ภาวะตลาดทองคำวันนี้

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday January 19, 2011 10:15 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--19 ม.ค.--เอ็มทีเอส โกลด์ ฟิวเจอร์ ข้อมูลทองคำวันนี้ - ราคาสมาคม เปิดที่ 19,800 - 19,900 - ราคา Gold Spot เปิดที่ 1,373 - อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท 30.45 — 30.49 - GFG11 Hi- Low 19,980 — 19,890 ปิดที่ 19,950 Gold Insight สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนก.พ.เพิ่มขึ้น 7.7 ดอลลาร์ ปิดที่ 1368.20 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1375.2 - 1367.2 ดอลลาร์ เนื่องจากนักลงทุนเข้ามาช้อนซื้อเก็งกำไรหลังจากสัญญาทองคำร่วงลงกว่า 26 ดอลลาร์เมื่อวันศุกร์ นอกจากนี้ การรที่สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับยูโร ยังเป็นอีกปัจจัยที่กระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำด้วยเช่นกัน ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 50.55 จุด หรือ 0.43% ปิดที่ 11,837.93 จุด ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 1.78 จุด หรือ 0.14% ปิดที่ 1,295.02 จุด และดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้น 10.55 จุด หรือ 0.38% ปิดที่ 2,765.85 จุด เพราะได้แรงหนุนจากผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทสหรัฐ รวมถึงโบอิ้ง โค และแคเตอร์พิลลาร์ ซึ่งข้อมูลดังกล่าวช่วยให้นักลงทุนผ่อนคลายความกังวลเกี่ยวกับทิศทางของบริษัทแอปเปิล ภายหลังจากที่นายสตีฟ จ็อบส์ ซีอีโอของแอปเปิล ประกาศลาหยุดงานเพื่อเข้ารับการรักษาสุขภาพร่างกายอีกครั้ง สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX ส่งมอบเดือนก.พ.ลดลง 16 เซนต์ ปิดที่ 91.38 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากบริษัท อัลเยสกา ไพพ์ไลน์ ประกาศว่าการซ่อมแซมรอยรั่วที่ท่อส่งน้ำมันทรานส์ อะแลสกา เสร็จเรียบร้อยแล้ว และได้เริ่มลำเลียงน้ำมันไปยังสหรัฐแล้ว นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันหลังจากเจ้าหน้าที่ของสำนักงานพลังงานสากล (IEA) คาดว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) จะเพิ่มเพดานการผลิตน้ำมัน กองทุน SPDR Gold Trust กองทุนทองคำใหญ่ที่สุดในโลก รายงานการเข้าถือทองคำถึง ณ. วันที่ 19 มกราคม ขายออก 2.43 ตัน เปลี่ยนแปลงการถือครองจากระดับ 1,259.33 ตัน เข้าสู่ระดับ 1,256.90 ตัน USD/EU ค่าเงินยูโรพุ่งขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (18 ม.ค.) ขานรับรายงานดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจของกลุ่มผู้บริโภคในเยอรนีที่พุ่งขึ้นเกินคาดในเดือนธ.ค. ขณะที่สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐเคลื่อนตัวผันผวนเนื่องจากนักลงทุนมีท่าทีระมัดระวังการซื้อขายในระหว่างที่ประธานาธิบดีหู จิ่นเทา ของจีนเดินทางเยือนสหรัฐ ค่าเงินยูโรดีดตัวขึ้น 0.70% แตะที่ 1.3385 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันศุกร์ที่ 1.3292 ดอลลาร์สหรัฐ (*หมายเหต - ที่ต้องเทียบกับวันศุกร์เพราะตลาดเงินนิวยอร์กปิดทำการในวันจันทร์ที่ 17 ม.ค.เนื่องในวันมาร์ติน ลูเธอร์ คิง จูเนียร์) โดยค่าเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับค่าเงินสกุลยูโรเช้านี้เปิดตลาดยู่ที่ระดับ1.3431 ดอลลาร์ต่อยูโร USD/JPY ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐทรงตัวเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 82.720 เยน โดยค่าเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับค่าเงินสกุลเยนเช้านี้เปิดอยู่ที่ระดับ 82.28 ต่อดอลลาร์ USD/THB ค่าเงินบาทปิดตลาดเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาอยู่ที่ระดับ 30.49 - 30.54 บาทต่อดอลลาร์ ซึ่งไม่มีการเคลื่อนไหวมากนักจากการเปิดตลาดในตอนเช้ามากนัก ค่าเงินบาทเช้านี้เปิดตลาดที่ระดับ 30.45 - 30.49 บาทต่อดอลลาร์ ข่าวเศรษฐกิจโลก - สำนักงานสถิติแห่งชาติของอังกฤษ (ONS) เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (ซีพีไอ) เดือนธันวาคมของอังกฤษเพิ่มขึ้น 3.7% ต่อปี จากระดับ 3.3% ในเดือนพฤศจิกายนโดยรายงานของ ONS ระบุว่า การเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่งของดัชนีซีพีไอมีสาเหตุมาจาก การเพิ่มขึ้นของราคาอาหาร น้ำมันเชื้อเพลิง และ ตั๋วเครื่องบิน โดยในช่วงเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม ราคาอาหารในอังกฤษเพิ่มขึ้น 1.6% ค่าขนส่งเพิ่มขึ้น 3.6% และค่าตั๋วเครื่องบินเพิ่มขึ้น 42% ส่วนราคาน้ำมันเชื้อเพลิงและน้ำมันหล่อลื่นเพิ่มขึ้น 2.8% - กระทรวงการคลังสหรัฐเปิดเผย ยอดการซื้อหลักทรัพย์และพันธบัตรระยะยาวของรัฐบาลสหรัฐจากนักลงทุนต่างชาติในเดือนพ.