“ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช” ฉลองความสำเร็จยิ่งใหญ่

ข่าวทั่วไป Monday February 12, 2007 14:35 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--12 ก.พ.--โปรคอมมิวนิเคชั่นส์ แอนด์ คอนซัลแตนท์
ทะลุเป้า 300 ล้านตามคาด มั่นใจภาค 2 แรงยิ่งกว่า สายหนังชื่นชมจังหวะฉายเหมาะกับสถานการณ์บ้านเมือง ช่วยกระตุ้นตลาดหนังไทยให้คึกคัก โดยเฉพาะหลังเหตุบึ้มใน กทม. ทำโรงหนังซบเซา ด้าน เอส เอฟ ฟันธงเป็นหนังไตรภาคของไทยเรื่องแรกที่จะทำเงินเกินพันล้าน
ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช” ภาพยนตร์แห่งอิสรภาพจากผลงานการกำกับของ “ท่านมุ้ย” ม.จ. ชาตรีเฉลิม ยุคล ฉลองความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ด้วยยอดรายได้ 300 ล้านบาทตามความคาดหมาย และกระตุ้นตลาดภาพยนตร์ไทยให้คึกคักตั้งแต่ต้นปี ทั้งยังมีกระแสตอบรับทั่วประเทศที่ยังคงแรงต่อเนื่อง โดยทางบริษัท โกดัก (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท พร้อมมิตรโปรดักชั่น จำกัด ได้จัดเลี้ยงฉลองความสำเร็จพร้อมทั้งขอบคุณผู้ให้การสนับสนุนการดำเนินงานที่โรงแรมเพนนินซูล่า โดยมีผู้เกี่ยวข้องในวงการภาพยนตร์ ผู้จัดจำหน่ายทั่วประเทศ นักแสดง และทีมงานมาร่วมงานเป็นจำนวนมาก
คุณกฤษณัน งามผาติพงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ซึ่งมีโรงภาพยนตร์ในเครือทั้งเมเจอร์และอีจีวีราว 300 แห่งทั่วประเทศ ให้ความเห็นว่า “การที่ท่านมุ้ยสร้างเป็นภาพยนตร์ไตรภาคเรื่องแรกของไทย ทำให้หนังเรื่องนี้มีความน่าสนใจมาก สำหรับภาคแรกก็สนุก ตื่นเต้น มี action ชวนให้ติดตาม โดยไม่ออกแนวสารคดี ในส่วนของ production ก็มีคุณภาพ ทำให้มีการตอบรับที่ดีมาก หลายๆ คนที่ตามปกติไม่ค่อยดูหนังก็ออกมาดูกัน ส่วนกลุ่มนักเรียน นิสิต นักศึกษา ก็มีการจองแบบเหมารอบเกือบทุกวัน และสำหรับโรงภาพยนตร์เปิดใหม่อย่างที่พารากอนและเอสพลานาดก็มีผู้ชมมากเกินคาด โดยภาพรวมจึงพูดได้ว่าเป็นหนังที่ดีและน่าสนใจมากเลยครับ”
ด้าน คุณสุวัฒน์ ทองร่มโพธิ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอส เอฟ ซีเนม่า ซิตี้ จำกัด กล่าวว่า “ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช เป็นหนังเรื่องแรกของปีนี้ที่สามารถทำให้คนจำนวนมากออกจากบ้านเพื่อมาดูหนัง และสร้างความคึกคักให้กับโรงภาพยนตร์อีกครั้งตั้งแต่วันแรกที่เข้าฉาย จากบรรยากาศที่เคยเงียบเหงาหลังเกิดเหตุการณ์วันที่ 31 ธันวาคม 2549 ทั้งยังมีความโดดเด่นที่สามารถทำรายได้ในสัปดาห์ที่ 2 ได้ใกล้เคียงกับสัปดาห์แรก ซึ่งตามปกติแล้วหนังทั่วไปรายได้จะลดลง 30 — 70% อันเป็นเรื่องที่น่ายินดี ส่วนใหญ่เมื่อมาดูแล้วก็ไปพูดคุยกันปากต่อปากจึงมีผู้ชมต่อเนื่อง ในส่วนของการทำหนังภาคแรกซึ่งเป็นช่วงวัยเด็กที่โดยทั่วไปค่อนข้างทำยาก แต่เรื่องนี้สามารถตรึงคนดูให้อยู่กับเก้าอี้ได้เกือบ 3 ชั่วโมงด้วยความสนุกและชวนให้ติดตามตลอดก็เป็นอีกด้านหนึ่งที่น่าชื่นชม โดยเรื่องนี้น่าจะได้รับการจารึกเป็นประวัติศาสตร์ว่าเป็นภาพยนตร์ไตรภาคเรื่องแรกของคนไทยที่ทำรายได้เกิน 1,000 ล้านอย่างแน่นอน และอยากให้ท่านมุ้ยทำหนังอย่างต่อเนื่องให้คนไทยได้ดูปีละเรื่องครับ”
