กรุงเทพฯ--2 ส.ค.--แบรนด์คอม คอนซัลแทนส์
เมื่อเร็วๆ นี้ บริษัท แกล็กโซสมิทไคล์น หรือ จีเอสเค ประกาศเจตนารมณ์บริจาควัคซีน H5N1 จำนวนสูงถึง 50 ล้านโด๊สให้กับองค์การอนามัยโลก วัคซีนที่จะบริจาคเป็นวัคซีนที่ใช้ฉีดในมนุษย์เพื่อเตรียมสร้างภูมิคุ้มกันต่อเชื้อ H5N1 ก่อนที่จะเกิดการระบาดใหญ่ของโรคไข้หวัดใหญ่ โดยวัคซีนที่บริจาคในครั้งนี้จะช่วยเพิ่มปริมาณวัคซีนสำรอง (stockpile) เพื่อใช้ก่อนการเกิดการระบาดใหญ่ ซึ่งจะช่วยให้องค์การอนามัยโลกสามารถแจกจ่ายวัคซีนให้แก่ประเทศที่ยากจนได้ทันเวลา จีเอสเควางแผนที่จะจัดส่งวัคซีนให้แก่องค์การอนามัยโลกภายในระยะเวลาสามปี และจะมากพอสำหรับประชากรจำนวน 25 ล้านคน โดยแต่ละคนจะต้องรับการฉีดวัคซีนจำนวน 2 ครั้ง
องค์การอนามัยโลกระบุว่า การระบาดใหญ่ของไข้หวัดใหญ่ถือเป็นมหันตภัยที่ร้ายแรงต่อประชากรทั่วโลก เนื่องจากทำให้เกิดการเจ็บป่วยและเสียชีวิตของประชากรเป็นจำนวนมาก องค์การอนามัยโลกชี้ให้เห็นถึงความจำเป็นที่จะต้องมีการสำรองวัคซีนเตรียมสร้างภูมิคุ้มกันต่อเชื้อ H5N1 (H5N1 pre-pandemic influenza vaccines) ในระดับนานาประเทศ เพื่อใช้ป้องกันก่อนเกิดการระบาดใหญ่ นโยบายดังกล่าวได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลของ 193 ประเทศ ที่เข้าร่วมประชุมสมัชชาขององค์การอนามัยโลก ณ กรุงเจนีวา เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา โดยจีเอสเคได้ให้การสนับสนุนแผนเตรียมพร้อมควบคุมสถานการณ์ขององค์การอนามัยโลก ซึ่งจะช่วยชีวิตประชากรโลกได้นับล้านๆ คน โดยเฉพาะผู้ที่มีความเสี่ยงสูงในที่กรณีเกิดการระบาดอย่างรุนแรงและรวดเร็วไปทั่วโลก
แม้ขณะนี้จะยังไม่สามารถระบุสายพันธุ์ที่แน่ชัดของเชื้อไวรัส ที่จะทำให้เกิดไข้หวัดใหญ่ระบาดใหญ่ (pandemic flu) ทั่วโลกได้ แต่ผู้เชี่ยวชาญหลายท่านเชื่อว่าสายพันธุ์ไข้หวัดนก H5N1 ซึ่งปัจจุบันสามารถพบได้ในนกชนิดต่างๆ ทั่วโลกนั้น มีโอกาสก่อให้เกิดการระบาดไปทั่วโลกได้อย่างรวดเร็ว และในการผลิตวัคซีนเพื่อรับมือกับการระบาดของเชื้อไวรัสที่มีอยู่แล้วนั้น จะต้องระบุสายพันธุ์ได้แน่ชัด และต้องใช้ระยะเวลาในการผลิตอีกประมาณ 4-6 เดือน ด้วยเหตุนี้ การป้องกันก่อนที่จะเกิดการระบาดใหญ่จึงเป็นสิ่งที่มีความจำเป็นอย่างยิ่ง
นอกจากการบริจาควัคซีนให้แก่องค์การอนามัยโลกแล้ว ทางบริษัท จีเอสเค ยืนยันเจตนารมณ์ที่จะผลิตวัคซีน H5N1 ให้กับองค์การอนามัยโลกในราคาพิเศษ เพื่อนำไปช่วยเหลือประเทศต่างๆ ในโครงการ GAVI ซึ่งเป็นโครงการช่วยเหลือประเทศยากจน รวมทั้งประเทศที่มีรายได้น้อย ในราคาที่เหมาะสมกับรายได้ของประเทศ
ในขณะเดียวกันทาง จีเอสเค ได้เตรียมการที่จะผลิตสารเสริมภูมิคุ้มกัน (adjuvant) มาจำหน่ายในราคาพิเศษแก่รัฐบาลของประเทศต่างๆ สารเสริมภูมิคุ้มกันเป็นสารสำคัญในวัคซีนที่จะช่วยกระตุ้นให้ภูมิคุ้มกันตามธรรมชาติของร่างกายตอบสนองต่อแอนติเจนของวัคซีนได้ดียิ่งขึ้น เพื่อเป็นการช่วยเหลือให้แต่ละประเทศสามารถผลิตวัคซีน H5N1 ในปริมาณที่เพิ่มมากขึ้น และสามารถนำไปใช้กับประชากรในประเทศของตนได้จำนวนมากขึ้น ทั้งหมดนี้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของจีเอสเคในการให้ความร่วมมือกับภาครัฐและองค์กรนานาชาติ เช่น องค์การอนามัยโลก เพื่อหาหนทางแก้ไขสถานการณ์ที่มีโอกาสก่อให้เกิดวิกฤตต่อการสาธารณสุขทั่วโลก
Jean-Pierre Garnier, ประธานกรรมการบริหารของบริษัท แกล็กโซสมิทไคล์น (จีเอสเค) กล่าวว่า“การแพร่ระบาดใหญ่ของไข้หวัดใหญ่นั้น สร้างความเสียหายให้กับประเทศที่ยากจนทั่วโลก บริษัท จีเอสเค ในฐานะผู้ผลิตเวชภัณฑ์และวัคซีน ถือเป็นความรับผิดชอบในการให้ประชาชนในประเทศยากจนได้เข้าถึงยาและวัคซีน การประกาศบริจาควัคซีนในครั้งนี้ จะเป็นการเพิ่มบทบาทของจีเอสเคในการให้ความร่วมมือกับองค์การอนามัยโลกในการหาวิธีรับมือกับสถานการณ์ที่อาจทำให้เกิดวิกฤตด้านสาธารณสุขทั่วโลก”
ตั้งแต่ปี พศ. 2543 เป็นต้นมา จีเอสเคได้ทำการลงทุนเป็นจำนวนเงินกว่าสองพันล้านเหรียญสหรัฐ ในการขยายโรงงานเพื่อเพิ่มกำลังการผลิตและทำการวิจัยวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ และวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสชนิดต่างๆ โดยจีเอสเคจะดำเนินงานร่วมกับองค์การอนามัยโลกเพื่อจัดทำข้อมูลรายละเอียดของการบริจาควัคซีนดังกล่าวต่อไป
ข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ :
บริษัท แบรนด์คอม คอนซัลแทนส์ จำกัด
คุณไพลิน บูรณะมิตรานนท์ / คุณพัชรี คุวากร
โทร. 02 645 0171 (32 สาย) แฟกซ์. 02 645 0170