั้ง 12 เขตในสหรัฐ ครั้งล่าสุดเมื่อคืนนี้ (11 ม.ค.) กิจกรรมทางเศรษฐกิจของสหรัฐในช่วงเดือนพ.ย.จนถึง ธ.ค.2553 ขยายตัวปานกลาง ขณะที่ภาวะเศรษฐกิจเกือบทั้ง 12 ภูมิภาคเริ่มฟื้นตัวขึ้น และบางภูมิภาคขยายตัวขึ้นในระดับปานกลาง
ตัวเลขเศรษฐกิจที่น่าจับตา
อาทิตย์ที่ ข้อมูลที่น่าจับตา ตัวเลขเดิม ตัวเลข คาดการณ์ ตัวเลขจริง
12 - 13มกราคม 2554
วันพุธ ? Import Prices 1.3% 1.3% 1.1%
? Treasury Sec Geithner Speaks - - -
? Crude Oil Inventories -4.2M 0.4M -2.2M
? Beige Book - - -
? Federal Budget Balance -150.4B - -80.0B
วันพฤหัสบดี ? ECB Press Conference - -
? PPI 0.8% 0.8%
? Trade Balance -38.7B -40.8B
? Unemployment Claims 409K 405K
? Core PPI 0.3% 0.2%