กรุงเทพฯ--22 มี.ค.--โทเทิล ควอลิตี้ พีอาร์
นกแอร์ สายการบินคุณภาพสูงในราคาที่คุ้มค่าของคนไทยอย่างแท้จริง มุ่งมั่นสร้างสรรค์ประสบการณ์การเดินทางโดยเครื่องบิน เพื่อมอบให้แก่นักเดินทางทุกท่าน ประกาศความร่วมมือภายใต้แนวคิด “ตราสัญลักษณ์ร่วม” หรือ “Co-branding” ล่าสุดเมื่อวันที่20 ที่ผ่านมา กับสายการบิน เอส จี เอ เพื่อให้บริการเที่ยวบินประจำสู่เส้นทางย่อย เสริมสร้างความแข็งแกร่งของเครือข่ายการบินภายในประเทศให้มากยิ่งขึ้น โดยถือเป็นครั้งแรกในประเทศไทย ที่สองสายการบินได้ผนึกศักยภาพและเพิ่มประสิทธิภาพการบริการ ด้วยแนวคิดดังกล่าว
“กระผมมีความยินดีและภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่ง ที่สายการบิน เอส จี เอ และสายการบินนกแอร์ ได้ร่วมให้บริการเที่ยวบินประจำซึ่งจะทำการบินเชื่อมต่อระหว่างหัวเมืองหลักสู่เมืองรองและย่อยมากมาย การขยายความร่วมมือดังกล่าวนี้ จะช่วยให้ผู้โดยสารของทั้งสองสายการบินได้รับประโยชน์สูงสุด ในการเลือกเดินทางสู่จุดหมายปลายทางต่างๆ ที่ยากต่อการเข้าถึงของเครื่องบินที่มีขนาดใหญ่” กล่าวโดย ดร. เจน ชาญณรงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายการบิน เอส จี เอ “ผู้โดยสารของนกแอร์ที่ทำการบินสู่เชียงใหม่ จะสามารถต่อเที่ยวบินของ เอส จี เอ ด้วยเครื่องบิน เซสน่า 208B แกรนด์ คาราวาน และสามารถชื่นชมทิวทัศน์รอบข้างได้อย่างใกล้ชิดในระดับที่ปลอดภัย มองเห็นสภาพภูมิศาสตร์รอบด้านได้อย่างน่าอัศจรรย์ ทั้งเส้นทางสู่ปาย แพร่ และเชียงราย” ดร. เจน กล่าวเสริม
ภายใต้ความร่วมมือนี้ สายการบินนกแอร์ นำโดย กัปตันสรรใจ บุญมา รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายปฏิบัติการบิน และเจ้าหน้าที่ฝ่ายซ่อมบำรุงจากการบินไทย ได้ร่วมทำการตรวจสอบระบบเครื่องบิน วิธีการบิน รวมถึงนักบิน ของสายการบิน เอส จี เอ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพื่อคงไว้ซึ่งมาตรฐานความปลอดภัยสูงสุด ซึ่ง เอส จี เอ จะทำการดูแลรักษา ซ่อมบำรุงเครื่องบินเอง เนื่องด้วย เอส จี เอ เป็นศูนย์บริการประจำประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ของเครื่องบินรุ่นดังกล่าว
“กระผมและเจ้าหน้าที่ของนกแอร์ทุกคน มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ขยายบริการและผสานความร่วมมือกับสายการบิน เอส จี เอ ครับ” คุณพาที สารสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายการบินนกแอร์ กล่าว “การเพิ่มบริการนี้ มีความสำคัญที่จะช่วยให้สายการบินนกแอร์ก้าวไปถึงจุดมุ่งหมายที่เราตั้งมั่นไว้ นั่นคือการให้บริการแก่พี่น้องชาวไทยได้มีโอกาสเดินทางบ่อยขึ้น เพื่อไปเยี่ยมชมสถานที่สวยงามมากมายของประเทศไทยและได้เยี่ยมเยียนครอบครัว ญาติ พี่น้อง ที่ห่างเหินไปนาน เนื่องจากระยะทางที่อยู่ต่างถิ่น ซึ่งนกแอร์ได้มุ่งมั่นที่จะขยายการบริการอยู่อย่างต่อเนื่องสู่จุดหมายปลายทางมากมายในประเทศ เพื่ออำนวยความสะดวกสบายในการเดินทางสำหรับผู้โดยสารทุกท่านครับ นอกจากนี้ เที่ยวบินเชื่อมต่อสู่เมืองขนาดรองและย่อยเหล่านี้ ยังจะช่วยพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่นและเสริมสร้างการท่องเที่ยวสู่จังหวัดต่างๆที่เราให้บริการ ซึ่งนักท่องเที่ยวหลายท่านอยากจะไปสัมผัสครับ” คุณพาที กล่าวเสริม