ย.มีมูลค่าทั้งสิ้น 8.51 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนส.ค.ปี 2553 เมื่อเทียบกับยอดซื้อในเดือนต.ค.ที่ระดับ 2.89 หมื่นล้านดอลลาร์ ปัจจัยที่ทำให้นักลงทุนต่างชาติยังคงถือครองหลักทรัพย์และพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐมาจากกระแสความวิตกกังวลเกี่ยวกับวิกฤตหนี้สาธารณะในยุโรป นอกจากนี้ การทะยานขึ้นของตลาดหุ้นนิวยอร์กยังเป็นอีกปัจจัยที่กระตุ้นให้นักลงทุนต่างชาติเข้าซื้อหลักทรัพย์และพันธบัตรสหรัฐ โดยดัชนี S&P 500 พุ่งขึ้นกว่า 21% ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา - ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผย ดัชนีภาคการผลิตในรัฐนิวยอร์กเดือนม.ค.พุ่งขึ้นแตะระดับ 11.9 จุด จากเดือนธ.ค.ปี 2553 ที่ระดับ 9.9 จุด หลังจากยอดสั่งซื้อและยอดขายของโรงงานในรัฐนิวยอร์กปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งบ่งชี้ว่า ความแข็งแกร่งของภาคการผลิตจะยังคงเป็นแรงขับเคลื่อนของการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ - ZEW Center ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยเศรษฐกิจยุโรปเปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นกลุ่มผู้บริโภคในเยอรนีที่มีต่อแนวโน้มเศรษฐกิจในอีก 6 เดือนข้างหน้า พุ่งขึ้นแตะระดับ 15.4 จุดในเดือนม.ค. จากเดือนธ.ค.ที่ระดับ 4.3 จุด สูงกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 8.0 จุด หลังจากยอดการส่งออกและอัตราการอุปโภคบริโภคภายในประเทศปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งเป็นผลมาจากการฟื้นตัวของภาวะเศรษฐกิจและตัวเลขการจ้างงาน - รายงานสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ของสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานสหรัฐในวันพฤหัสบดีนี้ โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า สต็อกน้ำมันดิบจะลดลง 300,000 บาร์เรล สต็อกน้ำมันกลั่นจะเพิ่มขึ้น 1.0 ล้านบาร์เรล สต็อกน้ำมันเบนซินจะเพิ่มขึ้น 2.5 ล้านบาร์เรล นอกจากนี้คาดว่า อัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันจะลดลง 0.2% - สมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติของสหรัฐ (NAHB) เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของกลุ่มธุรกิจสร้างบ้านทรงตัวที่ระดับ 16 จุดในเดือนม.ค. ซึ่งเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกันที่ดัชนีเคลื่อนไหวที่ระดับดังกล่าว และสะท้อนให้เห็นว่า กลุ่มผู้สร้างบ้านมีความระมัดระวังในเรื่องแนวโน้มยอดขายของช่วงหลายเดือนข้างหน้า อีกทั้งยังบ่งชี้ว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์ของสหรัฐยังคงซบเซา - การประชุมของรัฐมนตรีคลังกลุ่มสหภาพยุโรป (อียู) เพื่อหารือกันเรื่องการใช้กลยุทธ์ใหม่ๆในการรับมือกับวิกฤตหนี้เมื่อวานนี้ นอกจากนี้ ที่ประชุมยังหารือกันเรื่องการเพิ่มขนาดและขีดความสามารถในการปล่อยเงินกู้ของกองทุนรักษาเสถียรภาพการเงินยุโรป (EFSF) ซึ่งมีมูลค่า 4.40 แสนล้านยูโร (5.80 แสนล้านดอลลาร์) - ประธานาธิบดีจีนเดินทางเยือนสหรัฐ โดยมีรายงานว่า ภาคธุรกิจจีนและสหรัฐลงนามในสัญญา 6 ฉบับ มูลค่า 600 ล้านดอลลารในรัฐเท็กซัสก่อนที่ประธานาธิบดีหูจะเดินทางเยือนสหรัฐ ซึ่งรวมถึงการทำข้อตกลงนำเข้าฝ้าย การนำเข้าอุปกรณ์ CKD และการทำข้อตกลงในการพัฒนาและใช้งานแผงโซล่าเซลล์คริสตอลซิลิโคนและระบบกำเนิดไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์อย่างมีประสิทธิภาพ ตัวเลขเศรษฐกิจที่น่าจับตา อาทิตย์ที่ ข้อมูลที่น่าจับตา ตัวเลขเดิม ตัวเลข คาดการณ์ ตัวเลขจริง 18 - 19 มกราคม 2554 วันอังคาร ? The Economic and Financial Affairs Council (ECOFIN) - - - ? EmpireStateManufacturing Index 10.6 12.6 11.9 ? TIC Long-Term Purchases 27.6B 43.4B 85.1B วันพุธ ? Building Permits 0.54M 0.56M ? Housing Starts 0.56M 0.55M

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