สำหรับความคิดเห็นจากสายหนังต่างจังหวัดนั้น คุณธนพล ธนารุ่งโรจน์ บริษัท ธนาซีนีเพล็กซ์ จำกัด ผู้จัดจำหน่ายภาพยนตร์ในภาคเหนือ 23 จังหวัด และภาคกลาง 8 จังหวัด ซึ่งมีโรงภาพยนตร์กว่า 60 โรง ในกว่า 40 จุดฉาย กล่าวว่า “การตอบรับของผู้ชมดีมาก คนชอบกันมากเพราะหนังสนุก แม้จะยาวกว่าเรื่องอื่นๆ แต่คนดูรู้สึกว่าแป๊บเดียว เพลิดเพลินดี ส่วนใหญ่รอชมภาค 2 กันทั้งนั้น ซึ่งคิดว่าจะทำเงินได้ดีกว่าภาคแรกแน่นอน และถึงภาค 2 เข้า ภาคแรกเราก็จะยังฉายอยู่เพราะมีหลายคนที่รอดูพร้อมๆ กันทั้ง 2 ภาค ที่ผ่านมามีการเหมารอบและจองกันเยอะมาก จนตอนหลังไม่รับจองแล้วเพราะสงสารคนที่มาไกลๆ จากต่างอำเภอ ต่างจังหวัดแล้วไม่ได้ดู หนังเรื่องนี้ทำให้คนรักชาติ ภูมิใจในความเป็นไทย และคิดว่าจะช่วยกระตุ้นตลาดหนังไทย ทำให้คนสนใจดูหนังไทยเรื่องอื่นๆ มากขึ้นด้วยครับ”
ในขณะที่ คุณคมกฤช พิพัฒน์ภานุกูล ผู้จัดการฝ่ายขายและการตลาด บริษัท มูฟวี่ พาร์ท-เนอร์ จำกัด ผู้จัดจำหน่ายภาพยนตร์ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 19 จังหวัด ที่มีโรงภาพยนตร์กว่า 50 โรง ในราว 35 จุดฉาย กล่าวด้วยความชื่นชมว่า “เป็นหนังที่ได้รับคำชมจากทุกหน่วยงานทุกภาคส่วน จากผู้ชมทุกเพศทุกวัย และเฝ้ารอติดตามภาค 2 ภาค 3 กันมาก ซึ่งจะทำให้แรงกว่าภาคแรกแน่นอน สามารถปลุกกระแสความรักความสามัคคีของคนในชาติได้อย่างเหมาะสม ในขณะที่บ้านเมืองกำลังมีปัญหาได้เป็นอย่างดี เป็นหนังคุณภาพที่ทำให้คนอยากดู และทำรายได้ดีมากครับ”
สำหรับภาคใต้ซึ่งตามปกติมียอดรายได้รวมอยู่ในอันดับ 3 รองจากภาคเหนือและภาคอีสาน แต่เรื่องนี้กลับสร้างสถิติใหม่ทำรายได้แซงขึ้นมาเท่ากับอีสานนั้น คุณคมน์ อรรฆเดช ประธานบริษัท โคลีเซี่ยมฟิล์ม จำกัด ผู้จัดจำหน่ายใน 14 จังหวัดภาคใต้ ชี้แจงว่า “การที่กระแสตอบรับจากทางใต้ดีมากเป็นประวัติการณ์ ขนาดนี้ มีองค์ประกอบที่สำคัญ 3 ประการ คือ 1. คุณภาพของหนังที่ดีมากในทุกๆ ด้าน ทั้งการกำกับ การถ่ายทำ นักแสดง ฉาก และอื่นๆ ทั้งหมด ซึ่งเราเชื่อมั่นได้ในผลงานของท่านมุ้ยและทีมงาน 2. จังหวะเวลาที่เข้าฉายเหมาะสมกับเหตุการณ์บ้านเมืองในปัจจุบัน ที่เรากำลังต้องการปลุกกระแสความรักชาติสมานฉันท์ และเรื่องนี้ก็เป็นที่สนใจของผู้ชมอยู่แล้ว รอคอยกันมานาน เมื่อคนมาดูแล้วก็กลับไปพูดกันปากต่อปาก โดยเฉพาะคนใต้ชอบหนังแนว action ด้วย และ 3. คือการทำโฆษณาที่เราลงทุนเต็มที่ในทุกรูปแบบเพื่อให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายทุกพื้นที่ ก็เป็นอีกส่วนหนึ่งที่กระตุ้นความสนใจได้ดี บางจังหวัดที่ไม่มีโรงหนังอย่างสตูล นราธิวาส ก็เดินทางไปดูในจังหวัดใกล้เคียงกันเยอะมาก ประกอบกับปัจจุบันทางใต้ก็มีระบบที่ทันสมัยมากขึ้น ทั้งมัลติเพล็กซ์และ ซีนีเพล็กซ์ต่างๆ ทำให้คนสนใจดูหนังมากขึ้นด้วยครับ”
ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช” ภาค 2 “ประกาศอิสรภาพ” พร้อมปักธงรบประกาศชัยทั่วประเทศ 15 ก.พ. นี้
รายละเอียดเพิ่มเติมกรุณาติดต่อฝ่ายประชาสัมพันธ์ภาพยนตร์ฯ
บริษัท โปรคอมมิวนิเคชั่นส์ แอนด์ คอนซัลแตนท์ จำกัด (PC&C)
โทร. 0 2691 6302 -4, 0 2274 4961 - 2
(ชามานันท์ สุจริตกุล, อุมา พลอยบุตร์, สุขกมล งามสม, อัจฉรา จั่นเพ็ชร, รัตนลักษณ์ นวคุณยิ่งเลิศ)
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