สมาคมธุรกิจรับสร้างบ้านเร่งสร้างสัญญามาตรฐาน มุ่งพัฒนาธุรกิจสร้างความเชื่อมั่นกับผู้บริโภค

ข่าวทั่วไป Wednesday February 14, 2007 11:21 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--14 ก.พ.--โอเอซิส มีเดีย
สมาคมธุรกิจรับสร้างบ้านเร่งสร้างสัญญามาตรฐาน สร้างความเป็นธรรมให้ผู้บริโภค สกัดผู้ประกอบการที่ขาดจริยธรรม ล่าสุดตั้งคณะอนุกรรมการจาก 7 บริษัทรับสร้างบ้าน ศึกษาและร่างสัญญามาตรฐาน มุ่งเน้นเรื่องบทบาทหน้าที่ของบริษัทรับสร้างบ้าน และเงื่อนไขด้านการเงิน มั่นใจในอนาคตตลาดรับสร้างบ้านจะได้รับการยอมรับมากขึ้น
นายศักดา โควิสุทธิ์ นายกสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน เปิดเผยว่า จากนโยบายของสมาคมฯ ที่ตั้งเป้าหมายไว้ว่าในปี 2550 จะเน้นให้ความสำคัญในเรื่องของมาตรฐานของงานรับสร้างบ้าน และการเข้าไปให้ความช่วยเหลือกับผู้บริโภค ที่ได้รับผลกระทบจากบริษัทรับสร้างบ้านที่ขาดจริยธรรมในการดำเนินธุรกิจนั้น ในปัจจุบันสมาคมฯมีนโยบายที่จะร่างสัญญา และ ข้อกำหนดมาตรฐานบริษัทรับสร้างบ้านโดยเฉพาะ เพื่อใช้เป็นมาตรฐานกลางให้กับผู้บริโภค โดยตัวสัญญามาตรฐานจะเน้นในเรื่องของความเป็นกลางและเป็นธรรมกับผู้บริโภคในด้านเงื่อนไขของสัญญาและข้อปฏิบัติของคู่สัญญา ในเบื้องต้นมีการกำหนดขอบเขตของสัญญามาตรฐาน ประกอบด้วย 2 เรื่องหลัก คือ หน้าที่ความรับผิดชอบของบริษัท รับสร้างบ้าน ซึ่งจะเน้นเรื่องของบทบาทและความรับผิดชอบของบริษัทรับสร้างบ้าน ว่าเมื่อรับงาน จากลูกค้ามาแล้วมีขอบเขตการทำงาน การให้บริการครอบคลุมรายละเอียดในด้านใดบ้าง และสัญญาทางด้านการเงิน ซึ่งจะกล่าวถึงมาตรฐานในด้านการชำระเงินของลูกค้า
ปัจจุบัน สมาคมฯได้จัดตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นมาศึกษา และร่างสัญญามาตรฐานดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว ประกอบด้วยตัวแทนจากบริษัทรับสร้างบ้านจำนวน 7 บริษัท คือ บริษัท รอแยลเฮ้าส์ จำกัด, บริษัท ซีคอน จำกัด, บริษัท แลนดี้โฮม (ประเทศไทย) จำกัด, บริษัท ปทุมดีไซน์ ดีเวลลอป จำกัด, บริษัท เมคเคอร์ โฮม จำกัด , บริษัท เดอะโมเดอร์นกรุ๊ป เรียล พร็อพเพอทิ จำกัด และ บริษัท ดิ เอ็มเพอเร่อร์ เฮ้าส์ จำกัด โดยคณะอนุกรรมการดังกล่าวจะทำหน้าที่ศึกษา และร่างข้อกำหนดเพื่อให้คณะกรรมการของสมาคมฯ เป็นผู้พิจารณาก่อนที่จะนำสัญญามาตรฐานมากำหนดใช้ต่อไป
“ในเบื้องต้นเราต้องการกรอบกว้าง ๆ เพื่อใช้ในการสร้างมาตรฐานของธุรกิจรับสร้างบ้านให้เป็นที่ยอมรับ ซึ่งความยากของสัญญามาตรฐานอยู่ตรงที่แต่ละบริษัท มีรูปแบบและการดำเนินงานที่ต่าง ๆ กัน รูปแบบบ้านของแต่ละบริษัทก็มีความต่างกัน ดังนั้นเราจึงต้องมาดูว่ามีหลักเกณฑ์ใดบ้างที่เป็นผลดีกับผู้บริโภค และสามารถนำมาปรับใช้กับบริษัทรับสร้างบ้านที่เป็นสมาชิกสมาคมร่วมกันได้” นายศักดา กล่าว
นายศักดา กล่าวต่อไปว่า นอกจากในส่วนของสัญญามาตรฐานแล้ว สมาคมฯ ยังเพิ่มความเข้มงวดในการรับบริษัทรับสร้างบ้านเข้าเป็นสมาชิก โดยการแก้ไขกฎระเบียบในส่วนของสมาชิกวิสามัญที่เป็นบริษัท รับสร้างบ้านเพิ่มขึ้น ซึ่งมีการเพิ่มคุณสมบัติให้มีความใกล้เคียงกับสมาชิกสามัญในปัจจุบัน อาทิ การมีสถาปนิกและวิศวกรที่ต้องเป็นพนักงานประจำ มีโชว์รูม มีแบบบ้านมาตรฐานให้ลูกค้าเลือกไม่ต่ำกว่า 10 แบบ เป็นต้น ซึ่งกฎระเบียบดังกล่าวจะช่วยสนับสนุนให้บริษัทรับสร้างบ้านมีมาตรฐานที่ดี สร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภค และป้องกันปัญหาบริษัทรับสร้างบ้านที่ขาดจริยธรรมในการดำเนินงาน
ที่ผ่านมามีผู้บริโภคร้องเรียนเข้ามาที่สมาคมฯค่อนข้างมาก โดยเฉพาะการถูกเอารัดเอาเปรียบ จากผู้ประกอบการที่ขาดจริยธรรม ซึ่งปัจจุบันสมาคมฯเข้าไปมีบทบาทในการให้ความช่วยเหลือ แต่ก็ยัง ไม่สามารถดูแลได้ทั้งหมด เนื่องจากเรื่องที่ร้องเรียนส่วนใหญ่อยู่นอกเหนืออำนาจของทางสมาคมฯ โดย ในอนาคตคาดว่าหากมีการเร่งสร้างมาตรฐานขึ้นมาในหลายๆ รูปแบบ และเร่งประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสารไปยังผู้บริโภค คาดว่าจะสามารถช่วยเหลือผู้บริโภคได้อีกมาก และ ตลาดรับสร้างบ้านเองก็จะได้รับการยอมรับที่เพิ่มขึ้นเช่นกัน
ข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ บริษัท โอเอซิส มีเดีย จำกัด โทร.0-2937-4658-9
คุณชัชวาล ตรีเนตร / คุณศรัญญรัตน์ สุวรรณคาม / คุณปิยะพร จำเนียร
Email : chatchaval@oasismedia.co.th , saranyarat@oasismedia.co.th , piyaporn@oasismedia.co.th
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