กรุงเทพฯ--17 ม.ค.--ฮิลล์ แอนด์ นอลตัน
ในช่วงต้นปีเช่นนี้ หลายคนถือเป็นโอกาสอันดีในการเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อชีวิตที่ดีขึ้น สิ่งที่มักจะทำกันคือ การตั้งปณิธานปีใหม่หรือสิ่งที่อยากทำให้สำเร็จ และเพื่อเป็นการต้อนรับสิ่งดีๆ เข้าสู่ชีวิต ฟอร์ด ประเทศไทย ได้ตั้งปณิธานง่ายๆ 10 ข้อ และขอร่วมแบ่งปันเพื่อให้ทุก ๆ คน ปรับเปลี่ยนทัศนคติการขับขี่อย่างชาญฉลาด ประหยัด และปลอดภัย
1. คาดเข็มขัดนิรภัยทุกครั้งยามขับขี่ เข็มขัดนิรภัยเป็นความปลอดภัยขั้นพื้นฐานในการขับขี่ที่ทุกๆ คนไม่ควรลืม เพียงแค่ 2 วินาทีในการคาดเข็มขัดนิรภัย ก็สามารถช่วยป้องกันไม่ให้คนขับและผู้โดยสารหลุดออกจากตัวรถ ทั้งยังช่วยป้องกันการกระแทกกับพวงมาลัยยามเกิดอุบัติเหตุ สำหรับวิธีการคาดเข็มขัดนิรภัยที่ถูกต้องนั้น ควรให้ส่วนล่างของเข็มขัดนิรภัยทาบไปกับกระดูกเชิงกราน ในระดับที่ต่ำกว่าเข็มขัดธรรมดาประมาณ 5-10 เซนติเมตร ส่วนบนพาดทแยงกระดูกไหปลาร้า และระวังอย่าให้สายเข็มขัดนิรภัยพาดชิดลำคอมากเกินไป เพราะหากประสบอุบัติเหตุ จะทำให้ถูกเข็มขัดนิรภัยรัดคอได้
2. ขับไม่โทร โทรไม่ขับ โทรศัพท์มือถือนับเป็นอวัยวะที่ 33 ของคนทั่วโลก อย่างไรก็ตามการใช้โทรศัพท์มือถือระหว่างขับรถนับเป็นเรื่องที่อันตรายมาก เพราะทำให้สมาธิของผู้ขับขี่น้อยลง หากเลี่ยงไม่ได้ควรใช้แฮนด์ฟรีเพื่อความปลอดภัย หรือเลือกซื้อรถที่สามารถเชื่อมต่อโทรศัพท์ผ่านบลูทูธเข้ากับระบบ Voice Control ภายในรถเพื่อให้สามารถรับสายได้ในขณะขับรถโดยที่มือทั้งสองยังสามารถอยู่ที่พวงมาลัย และสายตาจับจ้องอยู่บนท้องถนนได้ตลอดเวลา
3.อ่านคู่มือประจำรถ การอ่านคู่มือประจำรถเป็นสิ่งที่ง่ายที่สุดในการทำความรู้จักรถของคุณ แต่คนส่วนใหญ่กลับมองข้ามจนบางครั้งนึกไม่ถึงว่ารถของคุณทำอะไรเด็ดๆ ได้มากมาย เพียงเพราะมองข้ามคู่มือรถที่มีอยู่นั่นเอง นอกจากนี้การอ่านคู่มือประจำรถยังช่วยให้คุณประหยัดค่าดูแลรักษารถได้มาก อย่างเช่น รถฟอร์ดรุ่นใหม่ ๆ หลายรุ่นสามารถเปลี่ยนน้ำมันเครื่องที่ 15,000 กิโลเมตร แทนที่จะเป็น 5,000 กิโลเมตร หรือมีรอบการตรวจเช็คทุกๆ 15,000 กิโลเมตร ไม่ใช่ทุก 10,000 กิโลเมตร เป็นต้น
4. ตรวจเช็คสภาพอากาศและความพร้อมของรถ ควรหมั่นตรวจเช็คสภาพของที่ปัดน้ำฝน และเติมน้ำยาล้างกระจกไม่ให้ขาด เพราะเราอาจจำเป็นต้องใช้ได้ทุกเมื่อ นอกจากนี้ยังมีสิ่งที่ควรระวังในการขับรถหน้าฝนได้แก่ ไม่ควรเร่งเครื่องยนต์อย่างทันทีทันใด รวมถึงการรักษาระยะห่างจากรถคันหน้ามากกว่าสภาวะปกติ เป็นต้น
5. ศึกษาเทคโนโลยีและอุปกรณ์ที่มากับรถ เพื่อการใช้ประโยชน์อย่างคุ้มค่าและปลอดภัย ในปัจจุบัน บริษัทผลิตรถยนต์ได้พัฒนาและติดตั้งเทคโนโลยีที่ช่วยให้เพิ่มสมรรถนะการขับขี่ให้ปลอดภัยยิ่งขึ้น ดังนั้น ผู้ขับขี่ควรศึกษาและทำความเข้าใจในเทคโนโลยีเหล่านี้ด้วย ตัวอย่างเช่น เรามักจะคุ้นกับการเหยียบเบรคซ้ำๆ เมื่อเกิดการลื่นหรือชน แต่สำหรับรถที่ติดตั้งระบบเบรกป้องกันล้อล็อก (ABS) การเหยียบเบรคซ้ำๆ เป็นการลดประสิทธิภาพของระบบเบรกป้องกันล้อล็อก เนื่องจากโดยปกติแล้วระบบเบรกป้องกันล้อล็อกจะทำงานโดยอัตโนมัติเมื่อระบบตรวจจับการเบรกอย่างกระทันหันในทุกช่วงความเร็ว เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพควบคุมรถได้ดียิ่งขึ้น
