กรุงเทพฯ--17 ม.ค.--ฐิติกร
- ย้ำต้นทุนดอกเบี้ยของบริษัทฯ ยังต่ำ
- ตลาดรถจักรยานยนต์ ยังคงเติบโตต่อเนื่อง
บริษัท ฐิติกร จำกัด (TK) ซึ่งเป็นบริษัทผู้ให้สินเชื่อรถจักรยานยนต์รายใหญ่ที่สุดในประเทศไทย เชื่อมั่นการปรับอัตราดอกเบี้ยของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) เมื่อเร็วๆ นี้ จะไม่ส่งผลกระทบต่อผลประกอบการของบริษัทฯ ทั้งนี้เพราะเงินกู้ส่วนใหญ่ของบริษัทฯเป็นเงินกู้ระยะยาวจากสถาบันการเงินและการออกหุ้นกู้ระยะยาว 3-5 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ต่ำกว่า 4.2% ต่อปี ทั้งนี้ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการวางแผนทางการเงินอย่างระมัดระวังของบริษัท ทำให้ได้รับการจัดอันดับเครดิตจากทริสเรทติ้งที่ A- ทำให้บริษัทได้รับเงื่อนไขสินเชื่อที่ดีจากสถาบันการเงินและนักลงทุน
นางสาวปฐมา พรประภา กรรมการผู้จัดการบริษัท ฐิติกร จำกัด เปิดเผยว่าจนถึงขณะนี้ TK ได้ใช้วงเงินสินเชื่อไปแล้วเพียง 4 พันล้านบาท ซึ่งคิดเป็นประมาณ 60% ของวงเงินทั้งหมด บริษัทยังเหลือสภาพคล่องอีกเป็นจำนวนมากเพียงพอที่สามารถนำมาขยายสินเชื่อรถจักรยานยนต์และรถยนต์
ปัจจุบัน TK มีพอร์ตสินเชื่อประมาณ 7,000 ล้านบาท โดยประมาณ 80% เป็นพอร์ตสินเชื่อเชื่อซื้อรถจักรยานยนต์ ส่วนที่เหลือเป็นพอร์ตสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์
“เราจะยังคงรักษาอัตรานี้ต่อไปเพราะตลาดรถมอเตอร์ไซด์นั้นยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง และเราเองก็มีความเชี่ยวชาญการให้สินเชื่อตลาดรถจักรยานยนต์ ซึ่งให้อัตราผลตอบแทนที่ดีกว่า ตลอดจนเราเป็นผู้นำอันดับ 1 ในตลาดมากกว่า 20 ปี ทำให้เราสามารถก้าวกระโดดได้ในภาวะที่ตลาดรถจักรยานยนต์มีแนวโน้มขยายตัว” นางสาวปฐมากล่าว
นางสาวปฐมากล่าวเพิ่มเติมว่าตลาดรถจักรยานยนต์ในปี 2554 จะยังคงเติบโตต่อไป โดยคาดว่าจะเติบโตประมาณ 5% จาก 1.8 ล้านคันเมื่อปีที่แล้ว มาเป็น 1.9 ล้านคันในปีนี้ ในขณะที่ยอดการปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ของ TK เมื่อปีที่แล้วประมาณ 1 แสน 4 หมื่น คัน ในปีนี้ TK คาดว่ายอดการปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์จะเติบโตอีก 10%
“ปีที่แล้ว ถือว่าเป็นปีที่ดีมากสำหรับเรา โดยในช่วง 3 ไตรมาสแรกของปีที่แล้ว TK มีกำไรสุทธิที่ 393.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 66.7%จากช่วงเดียวกันของปี 2552 ซึ่งผลการดำเนินงานเพียง 3 ไตรมาสนั้นสูงกว่าผลประกอบการของทั้งปีของปี 2552 ที่มีกำไรสุทธิที่ 333.81 ล้านบาท แล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งผลประกอบการของไตรมาสสุดท้ายของปีที่แล้ว ก็ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง เราจึงถือว่าปี 2553 ถือเป็นปีที่ดีมากของเรา” นางสาวปฐมากล่าว
นางสาวปฐมากล่าวอีกว่าแม้ว่ามีความกังวลในภาวะเศรษฐกิจในปีใหม่นี้ TK เชื่อมั่นว่าตลาดรถจักรยานยนต์จะยังคงเติบโตอีกประมาณ 5% ทั้งนี้เพราะผลจากการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลผ่านโครงการประชาวิวัฒน์ จะส่งผลต่อการกระตุ้นกำลังซื้อของประชาชน ซึ่งย่อมส่งผลดีต่อยอดขายรถจักรยานยนต์และรถยนต์อย่างแน่นอน
นางสาวปฐมากล่าวว่าภายใต้นโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลที่ผ่านมา ได้ส่งผลดีต่อกำลังซื้อของประชาชนในต่างจังหวัดมากกว่าในเขตกรุงเทพมหานคร จึงทำให้ TK ตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนการให้สินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ในเขตต่างจังหวัดเพิ่มขึ้นจากปัจจุบัน 60% มาเป็น 65% ในปีนี้ และภายใน 3 ปีข้างหน้า สัดส่วนตลาดต่างจังหวัดจะเพิ่มขึ้นเป็น 80% ตามตัวเลขจริงของตลาดรถจักรยานยนต์