กรุงเทพฯ--17 ม.ค.--สำนักงานที่ปรึกษาการเกษตร ประจำกรุงปักกิ่ง
เมื่อวันที่ ๑๒ ม.ค. ๕๔ ที่ผ่านมาเวบไซต์ยางพาราจีนเผยว่า มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีเมืองชิงเต่าได้ร่วมมือกับสมาคมอุตสาหกรรมยางพาราแห่งประเทศจีน เทศบาลเขต Si Fang เมืองชิงเต่า มณฑลซานตง และบริษัทRuan Kong จำกัดมหาชน เซ็นสัญญาความร่วมมือทางยุทธศาสตร์ในการสร้างเมืองชิงเต่าให้เป็นศูนย์กลางยางพาราจีน โดยปัจจุบันเมืองชิงเต่าได้มีโครงการตั้งศูนย์วิจัยและพัฒนายางพาราประสิทธิภาพสูงจากบริษัท LANXESS ประเทศเยอรมัน และศูนย์วิจัยและพัฒนา Polyurethane จากกลุ่มบริษัท China North Industries Group Corporation(CNGC) เป็นต้น และในปี ๒๕๕๓ กระทรวงศึกษาธิการจีนยังได้ตั้งศูนย์ฯแห่งนี้เป็น“ศูนย์เทคโนโลยีของมหาวิทยาลัยแห่งชาติ” นอกจากนี้ศูนย์ฯยังได้ถูกบรรจุให้อยู่ในแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมเมืองชิงเต่า ๕ ปี ฉบับที่ ๑๒
“ศูนย์กลางยางพาราจีน”แห่งนี้มีความพิเศษจากจุดเด่นในด้านการวิจัยและพัฒนายางพาราของมหาวิทยาลัย และข้อได้เปรียบด้านกิจการอุตสาหกรรมของบริษัท Ruan Kong
โดยได้กำหนดแนวทางการพัฒนาดังนี้คือ สร้างรูปแบบการพัฒนากิจการยางพาราเชิงนิเวศน์ สร้างพื้นที่การค้ายางพาราที่มีความเป็นเสรี เพื่อเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาอุตสาหกรรมยางพารา และมีบทบาทสำคัญ ๖ ด้านคือ “การศึกษาวิจัย บ่มเพาะและสร้างงาน จัดงานแสดงสินค้าและพาณิชย์ จัดนิทรรศการและวัฒนธรรมเป็นเวทีนำเสนอข้อมูล และเป็นศูนย์กลางการระดมทุน” อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีชิงเต่า นาย Ma Lian Xiang กล่าวว่า ศูนย์กลางยางพาราจีน ในอนาคตจะกลายเป็น แหล่งบ่มเพาะแบรนด์สินค้าที่มีชื่อเสียง เป็นศูนย์กลางการสั่งซื้อสินค้ายางพาราระดับโลก ศูนย์กลางรับซื้อและแสดงสินค้านานาชาติ ศูนย์กลางการซื้อขายโดยระบบดิจิตอล ศูนย์กลางฝึกอบรมและแลกเปลี่ยนบุคลากรนานาชาติ และเป็นศูนย์กลางวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีนวัตกรรมระดับโลก โดยจะใช้การบริหารจัดการองค์กรรูปแบบใหม่ที่มีโครงสร้างการบริหารโดยใช้นิติบุคคล เพื่อสร้างศูนย์ฯแห่งนี้ให้มีชื่อเสียงระดับโลกเทียบได้กับAkron Rubber City ของประเทศสหรัฐอเมริกา
นายกสมาคมยางพาราจีน นาย Fan Rende กล่าวว่า ช่วงเวลาในแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ๕ ปี ฉบับที่ ๑๑ (๒๕๔๙-๒๕๕๓) นับเป็นช่วงเวลาที่อุตสาหกรรมยางพาราจีนมีการพัฒนาอย่างรวดเร็วเป็นประวัติการณ์ โดยเทียบระหว่างปี ๒๕๔๘ กับ ๒๕๕๓ ผลิตผลมวลรวมของอุตสากรรมยางพาราประเทศมีการเติบโตเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ ๑๗๕.๘๒ เป็นพื้นฐานที่ดีในการส่งเสริมพัฒนาอุตสาหกรรมยางพาราจีนให้เข้มแข็งระดับโลก ดังนั้นช่วงแผนแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ๕ ปี ฉบับที่ ๑๒ (๒๕๕๔-๒๕๕๘) จึงเป็นช่วงเวลาสำคัญของจีนในการก้าวขึ้นไปเป็นประเทศอุตสาหกรรมยางพาราสำคัญของโลก การเซ็นสัญญาก่อตั้งศูนย์กลางยางพาราจีนในครั้งนี้จะช่วยส่งเสริมให้เกิดการปรับรูปแบบการพัฒนาโครงสร้างผลิตภัณฑ์และอุตสาหกรรมยางพาราในประเทศ เพื่อแสวงหาการพัฒนารูปแบบใหม่ในอุตสาหกรรมยางพาราจีน