6. พัฒนาทักษะการขับขี่อย่างสม่ำเสมอ หลายคนเรียนขับรถด้วยตัวเองทำให้ขาดทักษะการขับขี่อย่างถูกต้อง ซึ่งอาจทำให้เกิดอันตรายได้ในอนาคต ด้วยเหตุนี้เอง ฟอร์ดจึงได้จัดโครงการ Driving Skills for Life — ฉลาดขับ ประหยัด ปลอดภัย ขึ้นเพื่อเป็นการเสริมความปลอดภัยบนท้องถนนแก่บุคคลทั่วไป ผ่านการจัดฝึกอบรมเพื่อให้ความรู้และทักษะการขับขี่ปลอดภัย รวมทั้งเทคนิคการขับขี่ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมันอย่างมีประสิทธิภาพด้วยตัวคุณเอง โดยจัดการอบรมทั้งภาคทฤษฏีและการฝึกภาคสนาม สำหรับผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ฟอร์ด คอลเซนเตอร์ โทร. 0-2686-5899 หรือเว็บไซต์ www.ford.co.th
7. ขับรถด้วยท่าที่ถูกต้อง การนั่งในท่าที่ถูกต้องมีความสำคัญต่อความปลอดภัยในการขับขี่อย่างมาก ผู้ขับขี่ควรนั่งให้สะโพกชิดพักพิงมากที่สุด ใช้ข้อมือหรือการจับพวงมาลัยและยืดแขนให้ตรงเป็นการวัดระยะห่างในการปรับเบาะที่นั่งที่เหมาะสมที่สุด การนั่งขับด้วยท่าและตำแหน่งที่ไม่ถูกต้องนอกจากจะส่งผลต่อความปลอดภัยในขณะขับแล้ว ยังก่อให้เกิดอาการบาดเจ็บในระหว่างการขับแบบซ้ำซาก หรือที่ภาษาทางการแพทย์เรียกว่า RDI หรือ Repetitive Driving Injury นอกจากนี้ยังไม่ควรนั่งชิดพวงมาลัยหรือห่างจากพวงมาลัยมากเกินไป เคลียร์พื้นที่ใต้เบาะนั่งด้านผู้ขับขี่ตลอดเวลา หลีกเลี่ยงการแขวนหรือวางตุ๊กตาบริเวณคอนโซลหน้าหรือกระจกหลัง และไม่ควรสวมใส่รองเท้าส้นสูงหรือส้นตึกขณะขับรถ
8. ตรวจเช็คลมยางและยางสำรองอยู่เสมอ การตรวจสอบลมยางตามที่แนะนำในคู่มือผู้ใช้รถหรือป้ายแสดงซึ่งติดอยู่บริเวณประตูจะช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่รวมถึงประหยัดน้ำมันด้วย สำหรับความถี่ในการตรวจเช็คและเติมลมยางนั้นควรทำสัปดาห์ละ 1 ครั้งเพื่อให้ลมยางอยู่ในระดับที่เหมาะสม เนื่องจากโดยปกติแล้วความดันลมยางจะลดต่ำลงได้เองตามธรรมชาติ
9. เตรียมพร้อมอยู่เสมอ เมื่อคุณอยู่บนท้องถนนแล้ว พึงระลึกไว้เสมอว่าอุบัติเหตุสามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ดังนั้นคุณจึงควรเตรียมพร้อมโดยการเตรียมอุปกรณ์ฉุกเฉินติดรถอยู่ตลอดเวลา สิ่งที่ควรมีติดรถ คือ แม่แรงยกรถและประแจถอดล้อ สายพ่วงแบตเตอรี่สายลากจูงรถ ไฟฉาย ป้ายสามเหลี่ยมฉุกเฉินและขวดน้ำ นอกจากนี้ควรบันทึกหมายเลขโทรศัพท์ตำรวจและบริการช่วยเหลือฉุกเฉินในมือถือด้วย สำหรับบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง ทั่วประเทศ เช่น บริการช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมงของฟอร์ด (Ford Roadside Assistance) สามารถติดต่อได้ที่ 1800-222-000 หรือ 1401-222-000
10.ระลึกถึงกฏ 3 วินาทีเมื่ออยู่บนท้องถนน ถึงแม้ว่ารถยนต์ในปัจจุบันจะมีพัฒนาการด้านเทคโนโลยีด้านสมรรถะและความปลอดภัยในหลายๆ ด้าน แต่ในขณะเดียวกันอุบัติเหตุที่เกิดจากการชนท้ายคันหน้ามักเป็นอุบัติเหตุที่ทุกคนคุ้นตา ผู้ขับขี่จึงควรระลึกถึงระยะห่างที่ปลอดภัยในการขับรถอยู่เสมอ แนวคิดของกฎ 3 วินาที เป็นการเตือนให้ผู้ขับขี่ไม่ขับจี้รถคันหน้าโดยเว้นระยะที่สามารถหยุดรถได้ภายในเวลา 3 วินาทีในสภาวะปกติ และ 6 วินาทีในสภาวะถนนลื่น หรือฝนตกเพื่อลดอุบัติเหตุบนท้องถนน