กรุงเทพฯ--20 ม.ค.--บลจ.แอสเซท พลัส
บลจ.แอสเซท พลัส เปิดขายและรับซื้อคืนรอบใหม่ กองทุน ASP-MMF1 ลงทุนในตราสารหนี้เอกชนไทย อายุ 3 เดือน ผลตอบแทน 1.95% ต่อปี* วันที่ 25 ม.ค. และกองทุน GBF-3M1 ลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลไทย อายุ 3 เดือน ผลตอบแทน 1.80% ต่อปี* วันที่ 26 ม.ค. นี้
ดร.วิน อุดมรัชตวนิชย์ รองกรรมการผู้จัดการ และหัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหารการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน แอสเซท พลัส จำกัด เปิดเผยว่า จากการที่ธนาคารแห่งประเทศไทยปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีก 0.25% มาอยู่ที่ 2.25% ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลระยะสั้นปรับตัวเพิ่มขึ้น ส?วนอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลช?วงอายุคงเหลือมากกว?า 4 ป? ปรับตัวอย่างผันผวน เนื่องจากนักลงทุนต?างชาติเริ่มกลับเข?ามาลงทุนและซื้อขายทํากําไรในประเทศแถบเอเชียมากขึ้นหลังอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ เริ่มปรับตัวลดลง ขณะที่นักลงทุนในประเทศมีการขายตราสารเพื่อทำกำไร หลังจากที่อัตราดอกเบี้ยนโยบายมีแนวโน้มปรับปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทยมีแนวโน้มผันผวนในระดับสูง ซึ่งน่าจะส่งผลกระทบต่อกองทุนตราสารหนี้ระยะยาวบ้าง
ทั้งนี้ ในแง่ของการลงทุนนั้น ยังคงแนะนำให้ลงทุนในกองทุนตราสารหนี้ระยะสั้นไม่เกิน 6 เดือน เพื่อเพิ่มโอกาสให้ผู้ลงทุนได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนไปตามอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่อาจมีการปรับเพิ่มขึ้นในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ โดยคาดว่าปลายปีนี้อัตราดอกเบี้ยนโยบายน่าจะอยู่ที่ระดับ 2.75-3.00%
ดร.วิน กล่าวเพิ่มเติมว่า ในต้นสัปดาห์หน้าบริษัทฯ จะเปิดขายและรับซื้อคืนรอบใหม่ (Rollover) ตราสารหนี้ระยะสั้น 2 กองทุน
โดยในวันที่ 25 มกราคม 54 บริษัทจะ Rollover กองทุนเปิดแอสเซทพลัสทวีเงินออม 1 (ASP-MMF1) ซึ่งเป็นกองทุนตราสารหนี้ในประเทศ อายุ 3 เดือน โดยรอบการลงทุนนี้ กองทุนจะพิจารณาลงทุนในตั๋วแลกเงินของสถาบันการเงินภาครัฐ และบริษัทเอกชนไทยชั้นนำ คาดว่าสามารถให้ผลตอบแทนหลังหักค่าใช้จ่ายได้อยู่ที่ 1.95% ต่อปี*
และวันที่ 26 มกราคม 54 บริษัทจะ Rollover กองทุนเปิดพันธบัตรคุ้มครองเงินต้น 3M1 (GBF-3M1) ซึ่งเป็นกองทุนตราสารหนี้ไทย ที่เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการลงทุนแบบคุ้มครองเงินลงทุนเริ่มต้น และไม่ชอบความเสี่ยงสูง โดยกองทุนจะพิจารณาลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลไทย 100% อายุ 3 เดือน คาดว่าสามารถให้ผลตอบแทนหลังหักค่าใช้จ่ายได้อยู่ที่ 1.80% ต่อปี *
*รายละเอียดพอร์ตการลงทุนของกองทุนเปิดแอสเซทพลัสทวีเงินออม 1 (ASP-MMF1)
ชื่อตราสาร Credit Rating ผลตอบแทนของตราสารโดยประมาณ สัดส่วนการลงทุนโดยประมาณ ผลตอบแทนจากการลงทุน
โดยTRIS Rating (%ต่อปี)* (%) (%ต่อปี)
ธนาคารออมสิน(GSB) ถือหุ้นใหญ่โดยรัฐบาล 2.14 16.81% 0.36
ธนาคารคาลิยง(Calyon) AA- (S&P) 2.25 16.03% 0.36
บมจ.พฤกษา เรียลเอสเตท (PS) A- 1.88 7.75% 0.15
เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป (MAJOR) A- 2.40 12.85% 0.31
บมจ.ควอลิตี้เฮ้าส์(QH) A- 2.40 7.71% 0.19
บมจ. บัตรกรุงไทย (KTC) BBB+ 2.27 7.89% 0.18
บมจ.เอเชี่ยน พร็อพเพอร์ตี้ (AP) BBB+ 2.50 12.84% 0.32
บริษัท เอเซียเสริมกิจลีสซิ่ง จำกัด (ASK) BBB+ 2.43 18.12% 0.44
รวม 100.00% 2.30
ประมาณการค่าใช้จ่าย 0.35
อัตราผลตอบแทนหลังหักค่าใช้จ่ายโดยประมาณ 1.95
*ผู้ขายตราสาร ณ 17 มกราคม 2554 หากสภาวะตลาดมีการเปลี่ยนแปลงไป ผู้ลงทุนอาจไม่ได้รับผลตอบแทนตามที่ระบุไว้ และตราสารที่ลงทุนอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามสภาวะตลาด หรือตามที่ผู้จัดการกองทุนเห็นสมควร
*รายละเอียดพอร์ตการลงทุนของกองทุนเปิดพันธบัตรคุ้มครองเงินต้น 3M1 (GBF-3M1)
ชื่อตราสาร Credit Rating ผลตอบแทนของตราสารโดยประมาณ สัดส่วนการลงทุนโดยประมาณ ผลตอบแทนจากการลงทุน
(%ต่อปี)* (%) (%ต่อปี)
พันธบัตรรัฐบาล รุ่นCB11421B ตราสารที่ออกโดยรัฐบาล 2.00% 100.00 2.00
อายุ3 เดือน
ประมาณการค่าใช้จ่าย 0.20
อัตราผลตอบแทนหลังหักค่าใช้จ่ายโดยประมาณ 1.80
*สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย ณ วันที่ 17 มกราคม 2554 หากสภาวะตลาดมีการเปลี่ยนแปลงไป ผู้ลงทุนอาจไม่ได้รับผลตอบแทนตามที่ระบุไว้ และตราสารที่ลงทุนอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามสภาวะตลาด หรือตามที่ผู้จัดการกองทุนเห็นสมควร
ติดต่อขอรับข้อมูลเพิ่มเติม
ผู้ลงทุนทั่วไป : Call Center 02-672-1111
สื่อมวลชน : ส่วนงานประชาสัมพันธ์ มุกพิม จุลพงศธร
โทร. 02-672-1000 ต่อ 3308 อีเมล์: mookpim_ch@assetfund.co.th