กรุงเทพฯ--14 ม.ค.--อาซิแอม เบอร์สัน-มาร์สเตลเลอร์
เอชพีร่วมพัฒนามาตรฐาน IEEE ใหม่ เผยโฉมอุปกรณ์สวิตช์ HP E-Series ประหยัดไฟรุ่นแรกที่มีคุณสมบัติตรงตามมาตรฐาน IEEE ใหม่ เร่งให้การใช้งานของลูกค้าเร็วขึ้น
เอชพีขึ้นแท่นผู้นำด้านไอทีรายแรกที่ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่มีคุณสมบัติตรงตามมาตรฐาน IEEE ใหม่ ซึ่งเป็นมาตรฐานที่เอชพีร่วมคิดค้นและพัฒนาขึ้นมา เพื่อออกแบบอุปกรณ์ไอทีที่ประหยัดไฟและช่วยลดต้นทุนในการดำเนินงานให้กับลูกค้ามาตรฐาน IEEE (IEEE 802.3az) ใหม่ ส่งผลให้อุปกรณ์ไอทีกินไฟน้อยลง โดยปรับการใช้ไฟให้เป็นไปตามสภาพการทำงานจริงของระบบการสัญจรของข้อมูลบนเครือข่ายระหว่างอุปกรณ์สวิตช์และอุปกรณ์เครือข่ายอื่นๆ แบบเรียลไทม์โดยอัตโนมัติ
อุปกรณ์สวิตช์ HP E-Series zl modules ใหม่เป็นอุปกรณ์สวิตช์รุ่นแรกที่มีคุณสมบัติตรงตามมาตรฐาน IEEE ใหม่ โดยจะปรับเข้าสู่โหมด “sleep” เพื่อหยุดพักการทำงานโดยอัตโนมัติเมื่อไม่มีการรับส่งข้อมูลบนเครือข่าย เอชพีมุ่งเน้นพัฒนาผลิตภัณฑ์ไอทีให้มีคุณภาพตรงตามมาตรฐาน IEEE เพื่อให้อุปกรณ์สวิตซ์และอุปกรณ์ปลายทางอื่นๆ ใช้ไฟลดลง ส่งผลให้ลูกค้ามีต้นทุนในการเป็นเจ้าของลดลงถึงร้อยละ 51
ในช่วงเวลาที่มีการทำงานน้อย ผลิตภัณฑ์ที่สนับสนุนและรองรับมาตรฐาน IEEE จะปรับเข้าสู่โหมด “sleep” ซึ่งใช้ไฟน้อยกว่าโหมดการทำงานปกติ และเมื่อมีการสัญจรของข้อมูลอีกครั้ง อุปกรณ์เครือข่ายจะกลับมาทำงานตามปกติโดยทันที ดังนั้น อุปกรณ์สวิตช์รุ่นใหม่ของเอชพีจึงประหยัดไฟมากกว่าอุปกรณ์สวิตช์รุ่นเก่าๆ ซึ่งกินไฟมากและไม่สอดคล้องกับสภาพการสัญจรของข้อมูลที่เกิดขึ้นจริง
เอชพี ผู้นำด้านการพัฒนามาตรฐานอุตสาหกรรมสำหรับอุปกรณ์เครือข่าย
เนื่องจากการทำงานของระบบเครือข่ายส่วนใหญ่เป็นกิจกรรมที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและฉับพลัน ดังนั้น อุปกรณ์เครือข่ายจึงเป็นแพลทฟอร์มที่จำเป็นต้องมีกรอบการทำงานตามมาตรฐาน IEEE ที่ควบคุมการใช้พลังงานให้สอดคล้องกับการสัญจรของข้อมูลบนระบบเครือข่าย
ในอนาคต มาตรฐานประหยัดพลังงาน IEEE จะนำมาใช้กับอุปกรณ์ไอทีหลากหลายประเภท อาทิ เครื่องเซิร์ฟเวอร์ คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ค และอุปกรณ์เชื่อมต่อแบบไร้สาย ช่วยให้อุปกรณ์ดังกล่าวกินไฟน้อยลง และส่งผลให้องค์กรต่างๆ มีต้นทุนทางด้านไอทีลดลง