ทั้งนี้ สายการบินนกแอร์ และสายการบิน เอส จี เอ จะร่วมให้บริการเที่ยวบินเชื่อมต่อจากเมืองหลักสู่เมืองขนาดรองและย่อย ด้วยสี่เส้นทางบินได้แก่ กรุงเทพฯ — ปาย, กรุงเทพฯ — แพร่, กรุงเทพฯ — เชียงราย และกรุงเทพฯ — หัวหิน ด้วยเครื่องบิน เซสน่า 208B แกรนด์ คาราวาน จำนวน 2 ลำ ขนาด 12 ที่นั่ง โดดเด่นด้วยสีสันสดใสและสไตล์อันเป็นเอกลักษณ์ของนกแอร์ ผู้โดยสารสามารถทำการสำรองที่นั่งผ่านเว็บไซต์ www.nokair.com และ Call Center 1318 ได้ตั้งแต่วันที่ 25 มีนาคม 2550 เป็นต้นไป
อนึ่ง อัตราค่าโดยสารจะคำนวณเป็นสองส่วน ได้แก่ เที่ยวบินของนกแอร์และเอส จี เอ ซึ่งผู้โดยสารจะได้รับความสะดวกสบายในการเลือกชำระค่าโดยสารผ่านช่องทางต่างๆมากมายของนกแอร์ ทั้งนี้ สายการบิน เอส จี เอ ขอมอบสิทธิพิเศษในการเดินทางสำหรับผู้โดยสารทุกท่าน สู่เส้นทางบินต่างๆ ดังนี้
เส้นทางบิน เชียงใหม่ — ปาย แบบเที่ยวบินขาเดียว เพียง 1,450 บาท และแบบไป — กลับ เพียง 2,900 บาท เส้นทางบิน เชียงใหม่ — แพร่ แบบเที่ยวบินขาเดียว เพียง 1,600 บาท และแบบไป — กลับ เพียง 3,200 บาท ภายใน 30 เมษายน 2550 นี้
สำหรับเส้นทางบิน เชียงใหม่ — เชียงราย สายการบิน เอส จี เอ ขอมอบสิทธิพิเศษถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2550 ด้วยราคาแบบเที่ยวบินขาเดียว เพียง 1,900 บาท และแบบไป — กลับ เพียง 3,800 บาท ทั้งนี้ เอส จี เอ จะเริ่มให้บริการเส้นทางบิน เชียงใหม่ — เชียงราย ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2550 เป็นต้นไป
เส้นทางบิน กรุงเทพฯ — หัวหิน อันเป็นเส้นทางบินสู่เมืองชายฝั่งทะเลของ จ. ประจวบคีรีขันธ์ เอส จี เอ ขอมอบสิทธิพิเศษด้วยราคาแบบเที่ยวบินขาเดียว เพียง 3,400 บาท สำหรับผู้ใหญ่ และเด็กเพียง 1,950 บาท หรือแบบไป — กลับ เพียง 5,800 บาท สำหรับผู้ใหญ่ และเด็กเพียง 3,400 บาท โดยเส้นทางบินนี้ จะให้บริการจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
สายการบิน เอส จี เอ
เอส จี เอ เป็นสายการบินขนาดเล็กที่ให้บริการเที่ยวบินเชื่อมสู่เมืองต่างๆ (Commuter Airline) โดยปัจจุบัน ให้บริการเที่ยวบินจากฐานการบินเชียงใหม่สู่ ปาย แพร่ และเชียงราย ทุกวันๆ ละ 1 เที่ยวบิน และจาก กรุงเทพฯสู่หัวหิน ทุกวันๆ ละ 3 เที่ยวบิน ด้วยเครื่องบิน เซสน่า 208B แกรนด์ คาราวาน ขนาด 12 ที่นั่ง โดดเด่นด้วยสีสันสดใสและสไตล์อันเป็นเอกลักษณ์ของนกแอร์
สายการบินนกแอร์
ปัจจุบัน นกแอร์ ให้บริการเที่ยวบินสู่ภูเก็ตมากถึง 7 เที่ยวบินต่อวัน เชียงใหม่ 6 เที่ยวบินต่อวัน หาดใหญ่ 5 เที่ยวบินต่อวัน อุดรธานีและนครศรีธรรมราช 3 เที่ยวบินต่อวัน ตรังมากถึง 2 เที่ยวบินต่อวัน เลย 2 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ ทุกวันจันทร์และเสาร์ ล่าสุดด้วยเที่ยวบินสู่กระบี่ 2 เที่ยวบินต่อวัน ด้วยเครื่องบินโบอิ้ง 737 — 400ที่สามารถรองรับผู้โดยสารได้สูงสุดถึง 156 ที่นั่ง
นอกจากนี้สายการบินนกแอร์ยังเปิดให้บริการเส้นทางบิน “ATR route” เชียงใหม่ — แม่ฮ่องสอน และ เชียงใหม่ — อุดรธานี วันละ 1 เที่ยวบิน ตลอดสัปดาห์ ด้วยเครื่องบิน เอทีอาร์ - 72 ซึ่งสามารถรองรับผู้โดยสารได้ 66 ที่นั่ง เครื่องบินของนกแอร์ดูโดดเด่นด้วยสีสัน และสไตล์ซึ่งถ่ายทอดภาพลักษณ์ที่สดใสของ “นก” นั่นเอง
สำหรับผู้ที่ต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม โปรดติดต่อที่
ณัฐดนัย อนุวงศ์/ เมธาวรินทร์ มณีกูลพันธ์
บริษัท โทเทิล ควอลิตี้ พีอาร์ (ประเทศไทย) จำกัด
โทรศัพท์. 02-260-5820 ต่อ 130 หรือ 162 โทรสาร. 02-260-5847-8 อีเมล์ tqprthai@tqpr.com