กรุงเทพฯ--26 ม.ค.--สหมงคลฟิล์ม
"เวลาอยากร้องไห้ให้เอามือปิดจมูกแบบนี้ ... แล้วน้ำตาจะหยุดไหล" ...บริษัทมงคลภาพยนตร์ จับหนังรักอันดับ 1 ! Boxoffice ญี่ปุ่น Nada sou sou ( นาดะโซวโซว ) เตรียมฉายเรียกน้ำตารับวันวาเลนไทน์
"ปี 2004 ภาพยนตร์เรื่อง Be with you ทำให้ผู้หญิงทั่วญี่ปุ่นต้องร้องไห้" ผ่านมา 3 ปี ผู้กำกับ โนบุฮิโระ โดอิ ได้เปิดตัวผลงานภาพยนตร์เรื่องใหม่ที่มีชื่อว่า Nada sou sou ( นาดะโซวโซว ) แปลเป็นไทยได้ว่า "น้ำตาไหลพราก" ออกฉายที่ญี่ปุ่น เมื่อปลายปี 2006 ที่ผ่านมา ผลตอบรับที่ได้ก็คือภาพยนตร์เรื่อง Nada sou sou ( นาดะโซวโซว ) เปิดตัวที่ทำรายได้แรงกว่า Be with you และปัจจุบันทำรายได้ไปแล้วกว่า 900 ล้านบาท โดยภาพยนตร์เรื่อง Nada sou sou ( นาดะโซวโซว ) มีกำหนดฉายที่ประเทศไทยในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ด้วยเนื้อหาของภาพยนตร์ แนวสั่นสะท้านหัวใจด้วยเรื่องราวของ ความรักที่ไม่อาจเกิดขึ้นได้ระหว่างพี่น้องต่างพ่อแม่ โยตะ (ซาโตชิ ทสึมาบุกิ) และ คาโอรุ (มาซามิ นางาซาว่า) ที่เติบโตและดูแลกันและกัน มาเพียงลำพัง เมื่อแม่ของพวกเขาตาย พวกเขาจึงตัดสินใจมาใช้ชีวิตอยู่กับย่าที่เกาะโอกินาว่า
"เวลาอยากร้องไห้ ให้เอามือปิดจมูกแบบนี้ ... แล้วน้ำตาจะหยุดไหล" นี่คำสอนที่แม่สอนไว้ก่อนเธอจะสิ้นใจ ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา เวลาที่ทั้งโชตะ และคาโอรุ มีปัญหาไม่ว่าจะหนักหนาสาหัสแค่ไหนพวกเขาจะเอามือปิดจมูกไว้เพื่อไม่ให้น้ำตาไหลออกมา ไม่ว่าจะเป็นวันที่ร้านอาหารของโชตะถูกโกงจนต้องทุบทิ้ง วันที่ โชตะต้องบอกเลิกกับแฟนเพราะรู้สึกว่าตัวเองไม่คู่ควรกับเธอ หรือในวันที่ คาโอรุ ตัดสินใจออกจากบ้านมาเรียนมหาวิทยาลัยเพราะไม่ต้องการเห็นพี่ชายทำงานหนัก ...พวกเขาต่างเรียนรู้ที่จะอดทน เพื่อให้คนอีกคนมีความสุข คาโอรุ มักจะพูดกับโชตะบ่อย ๆ ว่า "หนูรักพี่นะค่ะ .. พี่รู้ไหม" ประโยคง่าย ๆ สั้น ๆ แต่แฝงด้วยความหมายที่ยิ่งใหญ่ เพราะ คาโอรุ รู้มาตลอดว่า โชตะ ไม่ใช่พี่แท้ ๆ แต่เธอก็เลือกที่จะเก็บความรู้สึกเอาไว้เพราะกลัวว่าวันหนึ่งพวกเขาจะไม่ได้อยู่ด้วยกัน และ โชตะ ก็กลัวมาตลอดว่า คาโอรุ จะรู้ความจริงว่าเธอไม่ใช่น้องสาวแท้ ๆของเขา แล้ววันหนึ่งเธอจะหนีจากเขาไป ทั้งคู่จึงตัดสินใจที่จะเก็บความลับนี้ไว้ จนวันสุดท้ายในชีวิตของพวกเขา"
14 กุมภาพันธ์ ... สัมผัสความรักแสนบริสุทธิ์ ที่จะทำให้หัวใจคุณต้องร้องไห้ ที่โรงภาพยนตร์ house Rca ... เอเพ็กซ์ สยามสแควร์ และ SFX เอมโพเรียม
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net