เอชพีเป็นผู้บุกเบิกรวบรวมกลุ่มงานและเวทีแสดงความคิดเห็นด้านไอทีจำนวนหลายร้อยแห่งเข้าไว้ด้วยกัน เพื่อนำมาใช้ในการพัฒนาโซลูชั่นด้านเครือข่าย HP Networking ให้มีความยืดหยุ่นและสามารถทำงานร่วมกันได้ ส่งผลให้ลูกค้าได้รับความคุ้มค่าในการทำธุรกิจมากขึ้นด้วยการลงทุนด้านระบบโครงสร้างพื้นฐานไอทีใหม่ๆ แทนการใช้โซลูชั่นลิขสิทธิ์เพียงอย่างเดียว
เอชพีสนับสนุนนักวิจัยชั้นนำในอุตสาหกรรมไอที
วิทยาลัยวิทยาศาสตร์ทางทะเลและภูมิอากาศ (College of Oceanic and Atmospheric Sciences) ในสังกัดของมหาวิทยาลัยโอเรกอน สเตท คือหนึ่งในสถาบันวิจัยภูมิศาสตร์ทางทะเลชั้นนำแห่งสหรัฐอเมริกา โดยคณาจารย์ของสถาบันเป็นผู้มีบทบาทสำคัญในการค้นคว้าและวิจัยทางวิทยาศาสตร์และโครงการศึกษาทางด้านทะเลและอากาศ ภายใต้เครือข่ายการทำงานที่สนับสนุนนวัตกรรมทางเทคโนโลยีอันล้ำสมัยที่ทำให้ระบบเครือข่ายมีสมรรถนะและประสิทธิภาพการทำงานเพิ่มขึ้น และใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
มร. ชัค เซียร์ส ผู้จัดการด้านการประมวลผลการวิจัยด้วยคอมพิวเตอร์ วิทยาลัยวิทยาศาสตร์ทางทะเลและภูมิอากาศในสังกัดของมหาวิทยาลัยโอเรกอน สเตท กล่าวว่า “ผลิตภัณฑ์อีเธอร์เน็ตสวิตช์ใหม่ของเอชพีทำให้เราสามารถจัดเก็บข้อมูลและประมวลผลข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และมีค่าไฟลดลง ทั้งนี้ ด้วยโมดูลผลิตภัณฑ์ใหม่ของเอชพี ทำให้ระบบเครือข่ายของวิทยาลัยมีการทำงานที่สะดวกและคล่องตัวยิ่งขึ้นและมีแบนด์วิธเพิ่มขึ้น สามารถรองรับการทำงานของนักวิจัยได้ดียิ่งขึ้น โดยใช้พื้นที่ในการติดตั้งน้อยลง และกินไฟลดลง”
อุปกรณ์เครือข่าย คือ องค์ประกอบสำคัญของระบบโครงสร้างพื้นฐานแบบผนวก หรือ HP Converged Infrastructure ที่สนับสนุนการทำงานแบบ Instant-On Enterprise ช่วยให้โลกสามารถเชื่อมโยงกันบนระบบเครือข่ายอย่างต่อเนื่อง โดยระบบ Instant-On Enterprise จะนำเทคโนโลยีมาใช้ในทุกกิจกรรมที่ทำเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า พนักงาน พันธมิตร และผู้บริโภคอย่างรวดเร็วและทันที
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโซลูชั่นด้านเครือข่าย HP Networking สามารถเข้าไปดูได้ที่www.hp.com/go/networking
ข่าวประชาสัมพันธ์โดย :
อาซิแอม เบอร์สัน-มาร์สเตลเลอร์
บรากรม์ (บี) หรือ จารุวรรณ (ผึ้ง)
โทรศัพท์ 0-2252-9871-9
แฟกซ์ 0-2254-8353
อีเมล์: barakorn.p@abm.co.th, jaruwan.v@abm.co.th